Wealth Sharing

สงครามอิสราเอล-ฮามาส ประเมินผลกระทบต่อศก.ไทยยังไม่น่าห่วง


19 ธันวาคม 2566
ในกรณีฐาน SCB EIC ประเมินสงครามอิสราเอล-ฮามาสจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกไม่มากนัก แต่ต้องระวังความเสี่ยงสงครามขยายวงกว้าง

สงครามอิสราเอล-ฮามาส ประเมินผลกระทบต่อศก.jpg

สงครามครั้งนี้มีความเสี่ยงที่จะกระทบเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อโลกผ่านหลายช่องทาง ทั้งในด้านมูลค่า
ความเสียหายโดยตรงต่อเศรษฐกิจประเทศที่ทำสงคราม รวมถึงผลกระทบทางอ้อมผ่านราคาน้ำมันโลกและความผันผวนในตลาดการเงินโลกที่สูงขึ้น SCB EIC ประเมินว่าผลกระทบของสงครามต่อเศรษฐกิจโลกจะจำกัดอยู่ภายในปี 2024 โดยในกรณีฐานสงครามจะจำกัดพื้นที่อยู่ในอิสราเอลและปาเลสไตน์ ผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกจะยังไม่มีนัยสำคัญมากนัก ส่วนหนึ่งเนื่องจากอิสราเอลมีความสำคัญในระดับปานกลางต่อเศรษฐกิจโลก ขณะที่ปาเลสไตน์มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจโลกน้อย นอกจากนี้ ทั้งสองประเทศไม่ได้เป็นผู้ผลิตน้ำมันหลักของโลก สงครามครั้งนี้จึงไม่กระทบอุปทานและราคาน้ำมันโลก อย่างไรก็ดี หากสถานการณ์ลุกลามทำให้ประเทศผู้นำในภูมิภาค เช่น อิหร่าน เข้าร่วมสงครามโดยตรง อาจกดดันให้เศรษฐกิจโลกลดลง -0.4 percentage point (pp) และอัตราเงินเฟ้อโลกเพิ่มขึ้น +0.54 pp ท่ามกลางปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ที่อาจรุนแรงขึ้นตามมาจากชนวนเหตุในภูมิภาคนี้

SCB EIC ประเมินผลของสงครามต่อเศรษฐกิจไทยยังไม่น่าห่วง 
SCB EIC ประเมินในกรณีฐานที่สงครามจำกัดอยู่ในอิสราเอลและปาเลสไตน์ ผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยจะมีไม่มากเนื่องจาก (1) ราคาน้ำมันโลกและไทยจะไม่ได้ปรับเพิ่มขึ้นมาก (2) อิสราเอลและไทยค้าขายระหว่างกันไม่สูงนัก ขณะที่การค้าไทยกับปาเลสไตน์ไม่ค่อยมีนัยสำคัญต่อเศรษฐกิจไทย (3) ไทยพึ่งพานักท่องเที่ยวอิสราเอลเพียง 0.9% ของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด แต่ไม่ได้พึ่งพานักท่องเที่ยวปาเลสไตน์ และ (4) ไทยไม่ได้เป็นฐานการลงทุนของอิสราเอลและปาเลสไตน์ อย่างไรก็ดี ความรุนแรงในอิสราเอลจะส่งผลกระทบต่อไทยผ่านตลาดแรงงานระหว่างประเทศอย่างมีนัยสำคัญ โดยอิสราเอลเป็นประเทศที่แรงงานไทยนิยมไปทำงานสูงกว่า 25,000 คน สูงสุดเป็นอันดับ 2 รองจากไต้หวัน หรือราว 20% ของแรงงานไทยทั้งหมดในต่างประเทศ

จับตาหากสงครามขยายวงกว้างรุนแรงขึ้นจะกระทบเศรษฐกิจไทยมากขึ้นหลายด้านผ่านราคาน้ำมันโลกสูง
หากสงครามรุนแรงกินเวลานานและกระจายวงกว้างขึ้น เศรษฐกิจไทยจะได้รับผลกระทบมากขึ้นผ่านราคาน้ำมันดิบโลกที่เพิ่มขึ้น การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และความผันผวนในตลาดการเงินโลก โดยราคาน้ำมันโลกที่เพิ่มขึ้นจะส่งผลต่อเศรษฐกิจไทยผ่านหลายช่องทาง ได้แก่ เงินเฟ้อสูงกดดันการบริโภค ดุลการค้าขาดดุลมากขึ้น การเติบโตของ GDP ลดลง ในภาพรวม SCB EIC ประเมินว่า หากอิหร่านเข้าร่วมในสงครามตัวแทน (Proxy war) เศรษฐกิจไทยปี 2024 จะขยายตัวลดลง -0.28 pp อัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้น +0.19 pp แต่หากอิหร่านเข้าร่วมสงครามโดยตรง (Direct war) เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวลดลง -0.85 pp อัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้น +0.57 pp เทียบกับกรณีไม่มีสงครามเกิดขึ้น