จับประเด็นหุ้นเด่น
รายงานพิเศษ : โบรกฯประสานเสียงแนะซื้อ PTG Q4 “ฤดูกาลท่องเที่ยว-ราคาหุ้นลดลงมาก”
15 พฤศจิกายน 2566
บล.ทรีนีตี้ผนึก บล.ดาโอ วิเคราะห์หุ้น บมจ.พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG) เชื่อไตรมาส 4 ผลงานกลับมาเติบโตก้าวกระโดด จากฤดูกาลท่องเที่ยวดันยอดใช้น้ำมันพุ่ง สงครามตะวันออกกลางไม่ตึงเครียดเท่าช่วงก่อนหน้าและที่ ผ่านมาราคาหุ้น PTG ปรับลดลงไปกว่า -30% แนะนำ “ซื้อ”สะสม
บล. ทรีนี้ตี้ วิเคราะห์หุ้น บมจ.พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG) โดยระบุว่า PTG ประกาศกำไร3Q23 ต่ำกว่าคาดเหลือเพียง 19 ล้านบาท -89% YoY, -82% QoQ ต่ำกว่าที่เราและตลาดคาดไว้ด้วยปริมาณขายและ Gross Margin ต่อลิตรที่ต่ำกว่าคาด
1) ปริมาณขายอยู่ที่ี 1.4 พันล้านลิตร +10% YoY, -8% QoQ เพิ่มขึ้น YoY ตามปริมาณสถานีบริการน้ำมันที่เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าที่ 1,987 สาขามาเป็น 2,166 หรือ +9% YoY ในขณะที่ปริมาณขายปรับลดลง QoQ เป็นผลมาจาก Seasonal ที่เป็นช่วงหน้าฝน ส่งผลต่อปริมาณการสัญจร
2) Gross Margin ต่อลิตรอยู่ที่ 1.67 บาทต่อลิตร เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนที่ 1.59 บาทต่อลิตร
เราคาดแนวโน้ม 4Q23 จะดีขึ้น QoQ จากช่วง High Season ของฤดูกาลท่องเที่ยวส่งผลให้มีปริมาณขายน้ำมันที่ปรับตัวดีขึ้น และการที่รัฐบาลปรับลดภาษีน่าจะช่วยให้ประชาชนกลับมาใช้น้ำมันเพิ่มขึ้น ในขณะที่เราประเมินว่าราคาน้ำมันน่าจะผันผวนไม่มากหลังจากที่สถานการณ์อิสราเอลเริ่มไม่ตึงเครียดเท่าช่วงก่อนหน้า ทั้งนี้เรามีการปรับประมาณการกำไรปี 2023 ลงเหลือ 600 ล้านบาท จากกำไร 3Q23 ออกมาต่ำกว่าที่คาด แต่ยังคงประมาณการกำไรปี 2024 ที่ 1 พันล้านบาท
คงราคาเป้าหมายปี 2024 ที่ 10.70 อิง Avg PER17 เท่า คงคำแนะนำ ซื้อ โดย 3 เดือน ที่ผ่านมาราคาหุ้น PTG ปรับลดลงไปกว่า -30% ด้วยแนวโน้ม ผลการดำเนินงาน ที่ีอ่อนตัวใน 3Q23 เรามองเป็นจังหวะเข้า ซื้อสะสม แนวโน้ม ผลกำไรน่าจะกลับมาฟื้นตัวใน 4Q23
ความเสี่ยงที่ต้องติดตาม ได้แก่ ความเสี่ยงจากราคาน้ำมันที่ผันผวน และนโยบายภาครัฐ
สอดคล้องกับ บล.ดาโอ ที่ระบุว่า คงคำแนะนำ “ซื้อ” และราคาเป้าหมายที่ 10.00 บาท อิง PER 13X หรือเทียบเท่า -1SD ค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี ทั้งนี้บริษัทประกาศกำไรสุทธิ 3Q23 ที่ 19 ล้านบาท (-89% YoY, -83% QoQ) ต่ำกว่าที่ตลาดประเมินกำไร 63 ล้านบาท โดย YoY ลดลงจากค่าการตลาดที่ถูกกระทบหลังภาครัฐปรับลดราคาดีเซลลง 2 บาทในช่วงปลายไตรมาส 3 ในขณะที่ QoQ ลดลงจาก oil sales volume ตามปัจจัยฤดูกาล
โดยใน 3Q23 oil sale volume อยู่ที่ 1.4 พันล้านลิตร (+10% YoY, -8% QoQ) ในขณะที่ค่าการตลาดอยู่ที่ 1.67 บาท/ลิตร (-16% YoY, +5% QoQ) อย่างไรก็ตามเราคงประมาณการกำไรปกติปี 2023E ที่ 815 ล้านบาท (-13% YoY) แนวโน้ม 4Q23E คาดฟื้นตัวเด่น QoQ จากปัจจัยฤดูกาลหนุนการใช้น้ำมัน
นอกจากนี้ประเมินค่าการตลาดไม่ต่ำกว่า 3Q23 หลังไม่มีปัจจัยใหม่มากระทบ และยังได้ธุรกิจ non-oil ช่วยหนุน โดยหากใน 4Q23E ค่าการตลาดอยู่ระดับ 1.7 และยอดขายน้ำมันเติบโตได้ 12% YoY คาดว่ากำไรทั้งปียังอยู่ในกรอบประมาณการเดิมของเรา
ราคาหุ้น underperform SET กว่า -30% ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา คาดมาจากความผันผวนของค่าการตลาด และความเสี่ยงจากการเข้าแทรกแซงราคาน้ำมันของภาครัฐ อย่างไรก็ตามราคาหุ้นปัจจุบันเทรดอยู่ใกล้ -1SD ซึ่งเป็นกรอบที่ต่ำที่สุดในรอบ 5 ปี เชื่อว่าราคาหุ้น price in ปัจจัยลบไปมากแล้ว
ในขณะที่ 4Q23E คาดกำไรฟื้นตัวเด่นจาก oil sales volume ที่ทำสถิติสูงสุดใหม่ และค่าการตลาดที่กลับมาฟื้นตัว ในขณะที่ทิศทางราคาน้ำมันคาดไม่สูงกว่าระดับปัจจุบันอย่างมีนัยสำคัญจากสมมติฐานภาวะสงครามไม่ขยายวงกว้าง ทำให้โอกาสการแทรกแซงราคาน้ำมันจากภาครัฐมีจำกัด จึงยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาหุ้นมีโอกาสกลับมา outperform ตลาดได้
บล. ทรีนี้ตี้ วิเคราะห์หุ้น บมจ.พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG) โดยระบุว่า PTG ประกาศกำไร3Q23 ต่ำกว่าคาดเหลือเพียง 19 ล้านบาท -89% YoY, -82% QoQ ต่ำกว่าที่เราและตลาดคาดไว้ด้วยปริมาณขายและ Gross Margin ต่อลิตรที่ต่ำกว่าคาด
1) ปริมาณขายอยู่ที่ี 1.4 พันล้านลิตร +10% YoY, -8% QoQ เพิ่มขึ้น YoY ตามปริมาณสถานีบริการน้ำมันที่เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าที่ 1,987 สาขามาเป็น 2,166 หรือ +9% YoY ในขณะที่ปริมาณขายปรับลดลง QoQ เป็นผลมาจาก Seasonal ที่เป็นช่วงหน้าฝน ส่งผลต่อปริมาณการสัญจร
2) Gross Margin ต่อลิตรอยู่ที่ 1.67 บาทต่อลิตร เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนที่ 1.59 บาทต่อลิตร
เราคาดแนวโน้ม 4Q23 จะดีขึ้น QoQ จากช่วง High Season ของฤดูกาลท่องเที่ยวส่งผลให้มีปริมาณขายน้ำมันที่ปรับตัวดีขึ้น และการที่รัฐบาลปรับลดภาษีน่าจะช่วยให้ประชาชนกลับมาใช้น้ำมันเพิ่มขึ้น ในขณะที่เราประเมินว่าราคาน้ำมันน่าจะผันผวนไม่มากหลังจากที่สถานการณ์อิสราเอลเริ่มไม่ตึงเครียดเท่าช่วงก่อนหน้า ทั้งนี้เรามีการปรับประมาณการกำไรปี 2023 ลงเหลือ 600 ล้านบาท จากกำไร 3Q23 ออกมาต่ำกว่าที่คาด แต่ยังคงประมาณการกำไรปี 2024 ที่ 1 พันล้านบาท
คงราคาเป้าหมายปี 2024 ที่ 10.70 อิง Avg PER17 เท่า คงคำแนะนำ ซื้อ โดย 3 เดือน ที่ผ่านมาราคาหุ้น PTG ปรับลดลงไปกว่า -30% ด้วยแนวโน้ม ผลการดำเนินงาน ที่ีอ่อนตัวใน 3Q23 เรามองเป็นจังหวะเข้า ซื้อสะสม แนวโน้ม ผลกำไรน่าจะกลับมาฟื้นตัวใน 4Q23
ความเสี่ยงที่ต้องติดตาม ได้แก่ ความเสี่ยงจากราคาน้ำมันที่ผันผวน และนโยบายภาครัฐ
สอดคล้องกับ บล.ดาโอ ที่ระบุว่า คงคำแนะนำ “ซื้อ” และราคาเป้าหมายที่ 10.00 บาท อิง PER 13X หรือเทียบเท่า -1SD ค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี ทั้งนี้บริษัทประกาศกำไรสุทธิ 3Q23 ที่ 19 ล้านบาท (-89% YoY, -83% QoQ) ต่ำกว่าที่ตลาดประเมินกำไร 63 ล้านบาท โดย YoY ลดลงจากค่าการตลาดที่ถูกกระทบหลังภาครัฐปรับลดราคาดีเซลลง 2 บาทในช่วงปลายไตรมาส 3 ในขณะที่ QoQ ลดลงจาก oil sales volume ตามปัจจัยฤดูกาล
โดยใน 3Q23 oil sale volume อยู่ที่ 1.4 พันล้านลิตร (+10% YoY, -8% QoQ) ในขณะที่ค่าการตลาดอยู่ที่ 1.67 บาท/ลิตร (-16% YoY, +5% QoQ) อย่างไรก็ตามเราคงประมาณการกำไรปกติปี 2023E ที่ 815 ล้านบาท (-13% YoY) แนวโน้ม 4Q23E คาดฟื้นตัวเด่น QoQ จากปัจจัยฤดูกาลหนุนการใช้น้ำมัน
นอกจากนี้ประเมินค่าการตลาดไม่ต่ำกว่า 3Q23 หลังไม่มีปัจจัยใหม่มากระทบ และยังได้ธุรกิจ non-oil ช่วยหนุน โดยหากใน 4Q23E ค่าการตลาดอยู่ระดับ 1.7 และยอดขายน้ำมันเติบโตได้ 12% YoY คาดว่ากำไรทั้งปียังอยู่ในกรอบประมาณการเดิมของเรา
ราคาหุ้น underperform SET กว่า -30% ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา คาดมาจากความผันผวนของค่าการตลาด และความเสี่ยงจากการเข้าแทรกแซงราคาน้ำมันของภาครัฐ อย่างไรก็ตามราคาหุ้นปัจจุบันเทรดอยู่ใกล้ -1SD ซึ่งเป็นกรอบที่ต่ำที่สุดในรอบ 5 ปี เชื่อว่าราคาหุ้น price in ปัจจัยลบไปมากแล้ว
ในขณะที่ 4Q23E คาดกำไรฟื้นตัวเด่นจาก oil sales volume ที่ทำสถิติสูงสุดใหม่ และค่าการตลาดที่กลับมาฟื้นตัว ในขณะที่ทิศทางราคาน้ำมันคาดไม่สูงกว่าระดับปัจจุบันอย่างมีนัยสำคัญจากสมมติฐานภาวะสงครามไม่ขยายวงกว้าง ทำให้โอกาสการแทรกแซงราคาน้ำมันจากภาครัฐมีจำกัด จึงยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาหุ้นมีโอกาสกลับมา outperform ตลาดได้