เจ๊จิ๋ม..สายเถื่อน 16-11-23
16-11-23 สวัสดีพี่น้องชาวไทย "เจ๊จิ๋ม" มารายงานตัว ณ ที่เก่าเวลาเดิม www.share2trade.com เปิดอ่านได้เลยเวลา 7.30 น.มีเรื่องเด็ดๆ โดนๆ มาเม้าท์กันให้สนั่นวงการลงทุนของพวกเรากันเถอะ
***แฟนคลับจ๋า-เจ๊จิ๋ม-กลับมาแล้ววววว ประจำการที่เก่าเวลาเดิม..เพิ่มเติมคือได้ชาร์ทพลังมาเต็มพิกัด ลุ๊ยยยยยย!!! เมื่อวานนี้ SET INDEX พุ่งแรง โดยเด้งขึ้นมาปิดที่ 1,415.17 จุด เพิ่มขึ้น +29.13 จุด มีมูลค่าการซื้อขายรวม 63,753.45 ล้านบาท ส่วนสำคัญอันแรกเจ๊ว่าเป็นเรื่องที่ให้มีการจัดตั้งกองทุน TESG FUND ในเดือน ธ.ค. นี้ ซึ่งคาดว่าจะมีเม็ดเงินใหม่เข้ามาหนุน
***มีเซียนหุ้นได้รวบรวมข้อมูลการถือครองเงินสดของกองทุนไทยทั้งประเทศ พบว่าล่าสุดอยู่ในระดับสูงถึง 4% หรือ คิดเป็นมูลค่าราว 4 หมื่นล้านบาท น่าจะเห็นเม็ดเงินบางส่วนเข้ามาเก็งกำไรก่อนที่จะออกกองทุน TESG (หุ้นใน SETESG มีสัดส่วน 73% ของ ตลาด) และหลังจากออกกองทุน TESG ในเดือน ธ.ค. คาดจะมีเม็ดเงินใหม่เข้า มาหนุนตลาดราว 1 หมื่นล้านบาท ในช่วงที่เหลือของปีและค่อยเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในปีหน้า
***ส่วนอีกค่ายประเมินว่าจะมีเม็ดเงินเข้ามาเพิ่มในตลาดช่วง ธ.ค.นี้ ราว 7.5 พัน - 1.5 หมื่นล้านบาท โดยคาดหุ้นที่อยู่ในกลุ่ม SET ESG Index จะน่าสนใจขึ้นและมีโอกาสถูก Active Fund ใน ประเทศดึงสถานะกลับก่อนเน้นในกลุ่ม 1) ราคาลงแรงกว่า THAIESG Index -14%YTD และ 2) ถูก Short sales บนกระดานหลัก+NVDR ตั้งแต่จุดสูง 30 ส.ค. 23 – ปัจจุบัน มีสัดส่วน % Short Sales Volume(+ NVDR) มากกว่า 8 %ของมูลค่าซื้อขายรายตัว หุ้นในกลุ่มดังกล่าวที่น่าจะเป็นเป้าหมายกองทุน เน้น CPALL, GULF, CRC, GPSC, PTTGC, IVL, SCGP, OR, CBG, HMPRO
***มีรายงานเรื่องที่ MSCI ปรับหุ้นรอบใหม่ ประจำเดือน พ.ย.66 ไม่มีหุ้นเข้า แต่มีหุ้นถูกลด ชั้น 3 บริษัท ออก 9 บริษัท โดยมีรายละเอียด ดังนี้
-ดัชนี GLOBAL STANDARD : หุ้นออก BGRIM, EGCO, RATCH (ลดชั้น มาอยู่ MSCI GLOBAL SMALL CAP)
- ดัชนี GLOBAL SMALL CAP : หุ้นเข้า BGRIM, EGCO, RATCH หุ้นออก ACE, ASK, KEX, ONEE, RAM, SABUY, TTA, TFG, VIBHA
***กูรูหุ้นให้ข้อสังเกตว่า MSCI รอบนี้ไม่มีหุ้นไทยที่ถูกคัดเข้าดัชนีเลย ส่วนหนึ่งเกิดจากดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลงมาเยอะ (MARKET CAP เล็กลง) ส่วนหุ้นที่ถูกคัดออกคาดว่าจะถูกกดดัน เนื่องจากปรับลงมาลึกแล้ว สังเกตได้จากผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี(YTD) ของแต่ละบริษัทที่ถูกคัดออก อาทิ BGRIM, EGCO, RATCH ติดลบ 26%-41% และ ACE, ASK, KEX, ONEE, RAM, SABUY, TTA, TFG, VIBHA ติดลบ 26%-78%
***EKH หุ้นในใจเจ๊จิ๋ม ..มีเซียนหุ้นกล่าวถึงเลยขอหยิบมาเล่าสู่กันฟัง!!หลังได้ประกาศงบ Q3/66 ออกมาดีกว่าคาด โดยมีการรายงานกำไรสุทธิ อยู่ที่ 97 ล้านบาท (+27% YoY, +270% QoQ) จากกำไรจากการเข้าลงทุนในหุ้น KLINIQ ที่ 3 ล้านบาท หากไม่รวมกำไรปกติ อยู่ที่ 93 ล้านบาท (+23% YoY, +32% QoQ) จากรายได้ที่ขยายตัว +19% YoY, +11% QoQ อยู่ที่ 333 ล้านบาท จากการเข้ารับบริการมากขึ้นของผู้ป่วยทั่วไป และได้อานิสงส์ของไข้หวัดระบาดของหน้าฝน โดยเฉพาะโรคทางเดินหายใจ (ไข้หวัดใหญ่ และ RSV) ในกลุ่มเด็กทำให้มีคนไข้ IPD เยอะมากขึ้น ทำให้ GPM จะดีขึ้นทั้ง YoY, QoQ อยู่ที่ 46.6% (3Q22 = 44.5%, 2Q23 = 44.3%) และ SG&A/Revenue ลดลงอยู่ที่ 18% (3Q22 = 17%, 2Q23 = 19%)
***เซียนหุ้นได้ประมาณการกำไรปกติของ EKH ปี 2023E ที่ 270 ล้านบาท (+20% YoY) โดยกำไรปกติ 9M23E คิดเป็น 81% ของทั้งปี มองว่ากำไรปกติ 4Q23E จะลดลง QoQ จากการเข้าสู่ช่วง low season แต่จะเติบโต YoY จากการเปลี่ยนฤดูในช่วงต้น 4Q23E ทำให้มีคนไข้เด็กยังคงเยอะ จากไข้หวัดปลายฤดูฝน ส่วนคนไข้ รพ.คูน และ EKI ที่จะเข้ารับการบริการอย่างต่อเนื่อง ราคาหุ้น outperform SET +7% ในช่วง 3 เดือน มองว่ามีปัจจัยบวกจากฤดูกาลหน้าฝนซึ่งจะทำให้ รพ.แข็งแกร่ง แนะนำ “ซื้อ” มองว่าผลดำเนินงานใน 2024E จะเติบโตต่อเนื่อง จากความต้องการในการปรึกษาและรักษาเกี่ยวกับสุขภาพเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ โดยปัจจุบัน EKH เทรดอยู่ที่ 2024E PER ที่ 16.5x (ใกล้เคียง 1.0SD below 5-yr average PER)
***มาดูคำแนะนำแต่ละค่ายว่าเค้ามีความเห็นอย่างไรกับ EKH กันบ้าง
-DAOLSEC ราคาเป้าหมาย 9.00 บาท แนะนำ Buy
-YUANTA ราคาเป้าหมาย 10.50 บาท แนะนำ Buy
-KGI ราคาเป้าหมาย 10.20 บาท แนะนำ Outperform Market
-ASL ราคาเป้าหมาย 9.60 บาท แนะนำ Buy
-DBSV ราคาเป้าหมาย 10.00 บาท แนะนำ Buy
-KS ราคาเป้าหมาย 9.10 บาท แนะนำ Outperform Market
***นักลงทุนที่อยากลงทุนหุ้นกู้ผลตอบแทนดีๆ ทางนี้จ้า TIDLOR เตรียมขายหุ้นกู้ ให้อัตราดอกเบี้ย [3.70-3.80]% ต่อปี กำหนดชำระอัตราดอกเบี้ยทุกๆ 6 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้ คาดเปิดขายระหว่างวันที่ 24 และ 27-28 พ.ย.นี้ สำหรับอันดับเครดิต บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2566 นั้น "เงินติดล้อ" ได้รับการคงอันดับเครดิตองค์กรและอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน ที่ระดับ “A” แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” ซึ่งปัจจุบันถือเป็นอันดับเครดิตที่สูงที่สุดในกลุ่มผู้ประกอบธุรกิจ non-bank ประเภทสินเชื่อจำนำทะเบียนรถอีกด้วย
***สำหรับท่านที่สนใจจองซื้อหุ้นกู้ TIDLOR สามารถจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท โดยสามารถติดต่อขอข้อมูลเพิ่มเติมผ่านผู้จัดการการจำหน่ายหุ้นกู้ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) (BAY) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (KBANK) และบริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) (KKPS) ทั้งนี้ติดตามข้อมูลข่าวสารของ TIDLOR ได้ที่เว็บไซต์ www.tidlorinvestor.com
16-11-23 สวัสดีพี่น้องชาวไทย "เจ๊จิ๋ม" มารายงานตัว ณ ที่เก่าเวลาเดิม www.share2trade.com เปิดอ่านได้เลยเวลา 7.30 น.มีเรื่องเด็ดๆ โดนๆ มาเม้าท์กันให้สนั่นวงการลงทุนของพวกเรากันเถอะ
***แฟนคลับจ๋า-เจ๊จิ๋ม-กลับมาแล้ววววว ประจำการที่เก่าเวลาเดิม..เพิ่มเติมคือได้ชาร์ทพลังมาเต็มพิกัด ลุ๊ยยยยยย!!! เมื่อวานนี้ SET INDEX พุ่งแรง โดยเด้งขึ้นมาปิดที่ 1,415.17 จุด เพิ่มขึ้น +29.13 จุด มีมูลค่าการซื้อขายรวม 63,753.45 ล้านบาท ส่วนสำคัญอันแรกเจ๊ว่าเป็นเรื่องที่ให้มีการจัดตั้งกองทุน TESG FUND ในเดือน ธ.ค. นี้ ซึ่งคาดว่าจะมีเม็ดเงินใหม่เข้ามาหนุน
***มีเซียนหุ้นได้รวบรวมข้อมูลการถือครองเงินสดของกองทุนไทยทั้งประเทศ พบว่าล่าสุดอยู่ในระดับสูงถึง 4% หรือ คิดเป็นมูลค่าราว 4 หมื่นล้านบาท น่าจะเห็นเม็ดเงินบางส่วนเข้ามาเก็งกำไรก่อนที่จะออกกองทุน TESG (หุ้นใน SETESG มีสัดส่วน 73% ของ ตลาด) และหลังจากออกกองทุน TESG ในเดือน ธ.ค. คาดจะมีเม็ดเงินใหม่เข้า มาหนุนตลาดราว 1 หมื่นล้านบาท ในช่วงที่เหลือของปีและค่อยเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในปีหน้า
***ส่วนอีกค่ายประเมินว่าจะมีเม็ดเงินเข้ามาเพิ่มในตลาดช่วง ธ.ค.นี้ ราว 7.5 พัน - 1.5 หมื่นล้านบาท โดยคาดหุ้นที่อยู่ในกลุ่ม SET ESG Index จะน่าสนใจขึ้นและมีโอกาสถูก Active Fund ใน ประเทศดึงสถานะกลับก่อนเน้นในกลุ่ม 1) ราคาลงแรงกว่า THAIESG Index -14%YTD และ 2) ถูก Short sales บนกระดานหลัก+NVDR ตั้งแต่จุดสูง 30 ส.ค. 23 – ปัจจุบัน มีสัดส่วน % Short Sales Volume(+ NVDR) มากกว่า 8 %ของมูลค่าซื้อขายรายตัว หุ้นในกลุ่มดังกล่าวที่น่าจะเป็นเป้าหมายกองทุน เน้น CPALL, GULF, CRC, GPSC, PTTGC, IVL, SCGP, OR, CBG, HMPRO
***มีรายงานเรื่องที่ MSCI ปรับหุ้นรอบใหม่ ประจำเดือน พ.ย.66 ไม่มีหุ้นเข้า แต่มีหุ้นถูกลด ชั้น 3 บริษัท ออก 9 บริษัท โดยมีรายละเอียด ดังนี้
-ดัชนี GLOBAL STANDARD : หุ้นออก BGRIM, EGCO, RATCH (ลดชั้น มาอยู่ MSCI GLOBAL SMALL CAP)
- ดัชนี GLOBAL SMALL CAP : หุ้นเข้า BGRIM, EGCO, RATCH หุ้นออก ACE, ASK, KEX, ONEE, RAM, SABUY, TTA, TFG, VIBHA
***กูรูหุ้นให้ข้อสังเกตว่า MSCI รอบนี้ไม่มีหุ้นไทยที่ถูกคัดเข้าดัชนีเลย ส่วนหนึ่งเกิดจากดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลงมาเยอะ (MARKET CAP เล็กลง) ส่วนหุ้นที่ถูกคัดออกคาดว่าจะถูกกดดัน เนื่องจากปรับลงมาลึกแล้ว สังเกตได้จากผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี(YTD) ของแต่ละบริษัทที่ถูกคัดออก อาทิ BGRIM, EGCO, RATCH ติดลบ 26%-41% และ ACE, ASK, KEX, ONEE, RAM, SABUY, TTA, TFG, VIBHA ติดลบ 26%-78%
***EKH หุ้นในใจเจ๊จิ๋ม ..มีเซียนหุ้นกล่าวถึงเลยขอหยิบมาเล่าสู่กันฟัง!!หลังได้ประกาศงบ Q3/66 ออกมาดีกว่าคาด โดยมีการรายงานกำไรสุทธิ อยู่ที่ 97 ล้านบาท (+27% YoY, +270% QoQ) จากกำไรจากการเข้าลงทุนในหุ้น KLINIQ ที่ 3 ล้านบาท หากไม่รวมกำไรปกติ อยู่ที่ 93 ล้านบาท (+23% YoY, +32% QoQ) จากรายได้ที่ขยายตัว +19% YoY, +11% QoQ อยู่ที่ 333 ล้านบาท จากการเข้ารับบริการมากขึ้นของผู้ป่วยทั่วไป และได้อานิสงส์ของไข้หวัดระบาดของหน้าฝน โดยเฉพาะโรคทางเดินหายใจ (ไข้หวัดใหญ่ และ RSV) ในกลุ่มเด็กทำให้มีคนไข้ IPD เยอะมากขึ้น ทำให้ GPM จะดีขึ้นทั้ง YoY, QoQ อยู่ที่ 46.6% (3Q22 = 44.5%, 2Q23 = 44.3%) และ SG&A/Revenue ลดลงอยู่ที่ 18% (3Q22 = 17%, 2Q23 = 19%)
***เซียนหุ้นได้ประมาณการกำไรปกติของ EKH ปี 2023E ที่ 270 ล้านบาท (+20% YoY) โดยกำไรปกติ 9M23E คิดเป็น 81% ของทั้งปี มองว่ากำไรปกติ 4Q23E จะลดลง QoQ จากการเข้าสู่ช่วง low season แต่จะเติบโต YoY จากการเปลี่ยนฤดูในช่วงต้น 4Q23E ทำให้มีคนไข้เด็กยังคงเยอะ จากไข้หวัดปลายฤดูฝน ส่วนคนไข้ รพ.คูน และ EKI ที่จะเข้ารับการบริการอย่างต่อเนื่อง ราคาหุ้น outperform SET +7% ในช่วง 3 เดือน มองว่ามีปัจจัยบวกจากฤดูกาลหน้าฝนซึ่งจะทำให้ รพ.แข็งแกร่ง แนะนำ “ซื้อ” มองว่าผลดำเนินงานใน 2024E จะเติบโตต่อเนื่อง จากความต้องการในการปรึกษาและรักษาเกี่ยวกับสุขภาพเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ โดยปัจจุบัน EKH เทรดอยู่ที่ 2024E PER ที่ 16.5x (ใกล้เคียง 1.0SD below 5-yr average PER)
***มาดูคำแนะนำแต่ละค่ายว่าเค้ามีความเห็นอย่างไรกับ EKH กันบ้าง
-DAOLSEC ราคาเป้าหมาย 9.00 บาท แนะนำ Buy
-YUANTA ราคาเป้าหมาย 10.50 บาท แนะนำ Buy
-KGI ราคาเป้าหมาย 10.20 บาท แนะนำ Outperform Market
-ASL ราคาเป้าหมาย 9.60 บาท แนะนำ Buy
-DBSV ราคาเป้าหมาย 10.00 บาท แนะนำ Buy
-KS ราคาเป้าหมาย 9.10 บาท แนะนำ Outperform Market
***นักลงทุนที่อยากลงทุนหุ้นกู้ผลตอบแทนดีๆ ทางนี้จ้า TIDLOR เตรียมขายหุ้นกู้ ให้อัตราดอกเบี้ย [3.70-3.80]% ต่อปี กำหนดชำระอัตราดอกเบี้ยทุกๆ 6 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้ คาดเปิดขายระหว่างวันที่ 24 และ 27-28 พ.ย.นี้ สำหรับอันดับเครดิต บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2566 นั้น "เงินติดล้อ" ได้รับการคงอันดับเครดิตองค์กรและอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน ที่ระดับ “A” แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” ซึ่งปัจจุบันถือเป็นอันดับเครดิตที่สูงที่สุดในกลุ่มผู้ประกอบธุรกิจ non-bank ประเภทสินเชื่อจำนำทะเบียนรถอีกด้วย
***สำหรับท่านที่สนใจจองซื้อหุ้นกู้ TIDLOR สามารถจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท โดยสามารถติดต่อขอข้อมูลเพิ่มเติมผ่านผู้จัดการการจำหน่ายหุ้นกู้ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) (BAY) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (KBANK) และบริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) (KKPS) ทั้งนี้ติดตามข้อมูลข่าวสารของ TIDLOR ได้ที่เว็บไซต์ www.tidlorinvestor.com