รายงานพิเศษ : รัฐบาลตั้งเป้าดันไทยเป็น Hub EV อาเซียน หนุน STARK โตก้าวกระโดด
รัฐบาลวางนโยบายผลักดันไทยเป็น Hub ยานยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือ EV ของอาเซียน สนับสนุนการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ตามเป้าหมายการเป็นกลางทางคาร์บอน ในปี 93ของไทย หนุนการเติบโต บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น หรือ STARK ที่มีบริษัทย่อยทำธุรกิจผลิตสายไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ และสายไฟสำหรับ EV charging solutions ใหญ่ที่สุดในโลก
การเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศ มีปัจจัยสนับสนุนจากพื้นที่ภูมิศาสตร์และการสนับสนุนจากรัฐบาล ประเทศไทยจึงเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และถูกเรียกว่าดีทรอยต์แห่งเอเชีย (Detroit of Asia)
และอนาคตเมื่อกระแสยานยนต์ไฟฟ้ามาแทนที่ยานยนต์ที่ใช้พลังงานสันดาป ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์ต้องปรับตัวให้เข้ากับกระแสของโลกที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งรัฐบาลมีเป้าหมายที่จะผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาค และมีนโยบายสนับสนุนผู้ประกอบการรถยนต์ EV เพื่อสนับสนุนการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ตามเป้าหมายของไทยในการเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปี 93 และปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emission) ภายในปี 2608
โดยรัฐบาลได้ดำเนินนโยบาย ทั้งในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว เพื่อกระตุ้นการลงทุนในประเทศไทย ผลักดันไทยไปสู่การเป็นฐานการผลิต และการลงทุนยานยนต์ที่สำคัญของโลกหรือศูนย์กลางของภูมิภาค โดยเฉพาะยานยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วน
ด้านนายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) มั่นใจประเทศไทยมีศักยภาพเพียงพอที่จะเป็นศูนย์กลางการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาคได้ในอีก 2 ปีข้างหน้า แม้ที่ผ่านมาประเทศจะต้องพบกับวิกฤตเศรษฐกิจหลายต่อหลายครั้ง แต่ประเทศไทยยังได้รับความสนใจในสายตาของนัก โดยเฉพาะกลุ่ม EV นักลงทุนทั้งจากประเทศจีน ญี่ปุ่น ยุโรป ต่างเห็นว่าไทยมีศักยภาพพอที่จะเป็น Hub ด้าน EV ได้ในอีก 2 ปีข้างหน้า
การเติบโตของยานยนต์พลังงานไฟฟ้า ส่งผลดีต่อบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)หรือ STARK ที่มีบริษัทย่อยเป็นผู้ประกอบกิจการรายใหญ่ในการผลิตสายไฟฟ้าและสายเคเบิ้ล อีกทั้งยังมีประสบการณ์ในธุรกิจสายไฟฟ้าและสายเคเบิ้ลมามากกว่า 50 ปี นอกจากธุรกิจสายไฟฟ้าและสายเคเบิ้ล
และที่ผ่านมาบริษัทได้มีการลงทุนซื้อกิจการเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยเข้าซื้อกิจการ Business Group Automotive & EV cable (BG AM) ในชื่อบริษัท LEONI Kabel ซึ่งบริษัทย่อยของ LEONI AG (LEONI) ที่เป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี ที่ทำธุรกิจผลิตสายไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ (Automotive cable) และสายไฟสำหรับ EV charging solutions ใหญ่ที่สุดในโลก มียอดขายปี 2021 ประมาณ 1.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ประเทศเยอรมัน และ โรงงานผลิต 10 แห่งใน 7 ประเทศทั่วโลก ได้แก่ เยอรมัน โปแลนด์ สโลวาเกีย ฮังการี ตุรกี เม็กซิโก และ จีน
โดยมี end-users เป็น OEM ผู้ผลิตรถยนต์สันดาป และรถ EV แบรนด์ชั้นนำทั่วโลกทั้งค่ายยุโรป อเมริกัน ญี่ปุ่น และจีน จะเป็นการต่อยอดและขยายธุรกิจของ STARK เข้าสู่ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับ Automotive, EV และ Charging Solutions จากเดิมที่ STARK เป็นผู้นำอันดับ 1 ในภูมิภาคอาเซียนในสายไฟฟ้ากลุ่ม Power Cable อยู่แล้ว
ประธานกรรมการ STARK “ประกรณ์ เมฆจำเริญ” เชื่อในศักยภาพและเทคโนโลยีของ LEONI ที่เป็นผู้นำด้านสายไฟ Automotive & EV อันดับ 1 ของโลก ประสบการณ์ยาวนานและฐานลูกค้าTier 1 & Tier 2 ที่แข็งแกร่งทั่วโลก และมี Synergy ที่ชัดเจนกับธุรกิจ Power Cable เดิมของ STARK ทั้งในเรื่อง Supply Chain การจัดซื้อวัตถุดิบ โดยใช้ Economies of Scale อีกทั้งแผนการขยายธุรกิจ LEONI เข้าภูมิภาคอาเซียนที่ STARK มีฐานการผลิตอยู่แล้ว และความเป็นไปได้ที่จะขยายการผลิต Power Cable ของ STARK ไปในตลาดต่างประเทศที่ LEONI มีฐานการผลิตอยู่แล้ว ตามแนวโน้มของโลกในเรื่อง De-globalization
ซึ่งคาดการณ์การลงทุนจะเสร็จภายในไตรมาส 4 ปี 2565 และจะรับรู้รายได้ส่วนเพิ่มทันทีส่งผลให้ภาพรวมทั้งในแง่รายได้และกำไรปีนี้ นอกจากนี้ อีกทั้งคณะผู้บริหารของ LEONI เป็นบุคลากรที่มีความชำนาญและมีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมการผลิตสายเคเบิลยานยนต์ยาวนานกว่า 20 ปี สามารถถ่ายทอดความรู้ และ Know-How เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตด้วย industrial 4.0 มาใช้กับการผลิตของ STARK และการนำเทคโนโลยีเยอรมัน มาสร้าง value added ให้กับธุรกิจสายไฟ Power Cable
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2565 บริษัทฯยังคงเป้าหมายรายได้ในปีนี้ไม่ต่ำกว่า 30,000 ล้านบาท และมั่นใจว่าจะทำสถิติสูงสุดใหม่ได้ต่อเนื่อง จากรายได้หลักคือ ธุรกิจสายไฟฟ้า และสายเคเบิ้ล