ระวัง DELTA พาชมดอย พื้นฐานดีแต่แพง

Mr.Data

สุดยอดหุ้นฮอต! ในพ.ศ.นี้ และราคาแพงสุดในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) คงต้องยกให้พี่เบิ้มในตลาด อย่าง บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (DELTA) ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ด้านการจัดการระบบกำลังไฟฟ้า (Power management solutions) รวมถึงชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์บางประเภท ได้แก่ พัดลมอิเล็กทรอนิกส์ (DC Fan) อีเอ็มไอ ฟิลเตอร์ (EMI) และโซลินอยด์ มีฐานการผลิตอยู่ในภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก ได้แก่ เอเชีย ยุโรป และอเมริกาใต้



ราคาปิดล่าสุด ณ วันที่ 16 ก.พ.66 อยู่ที่ 976.00 บาท/หุ้น 

แต่ถ้ามองราคาย้อนหลังตั้งแต่สิ้นปี (30 ธ.ค.65) อยู่ที่ 830 บาท และราคาปรับตัวสูงสุดที่  996 บาท (7 ก.พ.66)
เพิ่มขึ้น 166 บาท หรือ 20% เทียบกับราคาปิดสิ้นปี 65

ราคาหุ้น DELTA ขึ้นทำเนียบราคาสูงสุดเป็นอันดับ 1 หากเรียงชาร์ตหุ้น 5 อันดับแรกที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่มีราคาสูงสุดในปัจจุบัน

1.DELTA    976 บาท/หุ้น
2.OHTL    466 บาท/หุ้น
3.M-CHAI    376 บาท/หุ้น
4.SCC        340 บาท/หุ้น
5.KYE        308 บาท/หุ้น

ที่มา : ตลาดหลักทรัพย์ฯ (ราคาปิด ณ วันที่ 16 ก.พ.66)

ถามว่า DELTA ยังน่า “เก็งกำไร” หรือไม่???? หรือใกล้ “ปลายดอย” สัปดาห์นี้ Mr.Data มีคำตอบ 

จากข้อมูลของ IAA Consensus จากโบรกเกอร์ 10 แห่ง ให้ราคาสูงสุดที่ 1,000 บาท และราคาต่ำสุดที่ 434 บาท ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 625 บาท เมื่อเทียบกับราคาปิด ณ วันที่ 16 ก.พ.66 ที่ 976 บาท ถือว่า สูงกว่าราคาเป้าหมาย หรือราคาพื้นฐานที่โบรกเกอร์ให้ไว้

มาเริ่มจากบล.บัวหลวง ที่ให้คำแนะนำ “เก็งกำไร” หุ้น DELTA ราคาเป้าหมายพื้นฐานที่ 1,000 บาท/หุ้น เขามองเห็นอะไร 

บล.บัวหลวง ระบุว่า DELTA ตั้งเป้าหมายที่จะเติบโต 10-20% ในปี 2566 คำสั่งซื้อในระยะสั้น (3-6 เดือน) ยังคงแข็งแกร่ง โดยปัจจัยหนุนการเติบโตในปี 2566 จะมาจากสินค้าที่เกี่ยวกับยานยนต์ไฟฟ้า โรงงานใหม่ของ DELTA คาดว่าจะเริ่มดำเนินงานในช่วงกลางปี 2566 (กำลังการผลิตจะเป็นสองเท่าจากปี 2565) กำไรไตรมาส 4/65 ที่ดีกว่าคาด

ขณะที่ภาพกำไรครึ่งแรกของปี 2566 ที่จะเติบโตแกร่ง และแผนการแบ่งหุ้นออกในอัตราส่วน 10 ต่อ 1 ของผู้บริหารจะหนุนราคาหุ้นให้ไปอยู่ในสมมติฐานที่ดีที่สุดของเรา (สูงกว่าค่าเฉลี่ย 5 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน) ที่ราคาเป้าหมาย 1,000 บาท ดังนั้น เราจึงปรับคำแนะนำขึ้นจาก “ถือ” ไปเป็น “ซื้อเก็งกำไร”

ขณะที่ บล.พาย  เห็นในมุมต่าง แนะนำ “ขาย” มูลค่าพื้นฐาน 434 บาท อิง 38.6xPE’66E (ค่าเฉลี่ย 5 ปี) โดยมองว่าการเติบโตระยะยาวจาก EV เป็นเรื่องดีแต่ยังไม่เห็นผลในปี 2566

โดยรวมพื้นฐานยังแข็งแกร่ง พร้อมมีแรงหนุนจากกระแสรถยนต์ไฟฟ้า (EV) แต่มองว่ามีราคาหุ้นที่แพงระดับ 76.5xPE’66E หรือสูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดโลกที่ 16.9xPE66E อยู่ 353%

“แม้เรายังเคลงใจต่อภาพการเติบโตของ EV ในปี 66 แต่เชื่อว่าจะเป็นตัวขับเคลื่อนที่ดีในระยะยาวได้ โดยกลุ่ม EV คิดเป็น 10% ของรถที่นั่งส่วนบุคคลในตลาดโลกช่วงปี 65 และคาดว่าจะแตะ 40% ภายในปี 73 อิงข้อมูล Business Insider (17 ม.ค.) ทั้งนี้ DELTA เป็นผู้จำหน่ายอุปกรณ์เกี่ยวกับ EV ให้กับผู้เล่น EV รายใหญ่อย่าง Tesla, Volkswagen และ Mercedes Benz”

เห็นอย่างนี้แล้ว!!! แรงส่งหุ้น DELTA ที่จะทำให้ราคาทะลุ 1,000 บาท/หุ้น อาจคงต้องถูกแตะเบรก 

...แต่ก็เป็นเรื่องที่ยากจะคาดเดา เพราะ DELTA ปันผลปี 65 ในอัตรา 4 บาท/หุ้น ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 23 ก.พ.66 และแผนแตกพาร์จาก 1 บาท เป็น 0.10 บาท ที่เตรียมชงเข้าสู่การประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี 66 ในวันที่ 7 เม.ย.66 เป็นตัวเรียกแขกสายเก็งกำไร ใครจะอดใจไหว....แต่พึงระวัง ลุกช้าจ่ายรอบวง