วายแอลจีแนะสายฟิวเจอร์สเปิดสถานะซื้อ รับเทรนด์ทองคำกลับมาท็อปฟอร์ม หลังเฟดแสดงท่าทีสนับสนุนการลดอัตราดอกเบี้ย หนุนทองคำพุ่งสู่นิวไฮ มีลุ้นเห็น 2,200 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ ชี้หากดอกเบี้ยเป็นขาลงรอบนี้ส่งผลทองคำพุ่งยาว 3-5 ปี
นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG) ตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในตลาดล่วงหน้า เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ปรับขึ้นมาล่าสุด สามารถยืนเหนือ 2,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ได้อย่างน่าสนใจ เพราะมีจังหวะที่ขึ้นไปทำระดับสูงสุดที่ระดับ 2,052 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ ซึ่งใกล้เคียงกับจุดสูงสุดเป็นประวัติกาลที่ระดับ 2,078 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์
ซึ่งการปรับขึ้นของราคาทองคำเป็นการปรับตัวขึ้นรับสถานการณ์เงินเฟ้อที่เริ่มควบคุมได้ โดยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ออกมาแสดงท่าทีสนับสนุนการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟด ที่ทรงตัวในระดับสูงมาเป็นระยะเวลานานพอสมควรและเงินเฟ้อเริ่มเข้าใกล้เป้าหมายที่ 2% จึงมีแนวโน้มที่อัตราดอกเบี้ยนโยบายจะผ่อนคลายลง จากถ้อยแถลงนี้ส่งผลให้ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวลดลง และส่งผลดีต่อทองคำ ประกอบกันก่อนหน้านี้ราคาทองคำได้ย่อตัวไปพอสมควรทำให้เป็นจังหวะเข้าซื้อเพื่อสะสมรอรับเทรนด์ขาขึ้นรอบใหญ่ที่คาดว่าช่วงดอกเบี้ยขาลงใน 3-5 ปีข้างหน้า
อย่างไรก็ดีในระยะสั้นที่ราคาเริ่มปรับตัวขึ้นมาอาจจะมีแรงขายทำกำไรสลับออกมาบ้าง แต่ถ้าหากทองคำสามารถยืนเหนือ 2,018-2,032 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ได้ จะมีแรงซื้อเข้ามาทำให้เป็นขาขึ้นอย่างชัดเจน ในส่วนของนักลงทุนที่ลงทุนในตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (ฟิวเจอร์ส) ทั้งในไทยและต่างประเทศ ที่วายแอลจี เป็นผู้ให้บริการอยู่นั้น ทั้ง TFEX และตลาด CME ซึ่งเป็นตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐ สามารถลงทุนได้ในทุกบริการ เช่น Precious Metal futures, Oil futures, Cryptocurrency futures, Forex futures โดยในการลงทุนตลาดซื้อขายฟิวเจอร์สนี้วายแอลจีแนะนำเสี่ยงเปิดสถานะซื้อ โดยใช้จุดตัดขาดทุนที่ 2,018 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์
ทั้งนี้หากราคาทองคำกลับมาเป็นขาขึ้นอย่างชัดเจน วายแอลจีประเมินว่าภายในไตรมาส 1/2567 มีโอกาสที่จะเห็นราคาทองคำขึ้นไปแตะ 2,200 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ ส่วนราคาทองคำในประเทศในระยะสั้นได้รับแรงกดดันจากค่าเงินบาทที่กลับมาแข็งค่า มองว่าระยะสั้นจะเคลื่อนไหวในกรอบ แนวรับ 33,350-33,600 บาทต่อบาททองคำ ส่วนแนวต้านมองในโซน 34,100-34,400 บาทต่อบาททองคำ (คำนวณด้วยค่าเงินบาท 34.90 บาทต่อดอลลาร์ ณ วันที่ 30 พ.ย. 2566เวลา 10.20น.) ส่วนผู้ที่ต้องการเข้าซื้อทองคำเพื่อสะสมแนะนำใช้จังหวะทองคำย่อที่ 33,350-33,600 บาทต่อบาททองคำ
สำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในทองคำรูปแบบลงทุนในตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ทั้งในไทยและต่างประเทศ วายแอลจีแนะนำบริการ เปิดบัญชี TFEX กับ YLG Futures รับส่วนลดพิเศษค่าคอมมิชชั่นลดสูงสุดที่ 80% บนแอปฯ Streaming ตั้งแต่สัญญาแรก โดยไม่มีขั้นต่ำ ตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 ธันวาคม 2566 ผู้ที่สนใจสามารถเปิดบัญชีออนไลน์ได้ที่ : https://bit.ly/3sVW9eO อีกทั้งผู้ที่สนใจลงทุนในตลาดอนุพันธ์ต่างประเทศ CME Group สามารถเทรดผ่านโปรแกรม MT5 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับลูกค้า YLG Futures มีโปรโมชันพิเศษที่ให้คุ้มถึง 2 ต่อ คุ้มที่ 1 ได้แก่ ฟรี! ค่า Market Data (มูลค่า 35$/เดือน) และคุ้มที่ 2 ฟรี! ค่าธรรมเนียมทำธุรกรรมฝากและถอน สนใจสามารถเปิดบัญชีออนไลน์ได้ที่ : https://bit.ly/3N8LioN ตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 ธันวาคม 2566
นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG) ตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในตลาดล่วงหน้า เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ปรับขึ้นมาล่าสุด สามารถยืนเหนือ 2,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ได้อย่างน่าสนใจ เพราะมีจังหวะที่ขึ้นไปทำระดับสูงสุดที่ระดับ 2,052 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ ซึ่งใกล้เคียงกับจุดสูงสุดเป็นประวัติกาลที่ระดับ 2,078 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์
ซึ่งการปรับขึ้นของราคาทองคำเป็นการปรับตัวขึ้นรับสถานการณ์เงินเฟ้อที่เริ่มควบคุมได้ โดยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ออกมาแสดงท่าทีสนับสนุนการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟด ที่ทรงตัวในระดับสูงมาเป็นระยะเวลานานพอสมควรและเงินเฟ้อเริ่มเข้าใกล้เป้าหมายที่ 2% จึงมีแนวโน้มที่อัตราดอกเบี้ยนโยบายจะผ่อนคลายลง จากถ้อยแถลงนี้ส่งผลให้ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวลดลง และส่งผลดีต่อทองคำ ประกอบกันก่อนหน้านี้ราคาทองคำได้ย่อตัวไปพอสมควรทำให้เป็นจังหวะเข้าซื้อเพื่อสะสมรอรับเทรนด์ขาขึ้นรอบใหญ่ที่คาดว่าช่วงดอกเบี้ยขาลงใน 3-5 ปีข้างหน้า
อย่างไรก็ดีในระยะสั้นที่ราคาเริ่มปรับตัวขึ้นมาอาจจะมีแรงขายทำกำไรสลับออกมาบ้าง แต่ถ้าหากทองคำสามารถยืนเหนือ 2,018-2,032 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ได้ จะมีแรงซื้อเข้ามาทำให้เป็นขาขึ้นอย่างชัดเจน ในส่วนของนักลงทุนที่ลงทุนในตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (ฟิวเจอร์ส) ทั้งในไทยและต่างประเทศ ที่วายแอลจี เป็นผู้ให้บริการอยู่นั้น ทั้ง TFEX และตลาด CME ซึ่งเป็นตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐ สามารถลงทุนได้ในทุกบริการ เช่น Precious Metal futures, Oil futures, Cryptocurrency futures, Forex futures โดยในการลงทุนตลาดซื้อขายฟิวเจอร์สนี้วายแอลจีแนะนำเสี่ยงเปิดสถานะซื้อ โดยใช้จุดตัดขาดทุนที่ 2,018 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์
ทั้งนี้หากราคาทองคำกลับมาเป็นขาขึ้นอย่างชัดเจน วายแอลจีประเมินว่าภายในไตรมาส 1/2567 มีโอกาสที่จะเห็นราคาทองคำขึ้นไปแตะ 2,200 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ ส่วนราคาทองคำในประเทศในระยะสั้นได้รับแรงกดดันจากค่าเงินบาทที่กลับมาแข็งค่า มองว่าระยะสั้นจะเคลื่อนไหวในกรอบ แนวรับ 33,350-33,600 บาทต่อบาททองคำ ส่วนแนวต้านมองในโซน 34,100-34,400 บาทต่อบาททองคำ (คำนวณด้วยค่าเงินบาท 34.90 บาทต่อดอลลาร์ ณ วันที่ 30 พ.ย. 2566เวลา 10.20น.) ส่วนผู้ที่ต้องการเข้าซื้อทองคำเพื่อสะสมแนะนำใช้จังหวะทองคำย่อที่ 33,350-33,600 บาทต่อบาททองคำ
สำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในทองคำรูปแบบลงทุนในตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ทั้งในไทยและต่างประเทศ วายแอลจีแนะนำบริการ เปิดบัญชี TFEX กับ YLG Futures รับส่วนลดพิเศษค่าคอมมิชชั่นลดสูงสุดที่ 80% บนแอปฯ Streaming ตั้งแต่สัญญาแรก โดยไม่มีขั้นต่ำ ตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 ธันวาคม 2566 ผู้ที่สนใจสามารถเปิดบัญชีออนไลน์ได้ที่ : https://bit.ly/3sVW9eO อีกทั้งผู้ที่สนใจลงทุนในตลาดอนุพันธ์ต่างประเทศ CME Group สามารถเทรดผ่านโปรแกรม MT5 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับลูกค้า YLG Futures มีโปรโมชันพิเศษที่ให้คุ้มถึง 2 ต่อ คุ้มที่ 1 ได้แก่ ฟรี! ค่า Market Data (มูลค่า 35$/เดือน) และคุ้มที่ 2 ฟรี! ค่าธรรมเนียมทำธุรกรรมฝากและถอน สนใจสามารถเปิดบัญชีออนไลน์ได้ที่ : https://bit.ly/3N8LioN ตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 ธันวาคม 2566