Mr.Data
ทัวร์ลงตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เต็มๆ หลัง “ชูเกียรติ รุจนพรพจี” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) (SABUY) ออกมาให้ความเห็น Naked Short มีอยู่จริง
เหมือนโยนระเบิดใส่...ตลาดหลักทรัพย์ฯและสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ที่เรียงหน้าออกมาแถลงข่าว ไม่รู้กี่รอบทุกอย่างเป็นปกติ ไม่มี Naked Short
“ชูเกียรติ” เปิดเผยผ่านรายการ “ทันหุ้นทันเกม” ว่า บริษัทมีการปิดสมุดมาโดยตลอด มีการติดตามอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงที่ผ่านมาตลาดมีภาวะผันผวน
แต่พบข้อสงสัยจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 1 ราย ที่มีการฝากหุ้นไว้กับคัสโตเดียนที่อยู่ในประเทศไทย แต่เป็นธนาคารต่างประเทศ จำนวน 100 ล้านหุ้น ช่วงต้นเดือนต.ค.ที่ผ่านมา
โดยประเด็น คือ มีการทำรายการผ่านต่างประเทศ แต่หลังจากที่ทำรายการ พบว่า ส่วนต่างของหุ้นที่หายไปมีจำนวน 200 หุ้น ซึ่งเป็นไปได้อย่างไร เพราะหุ้นที่ฝากกับคัสโตเดียนไม่มีค่าธรรมเนียม จึงมองว่าผิดปกติ
ทั้งนี้ จึงได้กลับไปสำรวจข้อมูลเดิมที่บริษัทปิดสมุดบัญชีผู้ถือหุ้น แต่พบว่า หุ้นที่นำไปฝากคัสโตเดียน 100 ล้านหุ้น เมื่อ ต.ค. ที่ผ่านมา ที่ไม่ได้อนุญาตให้ทำธุรกรรมชอร์ตเซลได้ และไม่ได้มีการขายหุ้นออกไปแต่อย่างใด
+++หุ้นที่ฝากคัสโตเดียนล่องหน
ระหว่างนั้นมีการปิดสมุดบัญชีผู้ถือหุ้นในวันที่ 16 ต.ค.66 หุ้นหายไปกว่า 17 ล้านหุ้น และปิดสมุดประมาณวันที่ 20 ต.ค.66 พบว่า หายไปเป็นเกือบ 20 ล้านหุ้น จึงมีการติดต่อ และส่งเรื่องถึงตลาดหลักทรัพย์ฯ
“มองว่าเป็นกรณีศึกษาที่หน่วยงานราชการจะช่วยได้ คือ ไม่ทราบว่าหุ้นที่หายไปซื้อขายผ่านโบรกเกอร์อะไร ซึ่งทางเรามีการฝากตั้งวันที่ 4 ต.ค.66 เช็กได้เลยว่าตั้งแต่วันที่ 6 ต.ค.66 เกิดอะไรขึ้นกับหุ้นที่ฝากไว้กับคัสโตเดียนแห่งนั้น ซึ่งสามารถตรวจสอบได้เลย ช่วงที่หายไปซื้อขาย และมีการโอนไปยังโบรกเกอร์ไหน เชื่อว่าเห็นแน่นอน และหากหน่วยงานรัฐเข้าไปสำรวจในระบบของโบรกเกอร์แห่งนั้น ช่วงที่ขายนั้นมีหุ้นอยู่ในพอร์ตหรือไม่”
+++จี้ตลาดหลักทรัพย์ฯตรวจสอบ
ทั้งนี้ บริษัทได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์ในฐานะบริษัทสมาชิก และตนเองในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ สิ่งที่เกิดขึ้นกับบริษัท และหลายๆ บริษัทที่ถูกเทขายคล้ายบริษัทอาจจะเกิดขึ้นกับบริษัทอื่นๆ สิ่งที่ทำในฐานะบริษัทจดทะเบียนจึงแจ้งให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ตรวจสอบ และในฐานะนักลงทุนคาดเปิดในนักลงทุนมาร่วมลงชื่อในฐานะผู้เสียหาย
ทั้งนี้ เพื่อยื่นต่อหน่วยงานรัฐที่มีอำนาจตรวจสอบเส้นทางการเงิน ความเสียหายด้านเศรษฐกิจ คาดแบ่งเป็น 2 เฟส คือ รายการที่เกิดขึ้นช่วงเดือนต.ค. และช่วง 6 เดือนย้อนหลัง เพื่อให้รับความเป็นธรรม เพราะเป็นช่วงที่บริษัทถูกปล่อยข่าวลือเข้ามาจำนวนมากในช่วงนั้น ซึ่งกระทบต่อความเชื่อมั่นต่อบริษัท จึงดำเนินการตามสิทธิของบริษัท
+++6 เดือนมาร์เก็ตแคปวูบ 1.5 หมื่นลบ.
Mr.Data ชวนมาตรวจสอบความเสียหายที่เกิดขึ้นกับ SABUY ย้อนหลัง 6 เดือนพบว่า มาร์เก็ตแคปหายไปกว่า 15,089.03 ล้านบาท หากเทียบราคาขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดที่ 12 บาท/หุ้น มาร์เก็ตแคปอยู่ที่ 24,097.97 ล้านบาท และราคาลดลงต่ำสุดที่ 4.86 บาท/หุ้น มาร์เก็ตแคปอยู่ที่ 9,008.93 ล้านบาท
มาร์เก็ตแคปที่หายไปกว่า 15,089.03 ล้านบาท ของ SABUY สร้างความเสียหายให้กับนักลงทุนรายย่อยที่ถือหุ้นกว่า 25,219 คน
+++ร้องหน่วยงานรัฐ เรียกความเสียหายทางแพ่ง
ในสัปดาห์หน้า SABUY เตรียมเชิญชวนผู้ถือหุ้นไปเรียกร้องหน่วยงานรัฐ โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับคดีเศรษฐกิจ เพื่อเรียกร้องความเสียหายทางแพ่ง
เพราะ Naked Short ไม่ใช่แค่ “ภัยมืด” ที่จ้อง “เผาบ้าน” บริษัทจดทะเบียน ผ่านการทุบราคาหุ้น แต่ยังเป็นตัวการในการทำลายความเชื่อมั่นระบบตลาดทุน
เพราะทั้งสงครามราคาหุ้น และสงครามข่าวลือ ที่มาพร้อมกัน ได้ทำลายความเชื่อมั่นต่อบริษัท ทำลายความเชื่อมั่นคู่ค้า และทำลายเครดิตของบริษัทฯ ทำลายโอกาสในการระดมทุนผ่านตลาดทุน
ถามว่าใครจะกล้าเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุน RO หรือเพิ่มทุนผ่าน PP หรือการใช้สิทธิแปลงวอร์แรนต์ หรือแม้แต่การจะออกหุ้นกู้ จะได้รับการตอบรับหรือไม่
หากตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังคงปล่อยให้เรื่อง Naked Short เป็นเรื่องที่ไม่มีอะไรผิดปกติ ไม่มีการหาทางออก เชื่อว่าทุกอย่างคงสายเกินแก้ เมื่อประตูถูกปิดตาย
ทัวร์ลงตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เต็มๆ หลัง “ชูเกียรติ รุจนพรพจี” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) (SABUY) ออกมาให้ความเห็น Naked Short มีอยู่จริง
เหมือนโยนระเบิดใส่...ตลาดหลักทรัพย์ฯและสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ที่เรียงหน้าออกมาแถลงข่าว ไม่รู้กี่รอบทุกอย่างเป็นปกติ ไม่มี Naked Short
“ชูเกียรติ” เปิดเผยผ่านรายการ “ทันหุ้นทันเกม” ว่า บริษัทมีการปิดสมุดมาโดยตลอด มีการติดตามอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงที่ผ่านมาตลาดมีภาวะผันผวน
แต่พบข้อสงสัยจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 1 ราย ที่มีการฝากหุ้นไว้กับคัสโตเดียนที่อยู่ในประเทศไทย แต่เป็นธนาคารต่างประเทศ จำนวน 100 ล้านหุ้น ช่วงต้นเดือนต.ค.ที่ผ่านมา
โดยประเด็น คือ มีการทำรายการผ่านต่างประเทศ แต่หลังจากที่ทำรายการ พบว่า ส่วนต่างของหุ้นที่หายไปมีจำนวน 200 หุ้น ซึ่งเป็นไปได้อย่างไร เพราะหุ้นที่ฝากกับคัสโตเดียนไม่มีค่าธรรมเนียม จึงมองว่าผิดปกติ
ทั้งนี้ จึงได้กลับไปสำรวจข้อมูลเดิมที่บริษัทปิดสมุดบัญชีผู้ถือหุ้น แต่พบว่า หุ้นที่นำไปฝากคัสโตเดียน 100 ล้านหุ้น เมื่อ ต.ค. ที่ผ่านมา ที่ไม่ได้อนุญาตให้ทำธุรกรรมชอร์ตเซลได้ และไม่ได้มีการขายหุ้นออกไปแต่อย่างใด
+++หุ้นที่ฝากคัสโตเดียนล่องหน
ระหว่างนั้นมีการปิดสมุดบัญชีผู้ถือหุ้นในวันที่ 16 ต.ค.66 หุ้นหายไปกว่า 17 ล้านหุ้น และปิดสมุดประมาณวันที่ 20 ต.ค.66 พบว่า หายไปเป็นเกือบ 20 ล้านหุ้น จึงมีการติดต่อ และส่งเรื่องถึงตลาดหลักทรัพย์ฯ
“มองว่าเป็นกรณีศึกษาที่หน่วยงานราชการจะช่วยได้ คือ ไม่ทราบว่าหุ้นที่หายไปซื้อขายผ่านโบรกเกอร์อะไร ซึ่งทางเรามีการฝากตั้งวันที่ 4 ต.ค.66 เช็กได้เลยว่าตั้งแต่วันที่ 6 ต.ค.66 เกิดอะไรขึ้นกับหุ้นที่ฝากไว้กับคัสโตเดียนแห่งนั้น ซึ่งสามารถตรวจสอบได้เลย ช่วงที่หายไปซื้อขาย และมีการโอนไปยังโบรกเกอร์ไหน เชื่อว่าเห็นแน่นอน และหากหน่วยงานรัฐเข้าไปสำรวจในระบบของโบรกเกอร์แห่งนั้น ช่วงที่ขายนั้นมีหุ้นอยู่ในพอร์ตหรือไม่”
+++จี้ตลาดหลักทรัพย์ฯตรวจสอบ
ทั้งนี้ บริษัทได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์ในฐานะบริษัทสมาชิก และตนเองในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ สิ่งที่เกิดขึ้นกับบริษัท และหลายๆ บริษัทที่ถูกเทขายคล้ายบริษัทอาจจะเกิดขึ้นกับบริษัทอื่นๆ สิ่งที่ทำในฐานะบริษัทจดทะเบียนจึงแจ้งให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ตรวจสอบ และในฐานะนักลงทุนคาดเปิดในนักลงทุนมาร่วมลงชื่อในฐานะผู้เสียหาย
ทั้งนี้ เพื่อยื่นต่อหน่วยงานรัฐที่มีอำนาจตรวจสอบเส้นทางการเงิน ความเสียหายด้านเศรษฐกิจ คาดแบ่งเป็น 2 เฟส คือ รายการที่เกิดขึ้นช่วงเดือนต.ค. และช่วง 6 เดือนย้อนหลัง เพื่อให้รับความเป็นธรรม เพราะเป็นช่วงที่บริษัทถูกปล่อยข่าวลือเข้ามาจำนวนมากในช่วงนั้น ซึ่งกระทบต่อความเชื่อมั่นต่อบริษัท จึงดำเนินการตามสิทธิของบริษัท
+++6 เดือนมาร์เก็ตแคปวูบ 1.5 หมื่นลบ.
Mr.Data ชวนมาตรวจสอบความเสียหายที่เกิดขึ้นกับ SABUY ย้อนหลัง 6 เดือนพบว่า มาร์เก็ตแคปหายไปกว่า 15,089.03 ล้านบาท หากเทียบราคาขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดที่ 12 บาท/หุ้น มาร์เก็ตแคปอยู่ที่ 24,097.97 ล้านบาท และราคาลดลงต่ำสุดที่ 4.86 บาท/หุ้น มาร์เก็ตแคปอยู่ที่ 9,008.93 ล้านบาท
มาร์เก็ตแคปที่หายไปกว่า 15,089.03 ล้านบาท ของ SABUY สร้างความเสียหายให้กับนักลงทุนรายย่อยที่ถือหุ้นกว่า 25,219 คน
+++ร้องหน่วยงานรัฐ เรียกความเสียหายทางแพ่ง
ในสัปดาห์หน้า SABUY เตรียมเชิญชวนผู้ถือหุ้นไปเรียกร้องหน่วยงานรัฐ โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับคดีเศรษฐกิจ เพื่อเรียกร้องความเสียหายทางแพ่ง
เพราะ Naked Short ไม่ใช่แค่ “ภัยมืด” ที่จ้อง “เผาบ้าน” บริษัทจดทะเบียน ผ่านการทุบราคาหุ้น แต่ยังเป็นตัวการในการทำลายความเชื่อมั่นระบบตลาดทุน
เพราะทั้งสงครามราคาหุ้น และสงครามข่าวลือ ที่มาพร้อมกัน ได้ทำลายความเชื่อมั่นต่อบริษัท ทำลายความเชื่อมั่นคู่ค้า และทำลายเครดิตของบริษัทฯ ทำลายโอกาสในการระดมทุนผ่านตลาดทุน
ถามว่าใครจะกล้าเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุน RO หรือเพิ่มทุนผ่าน PP หรือการใช้สิทธิแปลงวอร์แรนต์ หรือแม้แต่การจะออกหุ้นกู้ จะได้รับการตอบรับหรือไม่
หากตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังคงปล่อยให้เรื่อง Naked Short เป็นเรื่องที่ไม่มีอะไรผิดปกติ ไม่มีการหาทางออก เชื่อว่าทุกอย่างคงสายเกินแก้ เมื่อประตูถูกปิดตาย