จิปาถะ

เฮ! รถไฟฟ้าสายสีชมพู ยืดเวลานั่งฟรีถึง 2 ม.ค. 67 จากนั้นเก็บค่าบริการอัตรา 15-45 บาท


28 พฤศจิกายน 2566

รถไฟฟ้าสายสีชมพู ขยายเวลานั่งฟรีถึงวันที่ 2 ม.ค. 67 จากนั้นเก็บค่าบริการอัตรา 15-45 บาท

เฮ! รถไฟฟ้าสายสีชมพู.jpg

เว็บไซต์ thebangkokinsight รายงานว่า นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า รัฐบาลโดยกระทรวงคมนาคม ได้มอบหมายให้ นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ซึ่งกำกับดูแลการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ดำเนินการเจรจาร่วมกับ บริษัท นอร์ทเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด (NBM) ผู้รับสัมปทาน โครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู ช่วงแคราย – มีนบุรี ซึ่งบรรลุข้อตกลงร่วมกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

"โดยผู้รับสัมปทาน NBM ยินดีจะขยายช่วงเวลาให้ประชาชนสามารถใช้บริการรถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู ตลอดสาย ครบทั้ง 30 สถานี และ ที่จอดรถบริเวณชั้น 1 ของอาคารจอดแล้วจรที่สถานีมีนบุรี ฟรี ซึ่งจากเดิมที่จะสิ้นสุดในวันที่ 17 ธันวาคม 2566 จะขยายไปจนถึง วันที่ 2 มกราคม 2567 เพื่อเป็นการส่งมอบความสุขส่งท้ายปี และมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่ประชาชนทุกคน"

ทั้งนี้ มีประชาชนให้ความสนใจและตื่นตัวในการมาทดลองใช้บริการรถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู เป็นจำนวนมาก โดยมีผู้มาใช้บริการในวันที่ 21 พฤศจิกายน 2566 รวมจำนวน 50,910 คน-เที่ยว ให้บริการช่วงเวลา 15.00-20.00 น. และมีผู้มาใช้บริการในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2566 รวมจำนวน 98,262 คน-เที่ยว ให้บริการช่วงเวลา 06.00-20.00 น. สะสมสองวันมีผู้ใช้บริการรวม 149,172 คน-เที่ยว

นับเป็นเรื่องดีที่สะท้อนถึงความพร้อมในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการเดินทางของประชาชน หันมาใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะกันมากขึ้น โดยเฉพาะระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนที่ขนส่งผู้โดยสารได้คราวละมาก ๆ และใช้พลังงานไฟฟ้าในการขับเคลื่อน ก็จะช่วยบรรเทาการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศโลกไปได้อีกทางหนึ่ง

ด้านนายสุรพงษ์ กล่าวว่า รถไฟฟ้ามหานครสายสีชมพู เป็นระบบรถไฟฟ้ารางเดี่ยว (Monorail) ที่วิ่งให้บริการในเส้นทางแคราย – มีนบุรี รวมระยะทางประมาณ 34.5 กิโลเมตร มีศักยภาพในการรองรับผู้โดยสารได้ประมาณ 17,000 คนต่อชั่วโมงต่อทิศทาง ด้วยขนาด 4 ตู้ต่อขบวน โดยจะใช้ขบวนรถไฟฟ้าวิ่งให้บริการในระบบและขบวนสำรองรวมทั้งสิ้น 42 ขบวน

มีจุดเด่นในการทำหน้าที่เป็นระบบขนส่งมวลชนระบบรอง (Feeder Line) เพราะมีสถานีที่เป็นจุดเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายหลักมากถึง 5 สถานี ได้แก่

-สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม (MRT สายสีม่วง)
-สถานีหลักสี่ เชื่อมต่อกับรถไฟชานเมือง สายธานีรัถยา
-สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเขียว
-สถานีวัชรพล เชื่อมต่อกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเทาในอนาคต
-สถานีมีนบุรี เชื่อมต่อกับโครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายสีส้ม (MRT สายสีส้ม)

ทั้งนี้ จึงสามารถขนส่งผู้โดยสารจากพื้นที่ จ.นนทบุรี และตอนเหนือของกรุงเทพฯ เข้าสู่รถไฟฟ้าสายหลักที่วิ่งให้บริการในพื้นที่ใจกลางเมืองได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม 2567 เป็นต้นไป จะเริ่มจัดเก็บค่าโดยสารด้วยอัตราค่าโดยสาร 15 – 45 บาท

นอกจากนี้ ยังมีอาคารจอดแล้วจรให้บริการ 1 แห่ง ใกล้กับสถานีมีนบุรี ขนาด 3 ชั้น สามารถรองรับรถยนต์ได้ 3,025 คัน โดยมีพื้นที่จอดรถสำหรับคนพิการ และพื้นที่จอดรถจักรยานยนต์ พร้อมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ อาทิ ลิฟต์โดยสาร ห้องน้ำ ห้องน้ำคนพิการ บันไดหนีไฟ กล้องโทรทัศน์วงจรปิด ฯลฯ ไว้ให้บริการอย่างครบครัน

ผู้ใช้บริการอาคารจอดแล้วจรสามารถใช้ทางเดินเชื่อมต่อเข้าสู่สถานีมีนบุรีได้โดยสะดวก โดยตั้งแต่วันที่ 3 ม.ค.2567 เป็นต้นไป จะเริ่มเก็บค่าบริการจอดรถในอัตรา 5 บาทต่อชั่วโมง

สำหรับผู้ใช้บริการรถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู และอัตราชั่วโมงละ 20 บาท สำหรับผู้ไม่ใช้บริการรถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู กรณีผู้ถือบัตรแรบบิทสามารถเลือกใช้บริการจอดรถรายเดือนได้ในอัตรา 1,000 บาทต่อเดือน ทั้งนี้ ยกเว้นค่าบริการจอดรถให้ หากจอดรถไม่เกิน 15 นาที


ที่มา : https://www.sanook.com/money/916759/