Wealth Sharing
GFC แจกปันผล 0.15 บ.ต่อหุ้น หลังงบ 9 เดือนออลไทม์ไฮ จ่อทุ่มงบ 30 ลบ. ตั้ง“จีเอฟซี อุบลราชธานี”
16 พฤศจิกายน 2566
บอร์ด บมจ.เจเนซีส เฟอร์ทิลีตี เซ็นเตอร์ หรือ“GFC” เดินหน้าเสิร์ฟข่าวดีต่อเนื่อง หลังงบผลการดำเนินงาน 9 เดือนสร้างออลไทม์ไฮ สูงสุดเป็นประวัติการณ์ กวาดรายได้ 254.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28% (YoY) และกำไรสุทธิ 54.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% (YoY) ล่าสุดบอร์ดเคาะจ่ายปันผลระหว่างกาล ตอบแทนผู้ถือหุ้น ในอัตรา 0.15 บาทต่อหุ้น รวมเป็นเงิน 33 ล้านบาท จ่อขึ้น XD วันที่ 24 พ.ย. และกำหนดจ่ายปันผล 12 ธ.ค.นี้ พร้อมทุ่มงบ 30 ล้านบาท ประกาศจัดตั้งบริษัทย่อย ภายใต้ “จีเอฟซี อุบลราชธานี” เล็งสยายปีก ปักหมุดให้บริการรักษาและให้คำปรึกษาแก่ผู้มีบุตรยาก จ.อุบลฯ และยึดหัวหาดพื้นที่ใกล้เคียง
นายกรพัส อัจฉริยมานีกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเนซีส เฟอร์ทิลีตี เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) "GFC" เปิดเผยว่า จากผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปี 2566 ( มกราคม – กันยายน )เติบโตอย่างโดดเด่น จนสามารถทุบสถิติสูงสุด (ออลไทม์ไฮ) เป็นประวัติการณ์ตั้งแต่เปิดดำเนินการ โดยกลุ่มบริษัท มีรายได้รวมจากการให้บริการ 254.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 56.04 ล้านบาท คิดเป็น 28% (YoY) และมีกำไรสุทธิ 54.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.46 ล้านบาท หรือคิดเป็น 13% (YoY) ล่าสุดประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลเป็นเงินสด ในอัตราหุ้นละ 0.15 บาท ซึ่งกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) ในวันที่ 27 พ.ย.2566 กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล(XD) ในวันที่ 24 พ.ย.2566 เพื่อกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 12 ธ.ค. 2566 ทั้งนี้ เป็นการจ่ายปันผลจากผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนและกำไรสะสม
นอกจากนี้ ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ยังมีมติอนุมัติจัดตั้งบริษัทย่อย ภายใต้ชื่อ บริษัท จีเอฟซี อุบลราชธานี จำกัด ด้วยเม็ดเงินลงทุน 30 ล้านบาท เพื่อขยายขอบเขตการให้บริการรักษาและให้คำปรึกษาแก่ผู้มีบุตรยาก ในจังหวัดอุบลราชธานี และพื้นที่ใกล้เคียง รวมถึงกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน โดย GFC ผู้ถือหุ้น ในบริษัทย่อยสัดส่วน 60% ของจำนวนหุ้นสามัญจดทะเบียนทั้งหมดของบริษัทย่อยไม่เกิน 3,000,000 หุ้น ส่วนที่เหลือ 40% เป็นกลุ่มพญ.ฐิติมา ชัยศรีสวัสดิ์สุข ซึ่งเป็นแพทย์ชำนาญการ คลินิกสาขาอุบลราชธานี
สำหรับคลินิกสาขาอุบลราชธานี จะใช้มาตรฐานเดียวกันทั้งหมดกับสาขาพระราม 3 และสาขาพระราม 9 ซึ่งจะเป็นการให้บริการทางการแพทย์สำหรับผู้มีบุตรยากครอบคลุมแบบครบวงจร โดยมีแพทย์เฉพาะทางด้านการเจริญพันธุ์ และนักวิทยาศาสตร์เป็นของตนเอง มีห้องวิจัยและปฏิบัติการสำหรับตัวอ่อน ห้องตรวจ 2ห้อง ห้องผ่าตัด 1ห้อง ห้องพักฟื้น 2 เตียง ทั้งนี้คาดว่าสาขาดังกล่าวจะเปิดดำเนินการ ในปลายไตรมาส1/2567 หรือต้นไตรมาส2/2567 ซึ่งคลินิกแห่งนี้ถือเป็นสาขาต่างจังหวัดแห่งแรกที่ GFC เปิดให้บริการ และเชื่อว่าจะตอบโจทย์ผู้ใช้บริการที่เข้ารับการรักษาผู้มีบุตรยากได้อย่างลงตัวและครบทุกมิติ
จากความสำเร็จของ GFC สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพความเชี่ยวชาญของทีมแพทย์ ผู้ชำนาญการด้านสูตินรีเวช และเทคโนโลยีเจริญพันธุ์ที่มีประสบการณ์ด้านการให้บริการทางการแพทย์ผู้มีปัญหามีบุตรยากมากกว่า 23 ปี ทำให้วันนี้เราได้รับความไว้วางใจ และความเชื่อมั่นจากกลุ่มลูกค้า ในการเป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของครอบครัวที่เข้ารับการรักษาผู้มีบุตรยาก เนื่องจากต้องยอมรับว่าอุตสาหกรรมนี้จะวัดกันที่ Success Rate หรือ อัตราความสำเร็จในการตั้งครรภ์ที่จะเป็นตัวชี้วัดถึงเปอร์เซ็นต์ความสำเร็จในการรักษา ซึ่ง GFC ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงอัตราความสำเร็จในการตั้งครรภ์สูงกว่าค่าเฉลี่ย
อย่างไรก็ตาม GFC ยังคงเดินหน้าเปิดให้บริการในโครงการสาขาสุวรรณภูมิ-พระราม 9 และคลินิกสาขาอุบลราชธานี ตามแผนกลยุทธ์ที่วางไว้ เพื่อขยายฐานการให้บริการรักษาภาวะมีบุตรยากทั้งคนไทย และต่างชาติ ให้ครอบคลุมและตอบโจทย์ที่เข้ารับการรักษาให้มากที่สุด
ทั้งนี้บริษัทฯเชื่อว่า หากทั้ง 2 สาขาใหม่ แล้วเสร็จปลายไตรมาส1/2567 หรือต้นไตรมาส2/2567 ตามแผน จะตอกย้ำศักยภาพความแข็งแกร่งในการให้บริการของ GFC มากยิ่งขึ้น ซึ่งก็ส่งผลให้อัตราการเติบโตของกลุ่มบริษัททั้ง 3 สาขา สามารถสร้างรายได้สู่ออลไทม์ไฮ ในอนาคตได้อย่างต่อเนื่อง
นายกรพัส อัจฉริยมานีกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเนซีส เฟอร์ทิลีตี เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) "GFC" เปิดเผยว่า จากผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปี 2566 ( มกราคม – กันยายน )เติบโตอย่างโดดเด่น จนสามารถทุบสถิติสูงสุด (ออลไทม์ไฮ) เป็นประวัติการณ์ตั้งแต่เปิดดำเนินการ โดยกลุ่มบริษัท มีรายได้รวมจากการให้บริการ 254.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 56.04 ล้านบาท คิดเป็น 28% (YoY) และมีกำไรสุทธิ 54.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.46 ล้านบาท หรือคิดเป็น 13% (YoY) ล่าสุดประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลเป็นเงินสด ในอัตราหุ้นละ 0.15 บาท ซึ่งกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) ในวันที่ 27 พ.ย.2566 กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล(XD) ในวันที่ 24 พ.ย.2566 เพื่อกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 12 ธ.ค. 2566 ทั้งนี้ เป็นการจ่ายปันผลจากผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนและกำไรสะสม
นอกจากนี้ ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ยังมีมติอนุมัติจัดตั้งบริษัทย่อย ภายใต้ชื่อ บริษัท จีเอฟซี อุบลราชธานี จำกัด ด้วยเม็ดเงินลงทุน 30 ล้านบาท เพื่อขยายขอบเขตการให้บริการรักษาและให้คำปรึกษาแก่ผู้มีบุตรยาก ในจังหวัดอุบลราชธานี และพื้นที่ใกล้เคียง รวมถึงกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน โดย GFC ผู้ถือหุ้น ในบริษัทย่อยสัดส่วน 60% ของจำนวนหุ้นสามัญจดทะเบียนทั้งหมดของบริษัทย่อยไม่เกิน 3,000,000 หุ้น ส่วนที่เหลือ 40% เป็นกลุ่มพญ.ฐิติมา ชัยศรีสวัสดิ์สุข ซึ่งเป็นแพทย์ชำนาญการ คลินิกสาขาอุบลราชธานี
สำหรับคลินิกสาขาอุบลราชธานี จะใช้มาตรฐานเดียวกันทั้งหมดกับสาขาพระราม 3 และสาขาพระราม 9 ซึ่งจะเป็นการให้บริการทางการแพทย์สำหรับผู้มีบุตรยากครอบคลุมแบบครบวงจร โดยมีแพทย์เฉพาะทางด้านการเจริญพันธุ์ และนักวิทยาศาสตร์เป็นของตนเอง มีห้องวิจัยและปฏิบัติการสำหรับตัวอ่อน ห้องตรวจ 2ห้อง ห้องผ่าตัด 1ห้อง ห้องพักฟื้น 2 เตียง ทั้งนี้คาดว่าสาขาดังกล่าวจะเปิดดำเนินการ ในปลายไตรมาส1/2567 หรือต้นไตรมาส2/2567 ซึ่งคลินิกแห่งนี้ถือเป็นสาขาต่างจังหวัดแห่งแรกที่ GFC เปิดให้บริการ และเชื่อว่าจะตอบโจทย์ผู้ใช้บริการที่เข้ารับการรักษาผู้มีบุตรยากได้อย่างลงตัวและครบทุกมิติ
จากความสำเร็จของ GFC สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพความเชี่ยวชาญของทีมแพทย์ ผู้ชำนาญการด้านสูตินรีเวช และเทคโนโลยีเจริญพันธุ์ที่มีประสบการณ์ด้านการให้บริการทางการแพทย์ผู้มีปัญหามีบุตรยากมากกว่า 23 ปี ทำให้วันนี้เราได้รับความไว้วางใจ และความเชื่อมั่นจากกลุ่มลูกค้า ในการเป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของครอบครัวที่เข้ารับการรักษาผู้มีบุตรยาก เนื่องจากต้องยอมรับว่าอุตสาหกรรมนี้จะวัดกันที่ Success Rate หรือ อัตราความสำเร็จในการตั้งครรภ์ที่จะเป็นตัวชี้วัดถึงเปอร์เซ็นต์ความสำเร็จในการรักษา ซึ่ง GFC ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงอัตราความสำเร็จในการตั้งครรภ์สูงกว่าค่าเฉลี่ย
อย่างไรก็ตาม GFC ยังคงเดินหน้าเปิดให้บริการในโครงการสาขาสุวรรณภูมิ-พระราม 9 และคลินิกสาขาอุบลราชธานี ตามแผนกลยุทธ์ที่วางไว้ เพื่อขยายฐานการให้บริการรักษาภาวะมีบุตรยากทั้งคนไทย และต่างชาติ ให้ครอบคลุมและตอบโจทย์ที่เข้ารับการรักษาให้มากที่สุด
ทั้งนี้บริษัทฯเชื่อว่า หากทั้ง 2 สาขาใหม่ แล้วเสร็จปลายไตรมาส1/2567 หรือต้นไตรมาส2/2567 ตามแผน จะตอกย้ำศักยภาพความแข็งแกร่งในการให้บริการของ GFC มากยิ่งขึ้น ซึ่งก็ส่งผลให้อัตราการเติบโตของกลุ่มบริษัททั้ง 3 สาขา สามารถสร้างรายได้สู่ออลไทม์ไฮ ในอนาคตได้อย่างต่อเนื่อง