Gossip Station..by เจ๊จิ๋ม

เจ๊จิ๋ม..สายเถื่อน 23-11-23


23 พฤศจิกายน 2566
เจ๊จิ๋ม..สายเถื่อน 23-11-23

23-11-23 สวัสดีพี่น้องชาวไทย "เจ๊จิ๋ม" มารายงานตัว ณ ที่เก่าเวลาเดิม www.share2trade.com เปิดอ่านได้เลยเวลา 7.30 น.มีเรื่องเด็ดๆ โดนๆ มาเม้าท์กันให้สนั่นวงการลงทุนของพวกเรากันเถอะ    
 
***"เกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์"บิ๊กบอส LEO ขยันทำงานฝุดๆ สมกับที่ได้รับรางวัลรางวัลเกียรติยศ " Best CEO Awards " ในฐานะผู้บริหารยอดเยี่ยม กลุ่มบริษัทจดทะเบียนในตลาด mai ที่มีวิสัยทัศน์โดดเด่น สามารถพัฒนาและนำพาองค์กรให้เติบโตท่ามกลางสถานการณ์ที่มีความท้าทายรอบด้าน  สร้างผลประกอบการที่ยอดเยี่ยม นำองค์กรก้าวไปสู่ความสำเร็จและเติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งมีการกำกับดูแลกิจการที่ดี คำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสียอย่างรอบด้าน ภายใต้หลักการ ESG  

***ด้วยรายข่าวล่าสุดแจ้งว่า Advantis LEO Thailand  (เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง Advantis Group บริษัทขนส่งและโลจิสติกส์ชั้นนำที่ดำเนินงานในเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กับ LEO บริษัทผู้ให้บริการโลจิสติกส์สัญชาติไทยที่สามารถให้บริการโลจิสติกส์แบบครบวงจรครอบคลุมทั่วโลก)  จัดพิธีเปิดศูนย์โลจิสติกส์แบบมัลติยูสเซอร์ ที่ถนนบางนา - ตราด กม.19   ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์ของบริษัทฯ ในการนำเสนอบริการโลจิสติกส์แบบครบวงจร ซึ่งปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการของลูกค้าทั้งในและตปท.

***ศูนย์โลจิสติกส์แห่งใหม่นี้ตั้งอยู่บนถนน บางนา - ตราด กม.19 ซึ่งเป็นทำเลยุทธศาสตร์ที่ติดต่อเชื่อมโยงกับศูนย์กลางการคมนาคมสำคัญต่าง ๆ เช่น ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าเรือแหลมฉบัง และกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และให้บริการแบบครบวงจร เช่น บริการคลังสินค้าและศูนย์กระจายสินค้าแบบออนดีมานด์ บริการโลจิสติกส์แบบครบวงจร (ทั้งขาเข้าและขาออก) และบริการที่ปรับตามความต้องการของลูกค้าในทุกภาคอุตสาหกรรม ได้แก่  อุตสาหกรรมเทคโนโลยีและโทรคมนาคม สินค้าอุปโภคบริโภค เกษตรกรรม และเครื่องนุ่งห่ม 

***อีกทั้งยังทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการขนส่งสินค้าอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนและบริการโลจิสติกส์ครบวงจร โดยเป็นการขนส่งจากประเทศไทยไปยังประเทศอื่น ๆ เช่น ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศในทวีปอื่นๆ  รวมทั้งเป็นคลังสินค้าของ "Advantis LEO Thailand" แห่งแรกที่จัดตั้งขึ้นในประเทศไทย ซึ่งบริษัทฯ วางแผนจะเพิ่มศูนย์โลจิสติกส์อีกหลายแห่งให้เป็นเครือข่ายในอนาคต

***ว๊าวววว ปรบมือรัวๆๆๆ ให้กับ AMR เดินหน้าลุยทำงานหนักจริงๆ ล่าสุดประกาศความร่วมมือทางธุรกิจครั้งสำคัญกับ BOTLINK ลุยโปรเจคนำหุ่นยนต์ทำความสะอาด และบริการมาประยุกต์ มาใช้ในโรงงาน คลังสินค้า เมืองและนิคมอุตสาหกรรมอัจฉริยะ ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าในทุกมิติ งานนี้ "ณัฏฐชัย ศิริโก" ซีอีโอคนเก่งบอกว่า AMR ยังคงมุ่งเน้นการสร้างโอกาสทางธุรกิจของบริษัทฯอย่างต่อเนื่อง 

***“ปัจจุบัน ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และด้วยทิศทางค่าแรงที่เพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับเทคโนโลยีด้านเครื่องจักรและหุ่นยนต์ที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว  ทำให้ภาคอุตสาหกรรมมีการปรับตัว โดยการนำหุ่นยนต์เข้ามาใช้มากขึ้น  ซึ่งเชื่อว่าการลงนามในบันทึกข้อตกลงร่วมกันในครั้งนี้ จะเป็นการพัฒนาเพื่อต่อยอดธุรกิจในการนำหุ่นยนต์ทำความสะอาดและบริการมาประยุกต์กับกลุ่มอาคารขนาดใหญ่ รวมถึงโรงงาน และคลังสินค้า ซึ่งทั้ง  AMR และ BOTLINK ต่างมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ทั้งในด้าน  AI, Robotics, Digitalization, Control, Programming, Digital Twins ถือเป็นการต่อยอดในการสร้างธุรกิจและรายได้แก่บริษัททั้งสองต่อไป” 

***ฝั่่งของ ดร.เอกรินทร์ วาสนาส่ง บิ๊กบอส BOTLINK ซึ่งเป็นผู้ให้บริการด้านโซลูชั่นหุ่นยนต์สำหรับธุรกิจในหลากหลายประเภทบอกว่า “ความร่วมมือโครงการพัฒนาธุรกิจฯ ระหว่าง BOTLINK กับทาง AMR ในครั้งนี้  เราจะสามารถใช้จุดแข็ง และความเชี่ยวชาญของทั้งคู่ เพื่อพัฒนาโซลูชั่นใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ให้กับธุรกิจในประเทศไทย ในราคาที่สมเหตุสมผล และรูปแบบการให้บริการใหม่ ๆ ที่ไม่ต้องลงทุนสูงในครั้งเดียว แถมยังได้ผลลัพธ์ที่จับต้องได้ในทันที โลกของหุ่นยนต์พัฒนารวดเร็วกว่าที่เราคิดนะครับ และเป็นอนาคตที่ยากจะหลีกเลี่ยง”

***หันกลับมาทาง TSE ได้ส่งซิกถึงผลงานไตรมาส 4/66 คาดว่าจะโตต่อเนื่อง โดยได้แรงหนุนภายหลังการ COD โครงการ “โอนิโกเบ (Onikoube)” โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ประเทศญี่ปุ่น ที่มีกำลังการผลิต 133 เมกะวัตต์ ทางด้านซีอีโอสวย+เก่ง+วิชั่นไกล "ดร. แคทลีน มาลีนนท์" ปักหมุดรายได้ปีนี้จะทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 

***ส่วนแผนธุรกิจจากนี้ TSE เร่งเดินเกมรุกธุรกิจ Private PPA  แบบครบวงจร เริ่มตั้งแต่การวิเคราะห์การลงทุน การออกแบบ การติดตั้ง การบำรุงรักษา มีการรับประกันตลอดอายุสัญญา ตามความต้องการของลูกค้า โดยลูกค้าไม่ต้องลงทุนแต่อย่างใดทั้งยังสามารถเลือกรูปแบบการติดตั้งและการบริหารค่าไฟฟ้าที่เหมาะสมกับการใช้งานขององค์กร เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้ารายย่อยและกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมสำหรับการลดค่าใช้จ่ายค่าไฟฟ้า

***ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง..ยังไปได้สวย "เฮียขจรศิษฐ์" นายใหญ่ของ SA แจ้งข่าวมาว่าแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/2566 คาดว่าจะเติบโตไม่น้อยกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากมีแผนการรับรู้รายได้จากยอดโอนโครงการ Landmark @ MRTA Station บนทำเล New CBD ใกล้รถไฟฟ้าสายสีส้ม โดยปัจจุบันมียอดขายรอโอน (Backlog) จากโครงการนี้ประมาณ 5,000 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยโอนตั้งแต่ไตรมาส 4/2566 เป็นต้นไป  

***นอกจากนี้ SA ยังมีโครงการอสังหาริมทรัพย์อื่นๆ ที่เตรียมทยอยโอนเพิ่มเติม อาทิ โครงการแนวราบ 3 โครงการ, กลุ่ม Ready to move เช่น Ramada Residence ( Siamese Sukhumvit 87), Ramada Plaza by Wyndham Bangkok Sukhumvit 48 (Siamese Sukhumvit 48), Siamese Exclusive 31, Blossom Condo at Sathorn-Charoenrat และ Siamese KIN อีกทั้งมีรายได้จากธุรกิจบริการ อาทิ กลุ่มโรงแรม กลุ่มร้านอาหาร เป็นต้น และภายในเดือนธ.ค.นี้ SA มีแผนที่จะเปิดดำเนินการโรงแรมอีก 1 แห่ง  Tribe Living Bangkok Sukhumvit 39 ซึ่งจะเปิดให้บริการห้องพักรวมถึงเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์จำนวน 272 ห้อง ด้วยห้องระดับพรีเมียมที่มีขนาดกว้างขวางเหมาะสำหรับการเข้าพักระยะยาว จึงเชื่อมั่นว่าจะเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ช่วยผลักดันผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/2566 เติบโตได้อย่างแข็งแกร่งต่อไป

***อย่าๆๆๆๆ อย่ามองข้าม PTG เด็ดขาด!!! ของเค้าเด็ด!!! กูรูหุ้นจากหลายค่ายที่พร้อมใจกันเชียร์ “ซื้อ” แถมประกาศชัดเจนธุรกิจสตรอง!  โดยเฉพาะ Q4/66 ที่ส่งซิกทำระดับสูงสุดของปี รับอานิสงส์ค่าการตลาดน้ำมันฟื้นตัวและปริมาณการขายเพิ่มขึ้นตาม High Season ของฤดูกาลท่องเที่ยวหนุนการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้น  เคาะราคาเป้าหมาย 10.00 -10.70 บาทต่อหุ้น…ส่งสัญญาณดีขนาดนี้ ผู้ถือหุ้นสบายใจหายห่วง PTG พื้นฐานแน่น เคลียร์พอร์ตรอได้เลย!!!! 

***ไม่แผ่นนะคะคุณข๋า TPS หุ้นในใจจิ๋ม ผลงานกำไร 9 เดือนปี 66 โตแบบสวยๆ 73.86 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.45% จากงวดเดียวกันปีก่อน บอสใหญ่ “ขุ่นพี่บุญสม" สั่งลุยเดินหน้าประมูลงานใหม่ โดยเฉพาะงานภาครัฐขนาดใหญ่ เพื่อมาเติม Backlog ที่ตุนไว้กว่า 2,285 ล้านบาท แถมไม่ต้องรอลุ้นกันให้เหนื่อย เพราะแนวโน้ม Q4/2566 สัญญาณมาดี ทำนิวไฮได้อย่างแน่นอน เอาเป็นว่า หุ้นผลงานดีต่อเนื่องแบบนี้ ต้องมีติดพอร์ตไว้เลย!!!

***ปิดท้ายกับเรื่องร้อนๆ ของวงการ ตลท. บอกว่าเอาจริงแล้วนะ! ออกเกณฑ์คุมชอร์ตเซล โดยเป็นเรื่องราวเกี่ยวเนื่องจากที่เกิดความกังวลในเรื่องของธุรกรรมที่ใช้โปรแกรมซื้อขายอัตโนมัติ หรือชอร์ตเซล และการยืมหุ้นมาขายเพื่อลงทุนช่วงที่ราคาหุ้นปรับลดลง แต่ไม่มีหุ้นในมือ หรือ Naked Short ส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นไทย และความไม่เป็นธรรมต่อนักลงทุนรายย่อยนั้น จนล่าสุด ก.ล.ต. ได้ออกประกาศให้ใช้อำนาจปรับเกณฑ์และเพิ่มระบบตรวจสอบ ยกระดับมาตรการดูแลการขายชอร์ตเซลนั้น 

***ตลท.บอกว่าได้เริ่มจากการตรวจสอบบัญชีกองทุนรวมแบบไม่เปิดเผยชื่อผู้ถือหน่วยลงทุน (Omnibus Account) ซึ่งที่ผ่านมาเป็นช่องโหว่ในการขายชอร์ตแบบไม่มีหุ้นจริง (Naked Short) ผ่านการสั่งบริษัทหลักทรัพย์ (โบรกเกอร์) ให้ส่งหลักฐานการยืมหุ้นของลูกค้าที่ขายชอร์ตภายใน 15 วัน ไม่เช่นนั้นจะถือว่าเป็นการทำ Naked Short และจะมีการดำเนินการทางวินัยกับโบรกเกอร์ต่อไป ...ถามว่า "กลัวมั๊ย"???? ต้องรอดูกันต่อไป