“นายกเศรษฐา ทวีสิน”ออกอาการช็อตฟีว บอกลาพักร้อนขอพักผ่อนกับครอบครัว มารดาแก่มากแล้วและลูกชายที่กลับจากต่างประเทศซึ่งเป็นข้อเท็จจริง หากแต่ “เศรษฐา”เพิ่งพิสูจน์ทราบนิยาม”การเมืองไม่
มีมิตรแท้และศัตรูถาวร” นอกจากครอบครัวของเราเอง โดยเฉพาะในห้วงเวลาทดลองงาน 120 วัน หากเป็นบริษัทเอกชนจะต้องแจ้งลูกจ้างจะได้รับการบรรจุเป็นพนักงานหรือไม่
120 วัน เท่ากับวันที่ “นักโทษเทวดา” บินกลับเข้าประเทศมาติดคุกตามคำพิพากษาเด็ดขาดของศาลในห้องพักVVIPโรงพยาบาลตำรวจ ความพร้อมกันของทั้งสองคน สองภารกิจสำคัญเพื่อการใด “ทักษิณ ชินวัตร” ผู้นำแห่งจิตวิญญาณพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล หากเป็นนักโทษอยู่ในคุกกรมราชทัณฑ์จะส่งผลต่อการบริหารงานของ “นายกฯเศรษฐา”หรือไม่ การสั่งการ การติดต่อการประสานงานโดยตรง หรือผ่านบริวารที่ส่งเข้าประกบรายล้อมรอบตัว “นายกเศรษฐา” เพื่อให้การบริหารจัดการ ไม่ส่งผลกระทบต่อพันธกิจ “ตัวประกัน”ซึ่งเป็น ภารกิจหลัก หรือเพื่อให้ ภารกิจรองเพียงพอเดินไปได้..
“นายกเศรษฐา”ไร้ความสง่างามเสียรูป “ผู้นำ”กับปม “คำถาม”นักโทษเทวดา “ทวี สอดส่อง”รมว.ยุติธรรมนายแบกคนสำคัญ ยังเนียมอายม้วนหนีสื่อ ทำเป็นหูแว่ว ขณะ”อุ๊งอิ๊ง”แพทองธา ชินวัตร ลูกสาวกลับใช้พลังนุ่มนิ่ม หลบหลีกไปได้แทน “ซอฟต์พาวเวอร์” แม้ก่อนหน้าจะจัดตั้งกระแสสังคมทั้งเชิงรุกและรับ จากผลแห่งความล้มเหลว ขึ้นมาปกปิดเบี่ยงเบนพื้นที่สื่อ คดีส่วยกำนันนก เสี่ยแป้งเลียนแบบ “ต้นฉบับหนีคุก”ออกจากโรงพยาบาล ฮีโร่สมรักษ์อนาจารสาว 17 ล่าสุดปม จำคุกลุงพล 20 ปี คดีมหากาพย์ฆ่าน้องชมพู่เข้ามาแบ่งเบา ขณะ “ทักษิณ”รับโทษนอกเรือนจำครบ 120 วันกรมราชทัณฑ์จะต้องมีรายงานถึงรมว.ยุติธรรมตามระเบียบซึ่งจะกลับมาอยู่ในวงวิพากษ์กันอย่างเข้มข้นกันอีกรอบ ซึ่ง “นายกเศรษฐา”จะต้องรับทราบตามลำดับเฉกเช่นกัน รวมถึงกระบวนการขั้นตอน หาทางเลี่ยง จะเลือกยื่นขอพักโทษหรือจำคุกในที่พักอาศัยแทนเรือนจำตามระเบียบใหม่รองรับ
“ปมนักโทษเทวดา”ส่งผลให้ สถาบันหลักของชาติ ขาดความเชื่อมั่น ทั้ง ฝ่ายบริหาร ที่ “นายกฯเศรษฐา”ไม่อาจผลักดันนโยบายได้ตามคำแถลง นิติบัญญัติ ทำให้ขาดความน่าเชื่อถือต่อการทำหน้าที่เป็น ตัวแทนกลุ่มทุนมากกว่าประชาชน ฝ่ายตุลาการ และ กระบวนการยุติธรรมมีความศักดิ์สิทธิ์ เพียงพอต่อการบังคับใช้กฏหมายหรือไม่
โดยเฉพาะเยี่ยงอย่างระดับ ผู้นำตระบัดสัตย์ อันจะส่งผลต่อ หลักการบริหารประเทศ ในระบอบปกครองประชาธิปไตยของประชาชนโดยประชาชนและเพื่อประชาชน แต่กลับมีการขับเคลื่อนเพื่อผลประโยชน์ของ กลุ่มทุนการเมืองในรัฐบาลผสม กลายเป็น “รัฐบาลเป็ดง่อย” นโยบายขึ้นค่าแรงขั้นต่ำก็ติดกับ ลดค่าไฟขยับราคาไม่ลง ปราบผู้มีอิทธิพลเจอตอ ทุกมาตรการรังแต่จะมีเงื่อนไขและกลับเข้าสู่ระบบ”ทุนสามานย์” เป็นทุนนายหน้า รัฐมนตรีตัวแทน สัมปทานขูดรีดแย่งยึด อำนาจรัฐ ช่วงชิงทรัพยากรณ์ของชาติ ไร้วาระแห่งชาติที่ชัดเจนยากต่อประเมิณผลงานขัดขวางกระบวนการตรวจสอบ และพร้อมที่จะตระบัดสัตย์หลองลวงประชาชนได้ทุกขณะ หลังใช้เทคนิคการได้มาซึ่งสส.แล้ว บิดพลิ้วเพื่อนมิตรกระทั่ง บริวาร ผู้ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อย่าง”เศรษฐา”ในอนาคต..
เบื้องหน้าประชาธิปไตยแต่สอดไส้เผด็จการ บริหารประเทศแบบครอบครัว อาจถึงเวลาส่งเครือญาติขึ้นอยู่อำนาจ โดยเฉพาะหลังหลุดพันธนาการตัวประกันในคุกเทวดาปลอดเงื่อนไข การเข้าควบคุมบริหาร นิติบัญญัติและกระบวนการยุติธรรมถึงเวลา เสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพล “นายกเศรษฐา”ลาพักใจยาวไป.!?
พบกับคอลัมน์ธงนำข่าวโดย บก.พี่ลุง ได้ทุกวันพฤหัสบดี แล้วร่วมติดตามอนาคตประเทศไทยไปพร้อมกัน
ที่มา : https://today.line.me/th/v2/article