Wealth Sharing

หุ้นไทยไปต่อ! ระวังแนวต้าน 1,400 จุด แนะลงทุน 2 หุ้นเด่น AP-BCP


15 ธันวาคม 2566
หุ้นไทยไปต่อ! ระวังแนวต้าน 1,400 จุด.jpg

บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ (INVX) มองแนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ (15 ธ.ค.) คาด SET ฟื้นตัวเด่นเมื่อวาน ขณะที่วันนี้คาดมีอัตราเร่งลดลง และมีแนวต้านสำคัญบริเวณ1400 จุด ต้องขึ้นทะลุผ่านให้ได้ก่อน เพื่อพลิกสัญญาณเทคนิคให้เป็นบวก มิฉะนั้น ในภาพรวมยังเป็นลบ และเป็นเพียงการดีดสลับ เพื่อปรับลงต่อ ด้านแนวรับระยะสั้นอยู่ที่1370 และ 1360 จุด ตามลำดับ หากต่ำกว่า จะเป็นสัญญาณลบ


ประเด็นสำคัญ

• ECB และ BoE มีมติคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 4.5% และ 5.25% ตามคลาดคาด แต่ยังคงมุมมองนโยบายการเงินที่ตึงตัวต่อไปในปี 2567 ซึ่งต่างจากตลาดคาดว่า ECB มีโอกาสลดดอกเบี้ยในช่วง 1H67

• ยอดค้าปลีก พ.ย. ของสหรัฐ +0.3%MoM, +4.1%YoY สวนทางที่คาด -0.1%MoM ขณะที่ผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกสัปดาห์ที่แล้วลดลงสู่ 2.02 แสนราย ต่ำสุดนับตั้งแต่ ต.ค. และต่ำกว่าคาด

• สัญญาน้ำมันดิบ Brent +3.2%DoD อยู่ที่ 76.61 เหรียญ/บาร์เรล หลัง IEA คาดอุปสงค์น้ำมันตลาดโลกจะเพิ่มขึ้น 1.1 ล้านบาร์เรล/วันในปีหน้า โดยเพิ่มอีก 1.3 แสนบาร์เรล/วันจากคาดครั้งก่อนหน้า

• BOI ระบุ นายกฯ เยือนญี่ปุ่น เข้าร่วมสัมมนาการค้า ดึงการลงทุน ใน 5 อุตสาหกรรมหารือกับ 7 ผู้ผลิตยานยนต์ขนาดใหญ่ และ 40 นักธุรกิจรายใหญ่เพื่อชักชวนลงทุนในโปรเจกต์แลนด์บริดจ์

• กรมสรรพสามิต แนะใช้กลไกภาคบังคับช่วยลดโลกร้อน พร้อมใช้มาตรการภาษีสนับสนุน ศึกษาภาษีปล่อยคาร์บอน ด้าน ตลท. ตั้งเป้า บจ. เปิดเผยข้อมูลปล่อยก๊าซคาร์บอน เพิ่มความโปร่งใส

• ก. คลังสั่ง ก.ล.ต. พิจารณาศึกษายกเลิกโปรแกรมเทรดดิ้ง หากพบกระทบตลาดหุ้นอีกทั้งระบุดัชนีหุ้นไทยอยู่ในภาวะตกต่ำเป็นปัจจัยเฉพาะภายใน โดยยืนยันเสถียรภาพศก. ยังแข็งแกร่ง

• SCB EIC ประเมิน ศก. ไทยเปราะบางจากภาคธุรกิจที่ฟื้นตัวไม่ทั่วถึง รวมทั้งภาคครัวเรือนรายได้น้อยและธุรกิจขนาดเล็กยังมีหนี้สูง แต่รายได้เติบโตช้า อีกทั้งปัจจัยภายนอก-ภายใน ปท. ที่ยังต้องจับตารวมทั้งนโยบายรัฐบาลที่มีความไม่แน่นอนสูง

กลยุทธลงทุน เรามองช่วงสั้นตลาดหุ้นโลกมีโอกาสปรับตัวขึ้น จากมุมมอง Fed ที่ Dovish มากขึ้น(ดอกเบี้ยผ่านจุดสูงสุด และ Dot Plot บ่งชี้ดอกเบี้ยจะลดลง 75 bps มากกว่ารอบก่อนที่50 bps ขณะที่ประเมินเศรษฐกิจสหรัฐจะเติบโต 1.4% ในปี 2567) ซึ่งจะส่งผลบวกมายังตลาดหุ้นไทย อีกทั้งตลาดหุ้นไทยมีโอกาสได้รับเม็ดเงินลงทุนจากกองทุน TESG และ RMF ที่กำลังจะทยอยเข้ามาในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2566

โฟกัสหุ้นวันนี้

BCP ได้ ESG Rating “AAA” คาดกำไรจากการดำเนินงาน 4Q66 เพิ่มขึ้น QoQ หลังรวมผลการดำเนินงานของ BSRC เข้ามาเต็มไตรมาส และปริมาณน้ำมันดิบนำเข้ากลั่นสูงขึ้นหลังหยุดซ่อมบำรุงตามแผนใน 3Q66 อีกทั้ง Valuation ยังไม่แพงด้วย PBV 0.7 เท่า ต่ำกว่า -1SD รอบ 10 ปี

AP ได้ ESG Rating “AA” คาดกำไรสุทธิปีนี้เติบโต 6.2% YoY เป็น 6.24 พันลบ. ทำจุดสูงสุดใหม่ คาดกำไร 4Q66 เพิ่มขึ้น YoY และเพิ่มขึ้นเล็กน้อย QoQ จากการโอนbacklog โครงการ Aspire ปิ่นเกล้า-อรุณอมรินทร์ และ The Address สยาม-ราชเทวีอีกทั้งคาดหวัง Div. Yield ปีนี้ได้ที่ 6%