จับประเด็นหุ้นเด่น
รายงานพิเศษ : ปี66 มูลค่าตลาดสินค้าเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงแตะ 2 หมื่นลบ. หนุนผลิตภัณฑ์ “MOMO &FRIENDS”
20 พฤศจิกายน 2566
ตลาดสินค้าเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงปี 66 มีมูลค่าแตะ 2 หมื่นลบ. หนุน บมจ. อินเตอร์ไฮด์ หรือ IHL ต่อยอดแตกไลน์ธุรกิจ “ขนมขบเคี้ยวสุนัข” ภายใต้แบรนด์ “MOMO &FRIENDS” มั่นใจสร้างรายได้เติบโตอย่างยั่งยืน
![รายงานพิเศษ ปี 66 มูลค่าตลาดสินค้าเกี่ยวกับ.jpg](https://www.share2trade.com/storage/PressIOS/2023/November/%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A9%20%E0%B8%9B%E0%B8%B5%2066%20%E0%B8%A1%E0%B8%B9%E0%B8%A5%E0%B8%84%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A.jpg)
สมาคมอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยงไทยคาด ผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยงในปี 2566 เติบโต 8-10% เนื่องจากปัจจุบันแนวโน้มการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป จากที่เคยเลี้ยงแบบลักษณะความเป็นเจ้าของ หรือ Ownership กลายเป็นการเลี้ยงแบบความผูกพันเหมือนคนในครอบครัว และต้องการเลือกสิ่งที่ดีมีคุณภาพให้กับสัตว์เลี้ยง ไม่ว่าจะเป็นอาหาร สิ่งของเครื่องใช้ และบริการต่างๆ ส่งผลให้กลุ่มธุรกิจขายปลีกสัตว์เลี้ยงและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องมีแนวโน้มการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยกลุ่มลูกค้าที่เติบโตย่างต่อเนื่อง เช่น กลุ่มแมว ส่วนตลาดอาหารสุนัขมีส่วนแบ่งทางการตลาดสูงสุดทั้งในด้านรายได้และขนาดการใช้จ่าย ซึ่งส่วนแบ่งการตลาดนี้มีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากความต้องการอาหารสัตว์ราคาแพง (Premium treats) เพิ่มสูงขึ้น
และเนื่องจากผู้บริโภคเลี้ยงสัตว์ด้วยความรักและให้ความผูกพัน ทำให้ต้องการอุปกรณ์เลี้ยงสัตว์มากขึ้น เช่น อาหารสัตว์ประเภทอื่นๆ ที่หลากหลายมากกว่าอาหารสัตว์จำพวกอาหารเม็ดหรืออาหารแบบเปียกอย่างเดิม และสัตว์เลี้ยงประเภทที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คาดว่าเป็น 1.แมว 2.SmallAnimal 3.สุนัข 4.ปลา 5.นก ตามลำดับ
ด้านบริษัท โรยัลคานิน (ประเทศไทย) คาดการณ์ว่า ปัจจุบันตลาดสินค้าเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงในไทยมีมูลค่าราว 20,000 ล้านบาท โดยมูลค่าดังกล่าวแบ่งเป็นกลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยง 75-85% หรือ 15,000-17,000 ล้านบาท ซึ่งมูลค่านี้มีการเติบโตต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงโรคโควิด-19
ในปี 2023 คาดว่า ตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงจะเติบโตจากมูลค่าดังกล่าวราว 20% โดยมาจากกลุ่มอาหารแห้ง 75% และที่เหลือเป็นอาหารเปียก ส่วนมูลค่าตลาดสินค้าเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงอยู่ที่ 20,000 ล้านบาท นอกจากกลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยง ยังประกอบด้วยอุปกรณ์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยง เช่น เสื้อผ้า, ของเล่น และสายจูง เป็นต้น
ตลาดผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันที่นิยมเลี้ยงแมว และสุนัขได้รับความนิยมมากขึ้น สะท้อนจากร้านอาหารที่ให้นำแมวและสุนัขเข้ามาในร้านได้ หรือกระทั่งการเปิดร้านให้เฉพาะผู้ที่เลี้ยงแมวและสุนัข
จึงเป็นโอกาสในการต่อยอดธุรกิจของ บมจ. อินเตอร์ไฮด์ หรือ IHL ซึ่งทำธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายหนังสำหรับเบาะรถยนต์ หนังหุ้มเบาะรถยนต์ หัวเกียร์ และพวงมาลัยรถยนต์ ชิ้นงานหนังตัดขึ้นรูป เฟอร์นิเจอร์ รองเท้า โดยใช้หนังโค กระบือและสุกรโดยผ่านกรรมวิธีการฟอกย้อมและนำมาตัดหรือเย็บเป็นผลิตภัณฑ์
โดยการแตกไลน์ธุรกิจ การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ เป็นขนมขบเคี้ยวสุนัข ภายใต้แบรนด์ “MOMO &FRIENDS” ซึ่ง “วศิน ดำรงสกุลวงษ์” กรรมการ และผู้จัดการทั่วไป IHL ระบุว่า ธุรกิจขนมขบเคี้ยว ภายใต้แบรนด์ MOMO&FRIEND มียอดขายเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากการร่วมออกบูทต่างๆ ซึ่งปัจจุบันมีวางจำหน่ายในท็อปส์ มาร์เก็ต และช่องทางออนไลน์
นอกจากนี้บริษัทยังอยู่ระหว่างการเจรจาทำสัญญาธุรกิจเพื่อนำผลิตภัณฑ์เข้ามาวางจำหน่ายในห้างโมเดิร์นเทรดเพิ่มเติม โดยคาดว่าจะเห็นความชัดเจน 1-2 แห่งภายในปีนี้ รวมถึงยังอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรในการรับจ้างผลิต (OEM) ทั้งในและต่างประเทศ เพิ่มเติมจากที่ส่งออกไปยังเกาหลี และมีการส่งออกในรูปแบบวัตถุดิบหนังวัวไปยังเวียดนาม และกัมพูชา
และล่าสุด บริษัทได้ร่วมมือกับ KFC ออกผลิตภัณฑ์ KFC BONE TIE ขนมขัดฟันแปรรูปจากกระดูกไก่KFCสำหรับสุนัข ซึ่งมีความพิเศษคือ ช่วยขัดฟันขจัดคราบ มีโปรตีนสูง ไม่ทิ่มอวัยวะ และยังดีไซน์ พิเศษขึ้นรูปเป็นโบว์ผู้พันแซนเดอร์สอีกด้วย แถมแจกกันฟรีๆ เมื่อวันที่ 26 ส.ค. 66 หรือ วันมะหมาโลก ซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดี และเชื่อว่าผลิตภัณฑ์ใหม่ จะช่วยสร้างรายได้ที่ยั่งยืนในอนาคต
![รายงานพิเศษ ปี 66 มูลค่าตลาดสินค้าเกี่ยวกับ.jpg](https://www.share2trade.com/storage/PressIOS/2023/November/%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A9%20%E0%B8%9B%E0%B8%B5%2066%20%E0%B8%A1%E0%B8%B9%E0%B8%A5%E0%B8%84%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A.jpg)
สมาคมอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยงไทยคาด ผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยงในปี 2566 เติบโต 8-10% เนื่องจากปัจจุบันแนวโน้มการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป จากที่เคยเลี้ยงแบบลักษณะความเป็นเจ้าของ หรือ Ownership กลายเป็นการเลี้ยงแบบความผูกพันเหมือนคนในครอบครัว และต้องการเลือกสิ่งที่ดีมีคุณภาพให้กับสัตว์เลี้ยง ไม่ว่าจะเป็นอาหาร สิ่งของเครื่องใช้ และบริการต่างๆ ส่งผลให้กลุ่มธุรกิจขายปลีกสัตว์เลี้ยงและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องมีแนวโน้มการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยกลุ่มลูกค้าที่เติบโตย่างต่อเนื่อง เช่น กลุ่มแมว ส่วนตลาดอาหารสุนัขมีส่วนแบ่งทางการตลาดสูงสุดทั้งในด้านรายได้และขนาดการใช้จ่าย ซึ่งส่วนแบ่งการตลาดนี้มีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากความต้องการอาหารสัตว์ราคาแพง (Premium treats) เพิ่มสูงขึ้น
และเนื่องจากผู้บริโภคเลี้ยงสัตว์ด้วยความรักและให้ความผูกพัน ทำให้ต้องการอุปกรณ์เลี้ยงสัตว์มากขึ้น เช่น อาหารสัตว์ประเภทอื่นๆ ที่หลากหลายมากกว่าอาหารสัตว์จำพวกอาหารเม็ดหรืออาหารแบบเปียกอย่างเดิม และสัตว์เลี้ยงประเภทที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คาดว่าเป็น 1.แมว 2.SmallAnimal 3.สุนัข 4.ปลา 5.นก ตามลำดับ
ด้านบริษัท โรยัลคานิน (ประเทศไทย) คาดการณ์ว่า ปัจจุบันตลาดสินค้าเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงในไทยมีมูลค่าราว 20,000 ล้านบาท โดยมูลค่าดังกล่าวแบ่งเป็นกลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยง 75-85% หรือ 15,000-17,000 ล้านบาท ซึ่งมูลค่านี้มีการเติบโตต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงโรคโควิด-19
ในปี 2023 คาดว่า ตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงจะเติบโตจากมูลค่าดังกล่าวราว 20% โดยมาจากกลุ่มอาหารแห้ง 75% และที่เหลือเป็นอาหารเปียก ส่วนมูลค่าตลาดสินค้าเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงอยู่ที่ 20,000 ล้านบาท นอกจากกลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยง ยังประกอบด้วยอุปกรณ์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยง เช่น เสื้อผ้า, ของเล่น และสายจูง เป็นต้น
ตลาดผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันที่นิยมเลี้ยงแมว และสุนัขได้รับความนิยมมากขึ้น สะท้อนจากร้านอาหารที่ให้นำแมวและสุนัขเข้ามาในร้านได้ หรือกระทั่งการเปิดร้านให้เฉพาะผู้ที่เลี้ยงแมวและสุนัข
จึงเป็นโอกาสในการต่อยอดธุรกิจของ บมจ. อินเตอร์ไฮด์ หรือ IHL ซึ่งทำธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายหนังสำหรับเบาะรถยนต์ หนังหุ้มเบาะรถยนต์ หัวเกียร์ และพวงมาลัยรถยนต์ ชิ้นงานหนังตัดขึ้นรูป เฟอร์นิเจอร์ รองเท้า โดยใช้หนังโค กระบือและสุกรโดยผ่านกรรมวิธีการฟอกย้อมและนำมาตัดหรือเย็บเป็นผลิตภัณฑ์
โดยการแตกไลน์ธุรกิจ การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ เป็นขนมขบเคี้ยวสุนัข ภายใต้แบรนด์ “MOMO &FRIENDS” ซึ่ง “วศิน ดำรงสกุลวงษ์” กรรมการ และผู้จัดการทั่วไป IHL ระบุว่า ธุรกิจขนมขบเคี้ยว ภายใต้แบรนด์ MOMO&FRIEND มียอดขายเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากการร่วมออกบูทต่างๆ ซึ่งปัจจุบันมีวางจำหน่ายในท็อปส์ มาร์เก็ต และช่องทางออนไลน์
นอกจากนี้บริษัทยังอยู่ระหว่างการเจรจาทำสัญญาธุรกิจเพื่อนำผลิตภัณฑ์เข้ามาวางจำหน่ายในห้างโมเดิร์นเทรดเพิ่มเติม โดยคาดว่าจะเห็นความชัดเจน 1-2 แห่งภายในปีนี้ รวมถึงยังอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรในการรับจ้างผลิต (OEM) ทั้งในและต่างประเทศ เพิ่มเติมจากที่ส่งออกไปยังเกาหลี และมีการส่งออกในรูปแบบวัตถุดิบหนังวัวไปยังเวียดนาม และกัมพูชา
และล่าสุด บริษัทได้ร่วมมือกับ KFC ออกผลิตภัณฑ์ KFC BONE TIE ขนมขัดฟันแปรรูปจากกระดูกไก่KFCสำหรับสุนัข ซึ่งมีความพิเศษคือ ช่วยขัดฟันขจัดคราบ มีโปรตีนสูง ไม่ทิ่มอวัยวะ และยังดีไซน์ พิเศษขึ้นรูปเป็นโบว์ผู้พันแซนเดอร์สอีกด้วย แถมแจกกันฟรีๆ เมื่อวันที่ 26 ส.ค. 66 หรือ วันมะหมาโลก ซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดี และเชื่อว่าผลิตภัณฑ์ใหม่ จะช่วยสร้างรายได้ที่ยั่งยืนในอนาคต