บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ (INVX) มองแนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ (15 ธ.ค.) คาด SET ฟื้นตัวเด่นเมื่อวาน ขณะที่วันนี้คาดมีอัตราเร่งลดลง และมีแนวต้านสำคัญบริเวณ1400 จุด ต้องขึ้นทะลุผ่านให้ได้ก่อน เพื่อพลิกสัญญาณเทคนิคให้เป็นบวก มิฉะนั้น ในภาพรวมยังเป็นลบ และเป็นเพียงการดีดสลับ เพื่อปรับลงต่อ ด้านแนวรับระยะสั้นอยู่ที่1370 และ 1360 จุด ตามลำดับ หากต่ำกว่า จะเป็นสัญญาณลบ
ประเด็นสำคัญ
• ECB และ BoE มีมติคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 4.5% และ 5.25% ตามคลาดคาด แต่ยังคงมุมมองนโยบายการเงินที่ตึงตัวต่อไปในปี 2567 ซึ่งต่างจากตลาดคาดว่า ECB มีโอกาสลดดอกเบี้ยในช่วง 1H67
• ยอดค้าปลีก พ.ย. ของสหรัฐ +0.3%MoM, +4.1%YoY สวนทางที่คาด -0.1%MoM ขณะที่ผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกสัปดาห์ที่แล้วลดลงสู่ 2.02 แสนราย ต่ำสุดนับตั้งแต่ ต.ค. และต่ำกว่าคาด
• สัญญาน้ำมันดิบ Brent +3.2%DoD อยู่ที่ 76.61 เหรียญ/บาร์เรล หลัง IEA คาดอุปสงค์น้ำมันตลาดโลกจะเพิ่มขึ้น 1.1 ล้านบาร์เรล/วันในปีหน้า โดยเพิ่มอีก 1.3 แสนบาร์เรล/วันจากคาดครั้งก่อนหน้า
• BOI ระบุ นายกฯ เยือนญี่ปุ่น เข้าร่วมสัมมนาการค้า ดึงการลงทุน ใน 5 อุตสาหกรรมหารือกับ 7 ผู้ผลิตยานยนต์ขนาดใหญ่ และ 40 นักธุรกิจรายใหญ่เพื่อชักชวนลงทุนในโปรเจกต์แลนด์บริดจ์
• กรมสรรพสามิต แนะใช้กลไกภาคบังคับช่วยลดโลกร้อน พร้อมใช้มาตรการภาษีสนับสนุน ศึกษาภาษีปล่อยคาร์บอน ด้าน ตลท. ตั้งเป้า บจ. เปิดเผยข้อมูลปล่อยก๊าซคาร์บอน เพิ่มความโปร่งใส
• ก. คลังสั่ง ก.ล.ต. พิจารณาศึกษายกเลิกโปรแกรมเทรดดิ้ง หากพบกระทบตลาดหุ้นอีกทั้งระบุดัชนีหุ้นไทยอยู่ในภาวะตกต่ำเป็นปัจจัยเฉพาะภายใน โดยยืนยันเสถียรภาพศก. ยังแข็งแกร่ง
• SCB EIC ประเมิน ศก. ไทยเปราะบางจากภาคธุรกิจที่ฟื้นตัวไม่ทั่วถึง รวมทั้งภาคครัวเรือนรายได้น้อยและธุรกิจขนาดเล็กยังมีหนี้สูง แต่รายได้เติบโตช้า อีกทั้งปัจจัยภายนอก-ภายใน ปท. ที่ยังต้องจับตารวมทั้งนโยบายรัฐบาลที่มีความไม่แน่นอนสูง
กลยุทธลงทุน เรามองช่วงสั้นตลาดหุ้นโลกมีโอกาสปรับตัวขึ้น จากมุมมอง Fed ที่ Dovish มากขึ้น(ดอกเบี้ยผ่านจุดสูงสุด และ Dot Plot บ่งชี้ดอกเบี้ยจะลดลง 75 bps มากกว่ารอบก่อนที่50 bps ขณะที่ประเมินเศรษฐกิจสหรัฐจะเติบโต 1.4% ในปี 2567) ซึ่งจะส่งผลบวกมายังตลาดหุ้นไทย อีกทั้งตลาดหุ้นไทยมีโอกาสได้รับเม็ดเงินลงทุนจากกองทุน TESG และ RMF ที่กำลังจะทยอยเข้ามาในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2566
โฟกัสหุ้นวันนี้
BCP ได้ ESG Rating “AAA” คาดกำไรจากการดำเนินงาน 4Q66 เพิ่มขึ้น QoQ หลังรวมผลการดำเนินงานของ BSRC เข้ามาเต็มไตรมาส และปริมาณน้ำมันดิบนำเข้ากลั่นสูงขึ้นหลังหยุดซ่อมบำรุงตามแผนใน 3Q66 อีกทั้ง Valuation ยังไม่แพงด้วย PBV 0.7 เท่า ต่ำกว่า -1SD รอบ 10 ปี
AP ได้ ESG Rating “AA” คาดกำไรสุทธิปีนี้เติบโต 6.2% YoY เป็น 6.24 พันลบ. ทำจุดสูงสุดใหม่ คาดกำไร 4Q66 เพิ่มขึ้น YoY และเพิ่มขึ้นเล็กน้อย QoQ จากการโอนbacklog โครงการ Aspire ปิ่นเกล้า-อรุณอมรินทร์ และ The Address สยาม-ราชเทวีอีกทั้งคาดหวัง Div. Yield ปีนี้ได้ที่ 6%