Digital Asset

เกิดอะไรขึ้นกับ CZ และ Binance??


23 พฤศจิกายน 2566

ในช่วงเช้ามืดของวันที่ 22 พฤศจิกายน 2023 ได้เกิดข่าวใหญ่สะเทือนวงการคริปโทฯ จนกลายเป็นประเด็นร้อนแรงอย่างรวดเร็ว นั่นก็คือข่าวที่ Changpeng Zhao (CZ) ได้ประกาศลาออก จากการเป็น CEO ของ Binance – Crypto Exchange อันดับ 1 ของโลกที่ตนสร้างขึ้นมาและบริหาร มานานกว่า 6 ปี ด้วยเหตุนี้จึงทำให้หลายคนตกใจต่อข่าวนี้อย่างมาก แล้วสาเหตุอะไรที่ทำให้ CZ ต้องตัดสินใจแบบนี้?

คอลัมภ์ Digital Asset เกิดอะไรขึ้นกับ CZ และ Binance.jpg

เรื่องนั้นเริ่มมาตั้งแต่เมื่อเดือนมีนาคม 2023 หน่วยงาน Commodity Futures Trading Commission (CFTC) ของสหรัฐได้ทำการยื่นฟ้องร้อง Binance โดยกล่าวหาว่า Binance ว่าให้บริการตลาดซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซีให้กับชาวสหรัฐฯ อย่าง "ผิดกฎหมาย" และยังมีการกระทำอีกหลายอย่างที่หลีกเลี่ยงกฎหมายสหรัฐฯ โดยเจตนา ซึ่งอาจเรียกได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นการปราบปรามจากหน่วยงานของสหรัฐฯ ต่อ Binance ที่มี Changpeng Zhao (CZ) CEO ของ Binance ณ ขณะนั้นตกเป็นผู้ต้องหา

เรื่องราวก็ยืดเยื้อมากว่า 8 เดือน จนได้ข้อสรุป โดยทาง Department of Justice (DOJ) หรือ กระทรวง ยุติธรรมสหรัฐ ได้เสนอเงื่อนไขเพื่อแลกกับการยุติคดีความ โดยมีเนื้อหาดังนี้

  • Binance ต้องจ่ายค่าปรับเป็นมูลค่า 4,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเป็นของ Financial Crimes Enforcement Network (FinCEN) จำนวน 3,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และ Office of Foreign Assets Control (OFAC) จำนวน 968 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
  • CZ ต้องลงจากตำแหน่ง CEO และห้ามเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการบริหารเป็นเวลา 3 ปี และยังมีโอกาสถูกจำคุกเป็นระยะเวลา 18 เดือน

ปัจจุบัน CZ ยอมรับในข้อกล่าวหาที่เกี่ยวข้องกับการที่ Binance ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายต่อต้านการ ฟอกเงินของสหรัฐ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงกับกระทรวงยุติธรรม การตัดสินใจลงจากตำแหน่งครั้งนี้เป็นสิ่ง ที่จำเป็นต้องทำ เพื่อง่ายต่อการเข้ามาตรวจสอบโดยหน่วยงานอิสระในช่วง 3 ปีนี้ ซึ่งสาเหตุหลักที่โดนกล่าวหาคือเรื่องการฟอกเงินคือช่วงปี 2017 ที่ Binance ไม่ได้มีการทำ KYC ทำให้ถูกใช้เป็นแหล่งในการส่งเงินผิด กฏหมาย ทั้งจากกลุ่มผู้ก่อการร้าย กลุ่มค้ายาเสพติด และประเทศที่ถูกคว่ำบาตร

หลังจากนี้ Binance จะยังสามารถให้บริการต่อไปได้โดยไม่มี CZ ด้วยการแต่งตั้ง CEO คนใหม่คือ Richard Teng ที่มีประสบการณ์ในด้าน Regulator มากว่า 30 ปี ซึ่งนับว่ามีความเหมาะสมที่จะเข้ามาบริหาร ต่อโดย Richard Teng เคยดำรงตำแหน่ง CEO ของ Financial Services Regulatory Authority at Abu Dhabi Global Market (ADGM), Chief Regulatory Officer ของ Singapore Exchange (SGX) และ Director of Corporate Finance ที่ Monetary Authority of Singapore (MAS)

นอกจากนี้ CZ ได้เน้นย้ำว่าทาง Binance ไม่ได้โดนข้อหาเรื่อง “การนำเงินของลูกค้าไปใช้ในทางที่ ผิด” เหมือน Exchange อื่นที่เคยล่มไป และ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการปั่นราคา” ซึ่งจุดนี้ก็น่าจะคลาย ความกังวลของลูกค้า Binance ได้บ้าง

เหตุการณ์ครั้งนี้ ส่งผลกระทบต่อตลาดคริปโทฯ โดยรวม ราคาบิทคอยน์ร่วงลงมากว่า 4.69% และส่งผลกระทบโดยตรงต่อเหรียญ BNB ที่เป็นเหรียญของทาง Binance จนราคาร่วงกว่า 10.9% ทันที โดยคาด ว่ามาจากความกลัวของนักลงทุนที่กังวลถึงผลกระทบที่จะตามมาเป็น Domino แต่จากสถานการณ์ตลาด ตอนนี้ที่เริ่มเข้าสู่ความสงบและราคาปรับตัวกลับขึ้นมากว่า 3.08% ซึ่งแสดงถึงท่าทีตลาดที่เริ่มคลายกังวล

แต่สิ่งที่คนยังกังวลอยู่นั้นคือเรื่องของเงินตัวเองที่ฝากไว้บน Exchange จะยังปลอดภัยหรือไม่?  จึงทำให้มีลูกค้าบางส่วนแห่ถอนสินทรัพย์ออกมามูลค่าราว 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วง 24 ชั่วโมง ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นจำนวนที่ไม่เยอะเลยเพราะเทียบสัดส่วนแล้วคิดเป็นมูลค่าแค่ 1.5% ของทรัพย์สินทั้งหมดที่ อยู่ใน Binance เท่านั้น

ในส่วนของความเชื่อมั่นของคนในวงการต่อ CZ นั้นกลับมีมุมมองเชิงบวกมากขึ้น คนบางส่วนได้กล่าว ว่า าคือฮีโร่ที่ยอมถูกลงโทษเพื่อให้วงการนั้นได้เดินไปต่อจากการตรวจสอบทาง Binance นั้นก็มิได้ นำเงินของลูกค้าไปหมุนต่ออย่างผิดกฎหมาย เหตุนี้เองจึงทำให้ Binance ยังคงได้รับความเชื่อมั่นระดับที่สูง เหมือนเดิม

สุดท้ายนี้คนกลับมองว่านี่จะเป็นข่าวร้ายสุดท้ายก่อนที่ตลาดคริปโทฯ จะเข้าสู่ขาขึ้นอย่างเต็มตัวทุกคน ยังคงมั่นใจใน Binance ส่วน CZ นั้น ถึงแม้จะไม่มีตำแหน่งในการบริหารแล้ว แต่ก็ยังเป็นผู้ถือหุ้นอยู่นั่นเอง

แล้วอนาคตของ Binance ต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร?

จากมุมมองนักวิเคราะห์ให้ความเห็นว่า นี่เป็นปัจจัยบวกมากต่อการดำเนินการในระยะยาว เพราะเหตุการณ์ครั้งนี้เปรียบเสมือนการที่ CZ นั้นยอมกลับไปติดกระดุมเม็ดแรกให้ถูกต้องเพื่อไม่ให้เกิด ปัญหาร้ายแรงในอนาคต ถึงแม้จะแลกมาด้วยบทลงโทษที่หนักพอสมควร ซึ่งการเคลื่อนไหวต่อจากนี้ของ Binance จะราบรื่นด้วยดี แต่อาจจะมีอุปสรรคมากขึ้น จากการที่มี Regulator เข้ามามีบทบาทควบคุมมากขึ้น ทำให้อาจจะขยับตัวได้ช้ากว่าแต่ก่อน แต่นั่นก็แลกมากับการที่ได้รับความน่าเชื่อถือมากขึ้นด้วย ทั้งนี้ Binance Global จะยังดำเนินการต่อไป ส่วน Binance-TH by Gulf-Binance ที่มีแผนจะเปิดตัวในช่วงต้นปี 2024 นั้น คาดว่าจะยังคงดำเนินการตามแผนเดิมไม่มีเปลี่ยนแปลง เพราะเรื่องของเอกสารต่าง ๆ ที่ดำเนินการกับ Regulator ในไทยก็เรียบร้อยดี คาดว่าต้นปี 2024 น่าจะเปิดให้ผู้ใช้งานได้ใช้บริการ

อย่างไรก็ตาม การตอบสนองของคนในตลาดต่อข่าวนั้นแสดงให้เห็นว่าเหตุการณ์นี้ไม่มีความน่ากังวล มากนัก เมื่อเทียบกับวิกฤตการณ์ครั้งก่อน ๆ ซึ่งอดีตก็เคยมีเหตุการณ์คล้ายคลึงกันที่ CEO ของ Bitmex ลาออกจากการถูกฟ้องร้อง แต่สุดท้ายตลาดก็ไม่ได้ร่วงแรงและตลาดโดยรวมยังคงปรับตัวขึ้นเรื่อย ๆ จึงสรุป ได้ว่านี่จะเป็นปัจจัยบวกที่จะไม่มีข่าวร้ายแรง ๆ มาสู่ตลาดแล้ว และ Binance ยังคงได้รับความเชื่อมั่นจากคน ในวงการเหมือนเดิม แต่ก็ยังน่าติดตามต่อไปว่า Exchange เจ้าอื่น ๆ จะถูกฟ้องเหมือนพี่ใหญ่อย่าง Binance หรือไม่? และผลการตัดสินคดีความของ Coinbase, Kraken และ Tether นั้นจะจบลงอย่างไร โปรดติดตาม ข่าวอย่างใกล้ชิด!!

เรียบเรียงโดย
นายณัฐพงษ์  ชรัวสวรรค์ นักวิเคราะห์ (Analyst)  บริษัท คริปโตมายด์ แอดไวเซอรี่ จำกัด
นายอภินัทธ์  เดชดอนบม นักวิเคราะห์ (Analyst) บริษัท คริปโตมายด์ แอดไวเซอรี่ จำกัด

binance23112023.png