Wealth Sharing
KLINIQ เดินหน้าขยายสาขาใหม่ ใน จ.นครศรีธรรมราช หนุนผลงานปีนี้ออลไทม์ไฮ
06 ธันวาคม 2566
นายแพทย์อภิรุจ ทองวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดอะคลีนิกค์ คลินิกเวชกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ KLINIQ กล่าวว่า KLINIQ ได้เปิดตัวสาขาใหม่ใน จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นสาขาที่ 55 และเป็นไปตามแผนการขยายสาขาในปีนี้ที่จะเพิ่มสาขาใหม่ให้ได้ครบจำนวน 15 สาขา ครอบคลุมการให้บริการทั่วพื้นที่ตามหัวเมืองใหญ่ๆ ของประเทศไทย
โดย จ.นครศรีธรรมราช เป็นจังหวัดที่มีจำนวนประชากรมากที่สุดในภาคใต้ของไทย และมีแรงขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจจากภาคการท่องเที่ยว และการบริโภคภาคเอกชนเป็นสำคัญ ซึ่งการเปิดสาขาใน จ.นครศรีธรรมราช จะส่งผลดีต่อ KLINIQ ทั้งด้านการให้บริการลูกค้าในพื้นที่ภาคใต้ที่มีกำลังซื้อสูง และจะสนับสนุนผลประกอบการของบริษัทฯ ให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งในอนาคต
ขณะเดียวกัน สาขาใหม่ดังกล่าวจะสนับสนุนผลการดำเนินงานไตรมาส 4/2566 ให้มีโอกาสเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาส 3/2566 ที่ประสบความสำเร็จจากฐานลูกค้าของ THE KLINIQUE และการขยายของ L.A.B. X และการเติบโตของศูนย์ศัลยกรรม ไตรมาส 3/2566 และส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นถึง 59.3% มี EBITDA จำนวน 137.37 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45.5% และมี SSSG เพิ่มขึ้น 16.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากการได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ทั้งกลุ่มลูกค้าเก่า และการขยายฐานลูกค้าใหม่ และสอดคล้องกับจำนวนสาขาและการเพิ่มบริการที่ครอบคลุมความต้องการของคนไข้มากขึ้น
“สาขาใหม่ใน จ.นครศรีธรรมราช จะเพิ่มพื้นที่บริการให้ครอบคลุมความต้องการของคนไข้ และการเข้าใช้บริการที่เพิ่มขึ้น ทำให้คนไข้รู้จักและเข้าถึงแบรนด์ได้มากขึ้น ทั้งกลุ่มลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยว ภายใต้นโยบายการสนับสนุนการท่องเที่ยวของภาครัฐหลังการคลี่คลายของสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งจะสนับสนุนให้ผลประกอบการโดยรวมของ KLINIQ เติบโตขึ้น พร้อมมีโอกาสทำรายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปีนี้ และจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต” นายแพทย์อภิรุจ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ณ วันที่ 30 กันยายน 2566 บริษัทฯ มีสาขาที่เปิดดำเนินการทั้งสิ้น จำนวน 50 สาขา ประกอบด้วย THE KLINIQUE 37 สาขา, L.A.B.X 11 สาขา, THE KLINIQUE SURGERY CENTER 1 สาขา และ KLINIQ SPA 1 สาขา
โดย จ.นครศรีธรรมราช เป็นจังหวัดที่มีจำนวนประชากรมากที่สุดในภาคใต้ของไทย และมีแรงขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจจากภาคการท่องเที่ยว และการบริโภคภาคเอกชนเป็นสำคัญ ซึ่งการเปิดสาขาใน จ.นครศรีธรรมราช จะส่งผลดีต่อ KLINIQ ทั้งด้านการให้บริการลูกค้าในพื้นที่ภาคใต้ที่มีกำลังซื้อสูง และจะสนับสนุนผลประกอบการของบริษัทฯ ให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งในอนาคต
ขณะเดียวกัน สาขาใหม่ดังกล่าวจะสนับสนุนผลการดำเนินงานไตรมาส 4/2566 ให้มีโอกาสเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาส 3/2566 ที่ประสบความสำเร็จจากฐานลูกค้าของ THE KLINIQUE และการขยายของ L.A.B. X และการเติบโตของศูนย์ศัลยกรรม ไตรมาส 3/2566 และส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นถึง 59.3% มี EBITDA จำนวน 137.37 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45.5% และมี SSSG เพิ่มขึ้น 16.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากการได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ทั้งกลุ่มลูกค้าเก่า และการขยายฐานลูกค้าใหม่ และสอดคล้องกับจำนวนสาขาและการเพิ่มบริการที่ครอบคลุมความต้องการของคนไข้มากขึ้น
“สาขาใหม่ใน จ.นครศรีธรรมราช จะเพิ่มพื้นที่บริการให้ครอบคลุมความต้องการของคนไข้ และการเข้าใช้บริการที่เพิ่มขึ้น ทำให้คนไข้รู้จักและเข้าถึงแบรนด์ได้มากขึ้น ทั้งกลุ่มลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยว ภายใต้นโยบายการสนับสนุนการท่องเที่ยวของภาครัฐหลังการคลี่คลายของสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งจะสนับสนุนให้ผลประกอบการโดยรวมของ KLINIQ เติบโตขึ้น พร้อมมีโอกาสทำรายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปีนี้ และจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต” นายแพทย์อภิรุจ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ณ วันที่ 30 กันยายน 2566 บริษัทฯ มีสาขาที่เปิดดำเนินการทั้งสิ้น จำนวน 50 สาขา ประกอบด้วย THE KLINIQUE 37 สาขา, L.A.B.X 11 สาขา, THE KLINIQUE SURGERY CENTER 1 สาขา และ KLINIQ SPA 1 สาขา