จับประเด็นหุ้นเด่น

รายงานพิเศษ : COLOR อนาคตสดใส “ธุรกิจเม็ดพลาสติก-ทุ่นโซลาร์ลอยน้ำ” โตแกร่ง


21 พฤศจิกายน 2566
ปลายปีเป็นช่วงเทศกาลของการใช้จ่ายและท่องเที่ยว  ส่งผลดีต่อการใช้เม็ดพลาสติกที่นำมาผลิตเป็นถุงพลาสติกสำหรับอุปโภคบริโภค ของบมจ.สาลี่ คัลเล่อร์ (COLOR)   ขณะที่กระแสพลังงานสะอาดก็สนับสนุนยอดขายทุ่นโซลาร์ลอยน้ำ  ทำให้ กรรมการผู้จัดการมั่นใจรายได้ปีนี้ใกล้เคียงปีก่อน

รายงานพิเศษ COLOR.jpg

สถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบันที่มีความผันผวน ทำให้ภาคธุรกิจต้องปรับตัวเพื่อรับกับความเสี่ยงที่เกิดขึ้น ซึ่งธุรกิจที่มีการแตกไลน์ ต่อยอดธุรกิจ หรือกระจายลงทุนในธุรกิจอื่น จะรองรับความเสี่ยงได้ดี  โดยเฉพาะบมจ.สาลี่ คัลเล่อร์ (COLOR)  ที่ทำธุรกิจผลิตเม็ดพลาสติก  และธุรกิจพลังงานทดแทน ผลิตทุ่นโซลาร์ลอยน้ำ (Floating Solar) และธุรกิจภาคการเกษตร

ซึ่งช่วงปลายปีเป็นไฮซีชั่นของธุรกิจ  โดยกลุ่มเม็ดพลาสติกได้ประโยชน์จากบรรจุภัณฑ์สำหรับอุปโภคบริโภค สอดคล้องกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่มีมากขึ้น โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา  แจ้งว่า ช่วงวันที่ 13-19 พ.ย. 66 มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาไทยทั้งสิ้น 612,904 คน เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้า 1,783 คน คิดเป็น 0.29% คิดเป็นจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยเฉลี่ยวันละ 87,558 คน 
          
สำหรับ 5 อันดับแรกของนักท่องเที่ยวต่างชาติ มาเลเซีย เป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าไทยมากที่สุดจำนวน 83,900 คน รองลงมา ได้แก่ จีน 72,693 คน รัสเซีย 41,408 คน อินเดีย 38,466 คน และเกาหลีใต้ 34,397 คน

ส่วนจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 66 ที่ผ่านมา ทั้งสิ้น 23,854,242 คน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้ว 1,010,206 ล้านบาท  โดยนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าไทยมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ อันดับ 1 มาเลเซีย 3,908,345 คน รองลงมา คือ จีน 2,975,155 คน เกาหลีใต้ 1,410,355 คน อินเดีย 1,393,178 คน และรัสเซีย 1,211,611 คน ตามลำดับ

สอดคล้องกับมุมมองนายพีรพันธ์  จิวะพรทิพย์ กรรมการผู้จัดการ  COLOR   ที่เชื่อว่า แนวโน้มธุรกิจในไตรมาส 4 /2566 จะเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง และสามารถทำผลงานได้สูงสุด เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา จากกลุ่มธุรกิจผลิตเม็ดพลาสติก ซึ่งเป็นธุรกิจหลักที่มีกำลังซื้อเข้ามาต่อเนื่อง  ตามความต้องการใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร โดยเฉพาะสินค้าที่เกี่ยวข้องกับพลาสติกประเภทสินค้าบรรจุภัณฑ์ อุปโภคบริโภค และผลิตภัณฑ์พลาสติกเกี่ยวข้อง รวมทั้ง ในช่วงปลายปีจะเป็นช่วงเทศกาลต่างๆ ที่สนับสนุนธุรกิจของบริษัทฯ

ขณะที่ธุรกิจใหม่ด้านพลังงานทดแทนประเภท ผลิตทุ่นโซลาร์ลอยน้ำ (Floating Solar) ซึ่งบริษัทได้รับงานอย่างต่อเนื่อง  โดยกลุ่มธุรกิจพลังงานทดแทน ผลิตทุ่นโซลาร์ลอยน้ำ (Floating Solar) ของบริษัท เดอะบับเบิ้ลส์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย จะสร้างรายได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในไตรมาส 4/2566 นี้  ซึ่งบริษัทฯ รับเป็นผู้ออกแบบ จำหน่าย และติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน (EPC) การผลิตทุ่นโซลาร์ลอยน้ำ (Floating Solar) มูลค่าโครงการรวม 347.22 ล้านบาท

และบริษัทฯ ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับ บริษัท แพลนเน็ต คอมมิวนิเคชั่น เอเชีย จำกัด (มหาชน) (PLANET) ซึ่งปัจจุบันดำเนินการติดตั้งกว่า 90% โดยคาดว่าจะรับรู้รายได้ ประมาณ 50 - 70 % ของมูลค่าโครงการ และที่เหลือรับรู้ได้ในปีถัดไป

"ปีนี้เป็นอีกปีที่ท้าทายสำหรับบริษัทฯ ซึ่งรู้สึกพอใจผลประกอบการไตรมาส 3/2566 ที่ออกมายังรักษาระดับรายได้ที่ใกล้เคียงกัน เมื่อเทียบไตรมาส 1/2566 และไตรมาส 2/2566 หลักๆ มาจากการปรับตัวลงของราคาวัตถุดิบในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา ทำให้สามารถารแข่งขันได้อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งมีความต้องการสินค้าทั้งอุปโภคและบริโภคเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ในไตรมาส 4/2566 จะเห็นผลงานที่ดีขึ้น เนื่องจากมีการรับรู้รายได้เพิ่มของธุรกิจพลังงานทดแทน Floating Solar " นายพีรพันธ์ กล่าว

รวมถึงบริษัทฯ จะเร่งสร้างรายได้เพิ่มเพื่อการเติบโตแข็งแกร่ง และสร้างผลตอบแทนที่ดีต่อผู้ถือหุ้น โดยการขยายธุรกิจทุกรูปแบบในทุกหน่วยธุรกิจ ควบคู่กับการสร้างรายได้ที่ต่อเนื่อง ทั้งธุรกิจผลิตเม็ดพลาสติก และธุรกิจใหม่ พลังงานทดแทน ผลิตทุ่นโซลาร์ลอยน้ำ (Floating Solar) และธุรกิจภาคการเกษตร รวมทั้งการพัฒนาสินค้าใหม่ๆ เร่งหาลูกค้าในอุตสาหกรรมอื่นๆ เพิ่มเติม

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างรอการเซ็นสัญญาเข้ารับงาน มูลค่ารวมประมาณ 85 ล้านบาท ซึ่งเป็นงานภาครัฐและเอกชน คาดว่าจะมีความชัดเจนเร็วๆ นี้ สนับสนุนการสร้างรายได้ในอนาคต ขณะเดียวกัน จะควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อลดต้นทุนอีกด้วย โดยรายได้ปีนี้คาดว่าจะใกล้เคียง จากปีก่อนมีรายได้รวม 1,256 ล้านบาท