ตามที่ บริษัท ซิก้า อินโนเวชั่น จำกัด (มหาชน) ให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่นายสุรชย เชษฐโชตศักดิ์ ซึ่งบริษัทฯ พิจารณาจากผลประโยชน์อันพึงได้แก่บริษัทฯ และผู้ถือหุ้นทุกท่าน โดยพิจารณาจากสภาพคล่อง และแผนธุรกิจของบริษัทฯ ในปีที่ ผ่านมา อย่างไรก็ดี รายการดังกล่าวเป็นรายการช่วยเหลือทางการเงินแก่บุคคลไม่เกี่ยวโยงกัน จำนวน 104,000,000 บาท โดยมี กำหนดชำระคืนเงินกู้พร้อมดอกเบี้ย และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ทั้งปวงคืนให้แก่บริษัทฯ ภายในวันที่ 2 มีนาคม 2567 (10 เดือน นับแต่วันที่ทำสัญญากู้ยืมเงิน) ต่อมาบุคคลผู้มีชื่อได้แสดงความประสงค์ที่จะชำระเงินกู้ พร้อมดอกเบี้ย และค่าใช้จ่ายต่างๆ ทั้งปวงคืน ให้แก่บริษัทและขอให้บริษัทคืนหุ้นหลักประกันให้แก่บุคคลผู้มีชื่อหรือบุคคลที่ผู้มีชื่อกำหนด หลังจากพ้นภาระผูกพันตามสัญญา ความละเอียดท่านแจ้งแล้วนั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ บริษัทฯ พิจารณาแล้วเห็นว่าการที่ผู้กู้ขอชำระหนี้คืนทั้งจำนวนจะทำให้บริษัทได้รับชำระหนี้เต็มจำนวน และดอกเบี้ยตามสัดส่วนและระยะเวลาตั้งแต่วันทำสัญญาจนถึงวันชำระครบถ้วนซึ่งเป็นไปตามข้อกำหนดแห่งสัญญา ซึ่งการรับ ชำระหนี้ดังกล่าวจะก่อให้เกิดผลดีคือ บริษัทได้รับเงินต้นเป็นเงินสด พร้อมดอกเบี้ยคืน และลดความเสี่ยงจากการที่ผู้กู้ไม่สามารถชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ย และลดความเสี่ยงและความผันผวนหรือความไม่แน่นอนของราคาหุ้นสามัญของบริษัท แกรททิทูด จำกัด (มหาชน) หรือบริษัท กิฟท์ อินฟินิท จำกัด (มหาชน) (GIFT) จำนวน 16,000,000 หุ้นหรือปัจจุบันได้เปลี่ยนแปลงเป็นจำนวน 32,000,000 หุ้น (สามสิบสองล้านหุ้น) มีราคาเปลี่ยนแปลงไปตามสภาวะตลาด เมื่อคำนวณราคาตลาด ณ วันที่ 7 ธันวาคม 2566 ในราคาปิดที่ 3.10 บาทต่อหุ้น ทำให้มีมูลค่าหลักประกันเป็นเงินจำนวน 99,200,000 บาท (เก้าสิบเก้าล้านสองแสนบาทถ้วน) โดย เมื่อบริษัทฯ ผู้ให้กู้ได้รับเงินตามเช็คชำระหนี้ตามสัญญากู้ยืมเงินคืนจนครบถ้วนแล้ว บริษัทผู้ให้กู้ตกลงส่งมอบหุ้นที่ครอบครองไว้ เป็นหลักประกันทั้งจำนวนคืนให้แก่บุคคลผู้มีชื่อหรือบุคคลที่ผู้มีชื่อกำหนดในวันที่ชำระหนี้เสร็จสิ้นและผู้กู้พ้นจากความรับผิดทั้ง ปวงจากสัญญากู้ยืมเงิน โดยเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2566 บริษัทได้รับเงินจำนวน 113,274,520.55 บาท ซึ่งเท่ากับยอดหนี้เงินกู้ และ ดอกเบี้ยคำนวณตามสัดส่วนระยะเวลาจนถึงวันชำระหนี้ เสร็จสิ้น พร้อมค่าใช้จ่ายและค่าดำเนินการจ านวน 2,600,000 บาท ครบถ้วนแล้ว บริษัทจึงส่งมอบหลักประกันคืนให้แก่ผู้วางหุ้นเป็นหลักประกันเรียบร้อยแล้ว ดังนั้น สัญญากู้ยืมเงินฉบับลงวันที่ 3 พฤษภาคม 2566 จึงสิ้นสุดลง เพราะคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายได้มีการชำระหนี้เสร็จสิ้น และพ้นความรับผิดตามสัญญาแล้ว
ทั้งนี้ บริษัทได้พิจารณาผลดีและความเสี่ยงเกี่ยวกับการรับชำระหนี้ก่อนกำหนดว่า การรับชำระหนี้ก่อนเวลาจะทำให้บริษัทฯ เสียโอกาส ในการได้รับดอกเบี้ยสำหรับช่วงเวลาที่ชำระหนี้ก่อนกำหนดจนถึงวันครบกำหนดของสัญญา แต่ก็มีผลดี คือ ทำให้บริษัทสามารถ นำเงินที่ได้รับคืนมาไปใช้ประโยชน์ในกิจการได้ และลดความเสี่ยงกรณีที่ราคาหุ้นผันผวน บริษัทจึงขอเปิดเผยความคืบหน้า เกี่ยวกับการรับชำระหนี้ ตามที่ปรากฏรายละเอียดข้างต้น
บริษัท ซิก้า อินโนเวชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีธุรกิจหลักจากการผลิตและจำหน่ายท่อร้อยสายไฟ แบรนด์ DAIWA และท่อ เหล็กโครงสร้าง แบรนด์ ZIGA และธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (ขุดบิทคอยน์เท่านั้น) ขอชี้แจงเพิ่มเติมว่า คณะกรรมการบริษัท กรรมการ บริษัทฯ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ตลอดจน กรรมการบริหาร มีความเห็นตรงกันว่า ในแผนธุรกิจบริษัทฯ ไม่มีนโยบายให้ความ ช่วยเหลือทางการเงินแก่บุคคลหรือบริษัทฯที่ไม่มีความเกี่ยวโยง หรือไม่กระทำการที่ไม่ใช่ธุรกิจปกติบริษัทฯ หรือ เข้าไปทำรายการ ทำนองนี้อีกต่อไป โดยเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา คณะกรรมการบริษัทฯ ได้อนุมัติแผนธุรกิจและกระบวนการทำงาน ภายใน พร้อมทั้งปรับปรุงวิธีการทำงานให้สอดคล้องกับข้อกำหนดของกฎหมาย หลักเกณฑ์ รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลในรายการ ธุรกรรมให้ครบถ้วนเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ในฐานะบริษัทจดทะเบียนที่ดี และกรรมการบริษัทจะติดตามการ ดำเนินงานของบริษัทฯ ให้เป็นไปตามข้อบังคับ หลักเกณฑ์ และเงื่อนไขในการเปิดเผยสารสนเทศ เพื่อรักษาสิทธิในการเข้าถึง ข้อมูลอย่างครบถ้วนของท่านนักลงทุน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกท่าน
เกี่ยวกับเรื่องนี้ บริษัทฯ พิจารณาแล้วเห็นว่าการที่ผู้กู้ขอชำระหนี้คืนทั้งจำนวนจะทำให้บริษัทได้รับชำระหนี้เต็มจำนวน และดอกเบี้ยตามสัดส่วนและระยะเวลาตั้งแต่วันทำสัญญาจนถึงวันชำระครบถ้วนซึ่งเป็นไปตามข้อกำหนดแห่งสัญญา ซึ่งการรับ ชำระหนี้ดังกล่าวจะก่อให้เกิดผลดีคือ บริษัทได้รับเงินต้นเป็นเงินสด พร้อมดอกเบี้ยคืน และลดความเสี่ยงจากการที่ผู้กู้ไม่สามารถชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ย และลดความเสี่ยงและความผันผวนหรือความไม่แน่นอนของราคาหุ้นสามัญของบริษัท แกรททิทูด จำกัด (มหาชน) หรือบริษัท กิฟท์ อินฟินิท จำกัด (มหาชน) (GIFT) จำนวน 16,000,000 หุ้นหรือปัจจุบันได้เปลี่ยนแปลงเป็นจำนวน 32,000,000 หุ้น (สามสิบสองล้านหุ้น) มีราคาเปลี่ยนแปลงไปตามสภาวะตลาด เมื่อคำนวณราคาตลาด ณ วันที่ 7 ธันวาคม 2566 ในราคาปิดที่ 3.10 บาทต่อหุ้น ทำให้มีมูลค่าหลักประกันเป็นเงินจำนวน 99,200,000 บาท (เก้าสิบเก้าล้านสองแสนบาทถ้วน) โดย เมื่อบริษัทฯ ผู้ให้กู้ได้รับเงินตามเช็คชำระหนี้ตามสัญญากู้ยืมเงินคืนจนครบถ้วนแล้ว บริษัทผู้ให้กู้ตกลงส่งมอบหุ้นที่ครอบครองไว้ เป็นหลักประกันทั้งจำนวนคืนให้แก่บุคคลผู้มีชื่อหรือบุคคลที่ผู้มีชื่อกำหนดในวันที่ชำระหนี้เสร็จสิ้นและผู้กู้พ้นจากความรับผิดทั้ง ปวงจากสัญญากู้ยืมเงิน โดยเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2566 บริษัทได้รับเงินจำนวน 113,274,520.55 บาท ซึ่งเท่ากับยอดหนี้เงินกู้ และ ดอกเบี้ยคำนวณตามสัดส่วนระยะเวลาจนถึงวันชำระหนี้ เสร็จสิ้น พร้อมค่าใช้จ่ายและค่าดำเนินการจ านวน 2,600,000 บาท ครบถ้วนแล้ว บริษัทจึงส่งมอบหลักประกันคืนให้แก่ผู้วางหุ้นเป็นหลักประกันเรียบร้อยแล้ว ดังนั้น สัญญากู้ยืมเงินฉบับลงวันที่ 3 พฤษภาคม 2566 จึงสิ้นสุดลง เพราะคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายได้มีการชำระหนี้เสร็จสิ้น และพ้นความรับผิดตามสัญญาแล้ว
ทั้งนี้ บริษัทได้พิจารณาผลดีและความเสี่ยงเกี่ยวกับการรับชำระหนี้ก่อนกำหนดว่า การรับชำระหนี้ก่อนเวลาจะทำให้บริษัทฯ เสียโอกาส ในการได้รับดอกเบี้ยสำหรับช่วงเวลาที่ชำระหนี้ก่อนกำหนดจนถึงวันครบกำหนดของสัญญา แต่ก็มีผลดี คือ ทำให้บริษัทสามารถ นำเงินที่ได้รับคืนมาไปใช้ประโยชน์ในกิจการได้ และลดความเสี่ยงกรณีที่ราคาหุ้นผันผวน บริษัทจึงขอเปิดเผยความคืบหน้า เกี่ยวกับการรับชำระหนี้ ตามที่ปรากฏรายละเอียดข้างต้น
บริษัท ซิก้า อินโนเวชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีธุรกิจหลักจากการผลิตและจำหน่ายท่อร้อยสายไฟ แบรนด์ DAIWA และท่อ เหล็กโครงสร้าง แบรนด์ ZIGA และธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (ขุดบิทคอยน์เท่านั้น) ขอชี้แจงเพิ่มเติมว่า คณะกรรมการบริษัท กรรมการ บริษัทฯ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ตลอดจน กรรมการบริหาร มีความเห็นตรงกันว่า ในแผนธุรกิจบริษัทฯ ไม่มีนโยบายให้ความ ช่วยเหลือทางการเงินแก่บุคคลหรือบริษัทฯที่ไม่มีความเกี่ยวโยง หรือไม่กระทำการที่ไม่ใช่ธุรกิจปกติบริษัทฯ หรือ เข้าไปทำรายการ ทำนองนี้อีกต่อไป โดยเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา คณะกรรมการบริษัทฯ ได้อนุมัติแผนธุรกิจและกระบวนการทำงาน ภายใน พร้อมทั้งปรับปรุงวิธีการทำงานให้สอดคล้องกับข้อกำหนดของกฎหมาย หลักเกณฑ์ รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลในรายการ ธุรกรรมให้ครบถ้วนเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ในฐานะบริษัทจดทะเบียนที่ดี และกรรมการบริษัทจะติดตามการ ดำเนินงานของบริษัทฯ ให้เป็นไปตามข้อบังคับ หลักเกณฑ์ และเงื่อนไขในการเปิดเผยสารสนเทศ เพื่อรักษาสิทธิในการเข้าถึง ข้อมูลอย่างครบถ้วนของท่านนักลงทุน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกท่าน