Mr.Data
ส่งท้ายเดือนธันวาคม 2566 หุ้นโยง Bitcoin กลับมาสร้างสีสันอีกครั้ง!
หลังจากที่ก่อนหน้ากอดคอกันดิ่งเหวตามราคา Bitcoin ในตลาดโลก ที่ดำดิ่ง
โดยล่าสุด (7 ธ.ค.66) ราคา Bitcoin กลับมายืนแถว 44,000 ดอลลาร์สหรัฐ ครั้งแรกในรอบ 19 เดือน
จากที่เคยลงไปทดสอบจุดต่ำสุดในรอบ 1 ปี ที่ระดับ 16,331.2 ดอลลาร์
และในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2564 ราคา Bitcoin ทำสถิติสูงสุดในประวัติการณ์ที่ 69,000 ดอลลาร์
Matrixport แพลตฟอร์มบริการทางการเงินของสินทรัพย์ดิจิทัล ได้ออกรายงานเมื่อ 30 พฤศจิกายน คาดการณ์ราคา Bitcoin จะแตะระดับ 60,000 ดอลลาร์สหรัฐ ภายในเดือนเมษายน และ 125,000 ดอลลาร์สหรัฐ ภายในสิ้นปี 2567 โดยได้ชี้ถึงปัจจัยสำคัญหลายประการ ทั้งการที่สถาบันการเงินให้ความสนใจมากขึ้น แนวโน้มของเศรษฐกิจมหภาค และที่สำคัญคือ SEC อนุมัติให้จัดตั้ง Spot Bitcoin ETFs
ทั้งราคาเหรียญ Bitcoin ที่กลับมาร้อนแรง และแรงเชียร์ ที่บอกว่ามีโอกาสไปต่อ Go to Moon
ทำให้นักลงทุนกลับมาเก็งกำไร... หุ้นโยง Bitcoin อีกครั้ง!
เริ่มตั้งแต่พี่เบิ้มเจ้าพ่อเหมืองขุดบิตคอยน์อย่าง JTS ที่ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 31.25% และน้องรอง ZIGA ที่ราคากลับมาฟื้นตัว แต่ก็ยัง -15.88% (เทียบราคาปิดสิ้นปี 2565)
การกลับมาทะยานของ Bitcoin
แรงหนุนสำคัญมาจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด ทำให้นักลงทุนโยกเงินกลับเข้ามาเก็งกำไร Bitcoin
ปัจจัยบวกจากการจัดตั้ง Spot Bitcoin ETF ของ Blackrock ซึ่งเป็นครั้งแรกในสหรัฐ ที่จะเปิดให้บริการในเดือน มกราคม 2567
และจากปรากฏการณ์ Halving ที่คาดว่าจะเกิดช่วงเดือน มี.ค.-พ.ค. 67
ล้วนแต่เป็นปัจจัยสนับสนุนให้นักลงทุนเข้ามาเก็งกำไร Bitcoin
ขณะที่มุมมองของ พิชัย จาวลา นักลงทุนตามแนวคิดทฤษฎีผลประโยชน์ โพสต์ผ่าน FB Pichai Chawla ในวันที่ 6 ธ.ค.66 ที่ผ่านมา ระบุว่า ในที่สุด bitcoin ก็มาถึง zone ขายที่สำคัญ เช้านี้ 44000 ต่อให้อาจข้าม 45000 ไปบ้าง ถึง 47000 หรือเกินบ้างก็ตาม ก็ไม่ใช่ประเด็น”
“ถ้าเราเรียนรู้พฤติกรรมbitcoin ทั้งกราฟและบริบท ผ่านประสบการณ์ ผ่านการเรียนรู้ย้อนหลัง 40000 กว่าจังหวะนี้ จะดูเป็นโอกาสซื้อในช่วงท้ายๆ ที่ใครยังไม่มีก็ควรรีบซื้อไม่งั้นตกรถ กราฟสวยมาก เป้าหมายต่อไป 5-6-หมื่น ถึงแสน ฯลฯ"พิชัย จาวลา ระบุ
เก็งกำไรได้...แต่ก็อย่าลืมเผื่อใจขาดทุน กับหุ้นโยง Bitcoin
เพราะผลการดำเนินงานหุ้นเหมืองบิตคอยน์ยังขาดทุน “บักโกรก” ต้นทุนขุดเหมืองพุ่ง จากค่าไฟที่อยู่ในระดับสูง ไม่คุ้มทุน และอย่าลืมว่าในช่วง 9 เดือนแรกของนี้ ราคาเหรียญ Bitcoin เป็นหนังคนละม้วนกับราคาในตอนนี้
ไล่ตั้งแต่ JTS ผลการดำเนินงานยังคงสาหัส 9 เดือนแรกขาดทุนสุทธิ 3.90 ล้านบาท ส่วนในปี 2565 ภาพรวมทั้งปีขาดทุนสุทธิ 105.65 ล้านบาท
ในไตรมาส 3/66 มีรายได้จากธุรกิจเหมืองขุดบิทคอยน์ 32.56 ล้านบาท ลดลง 23.47 ล้านบาท หรือ 41.89%
สำหรับธุรกิจเหมืองขุดบิทคอยน์ ถึงแม้จะมีการขายเหรียญบิทคอยน์ออกไปบางส่วน เพื่อเตรียมใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการขุดเหรียญบิทคอยน์ในอนาคต
เพราะราคาบิทคอยน์ถัวเฉลี่ยลดลงจากเดือนกรกฎาคมเท่ากับ 30,056.38 ดอลลาร์ต่อเหรียญบิทคอยน์ เป็น 27,866.07 ดอลลาร์สหรัฐต่อเหรียญบิทคอยน์ในเดือนสิงหาคม และ 26,307.33 ดอลลาร์ต่อเหรียญบิทคอยน์ในเดือนกันยายน
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ราคาเหรียญบิทคอยน์ได้ปรับตัวขึ้นมาเหนือ 35,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อเหรียญบิทคอยน์ในต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ทำให้การขุดเหรียญยังคงดำเนินการต่อไป
ส่วนน้องรอง ZIGA ผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปี 2566 พลิกมีกำไร 29.48 ล้านบาท เทียบกับสิ้นปี 2565 ขาดทุนสุทธิ 380.88 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ในไตรมาส 3/66 ZIGA ไม่มีรายได้ที่เกิดขึ้นจากสินทรัพย์ดิจิทัล เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน มีรายได้จากสินทรัพย์ดิจิทัล 4 แสนบาท
คงได้แต่บอกว่า เก็งกำไรหุ้นโยง Bitcoin อย่าลืมเผื่อใจขาดทุน และพึงมีสติ “ลุกช้าระวังจ่ายรอบวง”
ส่งท้ายเดือนธันวาคม 2566 หุ้นโยง Bitcoin กลับมาสร้างสีสันอีกครั้ง!
หลังจากที่ก่อนหน้ากอดคอกันดิ่งเหวตามราคา Bitcoin ในตลาดโลก ที่ดำดิ่ง
โดยล่าสุด (7 ธ.ค.66) ราคา Bitcoin กลับมายืนแถว 44,000 ดอลลาร์สหรัฐ ครั้งแรกในรอบ 19 เดือน
จากที่เคยลงไปทดสอบจุดต่ำสุดในรอบ 1 ปี ที่ระดับ 16,331.2 ดอลลาร์
และในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2564 ราคา Bitcoin ทำสถิติสูงสุดในประวัติการณ์ที่ 69,000 ดอลลาร์
Matrixport แพลตฟอร์มบริการทางการเงินของสินทรัพย์ดิจิทัล ได้ออกรายงานเมื่อ 30 พฤศจิกายน คาดการณ์ราคา Bitcoin จะแตะระดับ 60,000 ดอลลาร์สหรัฐ ภายในเดือนเมษายน และ 125,000 ดอลลาร์สหรัฐ ภายในสิ้นปี 2567 โดยได้ชี้ถึงปัจจัยสำคัญหลายประการ ทั้งการที่สถาบันการเงินให้ความสนใจมากขึ้น แนวโน้มของเศรษฐกิจมหภาค และที่สำคัญคือ SEC อนุมัติให้จัดตั้ง Spot Bitcoin ETFs
ทั้งราคาเหรียญ Bitcoin ที่กลับมาร้อนแรง และแรงเชียร์ ที่บอกว่ามีโอกาสไปต่อ Go to Moon
ทำให้นักลงทุนกลับมาเก็งกำไร... หุ้นโยง Bitcoin อีกครั้ง!
เริ่มตั้งแต่พี่เบิ้มเจ้าพ่อเหมืองขุดบิตคอยน์อย่าง JTS ที่ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 31.25% และน้องรอง ZIGA ที่ราคากลับมาฟื้นตัว แต่ก็ยัง -15.88% (เทียบราคาปิดสิ้นปี 2565)
การกลับมาทะยานของ Bitcoin
แรงหนุนสำคัญมาจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด ทำให้นักลงทุนโยกเงินกลับเข้ามาเก็งกำไร Bitcoin
ปัจจัยบวกจากการจัดตั้ง Spot Bitcoin ETF ของ Blackrock ซึ่งเป็นครั้งแรกในสหรัฐ ที่จะเปิดให้บริการในเดือน มกราคม 2567
และจากปรากฏการณ์ Halving ที่คาดว่าจะเกิดช่วงเดือน มี.ค.-พ.ค. 67
ล้วนแต่เป็นปัจจัยสนับสนุนให้นักลงทุนเข้ามาเก็งกำไร Bitcoin
ขณะที่มุมมองของ พิชัย จาวลา นักลงทุนตามแนวคิดทฤษฎีผลประโยชน์ โพสต์ผ่าน FB Pichai Chawla ในวันที่ 6 ธ.ค.66 ที่ผ่านมา ระบุว่า ในที่สุด bitcoin ก็มาถึง zone ขายที่สำคัญ เช้านี้ 44000 ต่อให้อาจข้าม 45000 ไปบ้าง ถึง 47000 หรือเกินบ้างก็ตาม ก็ไม่ใช่ประเด็น”
“ถ้าเราเรียนรู้พฤติกรรมbitcoin ทั้งกราฟและบริบท ผ่านประสบการณ์ ผ่านการเรียนรู้ย้อนหลัง 40000 กว่าจังหวะนี้ จะดูเป็นโอกาสซื้อในช่วงท้ายๆ ที่ใครยังไม่มีก็ควรรีบซื้อไม่งั้นตกรถ กราฟสวยมาก เป้าหมายต่อไป 5-6-หมื่น ถึงแสน ฯลฯ"พิชัย จาวลา ระบุ
เก็งกำไรได้...แต่ก็อย่าลืมเผื่อใจขาดทุน กับหุ้นโยง Bitcoin
เพราะผลการดำเนินงานหุ้นเหมืองบิตคอยน์ยังขาดทุน “บักโกรก” ต้นทุนขุดเหมืองพุ่ง จากค่าไฟที่อยู่ในระดับสูง ไม่คุ้มทุน และอย่าลืมว่าในช่วง 9 เดือนแรกของนี้ ราคาเหรียญ Bitcoin เป็นหนังคนละม้วนกับราคาในตอนนี้
ไล่ตั้งแต่ JTS ผลการดำเนินงานยังคงสาหัส 9 เดือนแรกขาดทุนสุทธิ 3.90 ล้านบาท ส่วนในปี 2565 ภาพรวมทั้งปีขาดทุนสุทธิ 105.65 ล้านบาท
ในไตรมาส 3/66 มีรายได้จากธุรกิจเหมืองขุดบิทคอยน์ 32.56 ล้านบาท ลดลง 23.47 ล้านบาท หรือ 41.89%
สำหรับธุรกิจเหมืองขุดบิทคอยน์ ถึงแม้จะมีการขายเหรียญบิทคอยน์ออกไปบางส่วน เพื่อเตรียมใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการขุดเหรียญบิทคอยน์ในอนาคต
เพราะราคาบิทคอยน์ถัวเฉลี่ยลดลงจากเดือนกรกฎาคมเท่ากับ 30,056.38 ดอลลาร์ต่อเหรียญบิทคอยน์ เป็น 27,866.07 ดอลลาร์สหรัฐต่อเหรียญบิทคอยน์ในเดือนสิงหาคม และ 26,307.33 ดอลลาร์ต่อเหรียญบิทคอยน์ในเดือนกันยายน
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ราคาเหรียญบิทคอยน์ได้ปรับตัวขึ้นมาเหนือ 35,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อเหรียญบิทคอยน์ในต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ทำให้การขุดเหรียญยังคงดำเนินการต่อไป
ส่วนน้องรอง ZIGA ผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปี 2566 พลิกมีกำไร 29.48 ล้านบาท เทียบกับสิ้นปี 2565 ขาดทุนสุทธิ 380.88 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ในไตรมาส 3/66 ZIGA ไม่มีรายได้ที่เกิดขึ้นจากสินทรัพย์ดิจิทัล เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน มีรายได้จากสินทรัพย์ดิจิทัล 4 แสนบาท
คงได้แต่บอกว่า เก็งกำไรหุ้นโยง Bitcoin อย่าลืมเผื่อใจขาดทุน และพึงมีสติ “ลุกช้าระวังจ่ายรอบวง”