กระดานข่าว
GGC แจ้งงบ Q3/66 รายได้รวมแตะ 3,940 ลบ. เริ่มรับรู้รายได้จากธุรกิจใหม่ Food & Nutraceutical
23 พฤศจิกายน 2566
บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ “GGC” รายงาน ผลประกอบการไตรมาส 3/2566 มีรายได้จากการขายรวม 3,940 ล้านบาท และมี Adjusted EBITDA จำนวน 132 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลกระทบจาก Stock Loss & NRV ส่งผลให้มีผลขาดทุนสุทธิ จำนวน 262 ล้านบาท เหตุราคาเมทิลเอสเทอร์ และแฟตตี้แอลกอฮอล์ ผันผวนตามราคาวัตถุดิบ พร้อมระบุ หลังประกาศเดินหน้าสู่ธุรกิจผลิตภัณฑ์ที่สร้างมูลค่าเพิ่ม Food & Nutraceutical ล่าสุดเริ่มรับรู้รายได้เข้ามาแล้ว 23 ล้านบาท คาดเป็นสัญญาณเชิงบวกต่อธุรกิจในอนาคต
นายกฤษฎา ประเสริฐสุโข กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GGC เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2566 ว่า GGC มีรายได้จากการขายรวมทั้งหมด 3,940 ล้านบาท ปรับตัวลดลงจากไตรมาส 3 ในปีก่อน 32% (YoY) โดยในไตรมาส 3 นี้ มี Adjusted EBITDA จำนวน 132 ล้านบาท ภายหลังจากหักผลกระทบจาก Stock Loss & NRV จำนวน 222 ล้านบาทแล้ว มีผลขาดทุนสุทธิ จำนวน 262 ล้านบาท
โดยปัจจัยที่ทำให้ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2566 ปรับตัวลดลง เนื่องจากราคาขาย กลุ่มธุรกิจเมทิลเอสเทอร์ ในไตรมาสดังกล่าวปรับตัวลดลง 16% YoY ตามราคาน้ำมันปาล์มดิบ ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่ปรับตัวลดลง เนื่องจากปริมาณสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบในประเทศที่เพิ่มขึ้นจากปีก่อน อีกทั้งช่วงฤดูฝนในไตรมาส 3
ที่ทำให้การเดินทางของประชาชนและการขนส่งสินค้าในประเทศลดลง ประกอบกับสถานการณ์การแข่งขัน
ที่รุนแรงในอุตสาหกรรม ทำให้ปริมาณการขายเมทิลเอสเทอร์ ปรับตัวลด 6% YoY โดย GGC รับรู้รายได้ในธุรกิจเมทิลเอสเทอร์ จำนวน 2,696 ล้านบาท ลดลง 22% YoY
เช่นเดียวกันกับ กลุ่มธุรกิจแฟตตี้แอลกอฮอล์ ที่ราคาผลิตภัณฑ์แฟตตี้แอลกอฮอล์ ปรับลดลง 32 % ตามราคาน้ำมันเมล็ดในปาล์มดิบที่ลดลง จากความกังวลด้านเศรษฐกิจถดถอย และสถานการณ์ความไม่แน่นอนของสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนที่ยังมีอยู่ กดดันให้ราคาวัตถุดิบและราคาผลิตภัณฑ์ ปรับตัวลดลงตามกัน โดยความกังวลด้านเศรษฐกิจถดถอย ยังเป็นปัจจัยที่มีผลต่อความต้องการผลิตภัณฑ์แฟตตี้แอลกอฮอล์อีกด้วย ที่ส่งผลให้ผู้ซื้อจัดซื้อตามความจำเป็น อีกทั้งผู้ซื้อ Short Chain แฟตตี้แอลกอฮอล์มีทางเลือกในการจัดหาสินค้ามากขึ้น ซึ่งเป็นจากฝั่งผู้ผลิตแฟตตี้แอลกอฮอล์จากแฟตตี้แอซิด (Fatty Acids) และแฟตตี้แอลกอฮอล์สังเคราะห์ (Synthetic Fatty Alcohol) ที่มีผลผลิตเข้าสู่ตลาดมากขึ้น
นอกจากนี้ GGC หยุดดำเนินการผลิตชั่วคราว เพื่อเปลี่ยนตัวเร่งปฏิกิริยา (Catalyst) ส่งผลให้ปริมาณขายในไตรมาสนี้ลดลง 12% YoY ซึ่งจากปัจจัยข้างต้น ทำให้ GGC รับรู้รายได้ของธุรกิจผลิตภัณฑ์แฟตตี้แอลกอฮอล์ จำนวน 1,221 ล้านบาท ลดลง 48% YoY
อย่างไรก็ตาม จากแผนกลยุทธ์ของ GGC ที่มุ่งสู่ธุรกิจผลิตภัณฑ์ที่สร้างมูลค่าเพิ่ม โดยได้เริ่มดำเนินธุรกิจ Food & Nutraceutical จำหน่ายผลิตภัณฑ์ส่วนประกอบอาหารและโภชนเภสัชต่างๆ อาทิ กลุ่มสารให้ความหวาน กลุ่ม Plant Based Protein กลุ่ม Antioxidant Extract เป็นต้น โดยในไตรมาส 3/2566 นี้ เริ่มรับรู้รายได้จากธุรกิจ Food & Nutraceutical เข้ามาแล้วจำนวน 23 ล้านบาท ถือเป็นการส่งสัญญาณเชิงบวกต่อธุรกิจใหม่ในอนาคตของ GGC
นายกฤษฎา ประเสริฐสุโข กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GGC เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2566 ว่า GGC มีรายได้จากการขายรวมทั้งหมด 3,940 ล้านบาท ปรับตัวลดลงจากไตรมาส 3 ในปีก่อน 32% (YoY) โดยในไตรมาส 3 นี้ มี Adjusted EBITDA จำนวน 132 ล้านบาท ภายหลังจากหักผลกระทบจาก Stock Loss & NRV จำนวน 222 ล้านบาทแล้ว มีผลขาดทุนสุทธิ จำนวน 262 ล้านบาท
โดยปัจจัยที่ทำให้ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2566 ปรับตัวลดลง เนื่องจากราคาขาย กลุ่มธุรกิจเมทิลเอสเทอร์ ในไตรมาสดังกล่าวปรับตัวลดลง 16% YoY ตามราคาน้ำมันปาล์มดิบ ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่ปรับตัวลดลง เนื่องจากปริมาณสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบในประเทศที่เพิ่มขึ้นจากปีก่อน อีกทั้งช่วงฤดูฝนในไตรมาส 3
ที่ทำให้การเดินทางของประชาชนและการขนส่งสินค้าในประเทศลดลง ประกอบกับสถานการณ์การแข่งขัน
ที่รุนแรงในอุตสาหกรรม ทำให้ปริมาณการขายเมทิลเอสเทอร์ ปรับตัวลด 6% YoY โดย GGC รับรู้รายได้ในธุรกิจเมทิลเอสเทอร์ จำนวน 2,696 ล้านบาท ลดลง 22% YoY
เช่นเดียวกันกับ กลุ่มธุรกิจแฟตตี้แอลกอฮอล์ ที่ราคาผลิตภัณฑ์แฟตตี้แอลกอฮอล์ ปรับลดลง 32 % ตามราคาน้ำมันเมล็ดในปาล์มดิบที่ลดลง จากความกังวลด้านเศรษฐกิจถดถอย และสถานการณ์ความไม่แน่นอนของสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนที่ยังมีอยู่ กดดันให้ราคาวัตถุดิบและราคาผลิตภัณฑ์ ปรับตัวลดลงตามกัน โดยความกังวลด้านเศรษฐกิจถดถอย ยังเป็นปัจจัยที่มีผลต่อความต้องการผลิตภัณฑ์แฟตตี้แอลกอฮอล์อีกด้วย ที่ส่งผลให้ผู้ซื้อจัดซื้อตามความจำเป็น อีกทั้งผู้ซื้อ Short Chain แฟตตี้แอลกอฮอล์มีทางเลือกในการจัดหาสินค้ามากขึ้น ซึ่งเป็นจากฝั่งผู้ผลิตแฟตตี้แอลกอฮอล์จากแฟตตี้แอซิด (Fatty Acids) และแฟตตี้แอลกอฮอล์สังเคราะห์ (Synthetic Fatty Alcohol) ที่มีผลผลิตเข้าสู่ตลาดมากขึ้น
นอกจากนี้ GGC หยุดดำเนินการผลิตชั่วคราว เพื่อเปลี่ยนตัวเร่งปฏิกิริยา (Catalyst) ส่งผลให้ปริมาณขายในไตรมาสนี้ลดลง 12% YoY ซึ่งจากปัจจัยข้างต้น ทำให้ GGC รับรู้รายได้ของธุรกิจผลิตภัณฑ์แฟตตี้แอลกอฮอล์ จำนวน 1,221 ล้านบาท ลดลง 48% YoY
อย่างไรก็ตาม จากแผนกลยุทธ์ของ GGC ที่มุ่งสู่ธุรกิจผลิตภัณฑ์ที่สร้างมูลค่าเพิ่ม โดยได้เริ่มดำเนินธุรกิจ Food & Nutraceutical จำหน่ายผลิตภัณฑ์ส่วนประกอบอาหารและโภชนเภสัชต่างๆ อาทิ กลุ่มสารให้ความหวาน กลุ่ม Plant Based Protein กลุ่ม Antioxidant Extract เป็นต้น โดยในไตรมาส 3/2566 นี้ เริ่มรับรู้รายได้จากธุรกิจ Food & Nutraceutical เข้ามาแล้วจำนวน 23 ล้านบาท ถือเป็นการส่งสัญญาณเชิงบวกต่อธุรกิจใหม่ในอนาคตของ GGC