Talk of The Town
TIDLOR โชว์กำไรปี 65 ทำนิวไฮ พุ่งแตะ 3,640 ลบ. โต 15% จากปีก่อน พอร์ตสินเชื่อ-ธุรกิจนายหน้าประกันภัยโตแกร่ง
20 กุมภาพันธ์ 2566
บมจ.เงินติดล้อ (TIDLOR) โชว์ผลประกอบการปี 65 โตแกร่ง ทำนิวไฮ กวาดกำไรสุทธิ 3,640 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% จากปีก่อนหน้า รับเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัวภายหลังโควิดคลี่คลาย พอร์ตสินเชื่อขยายตัวแข็งแกร่งที่ 32% และธุรกิจนายหน้าประกันภัยเติบโตอย่างโดดเด่น โดยเฉพาะประกันวินาศภัยโตกว่า 34% ขณะที่รักษา NPLs อยู่ในระดับต่ำเพียง 1.58%
นายปิยะศักดิ์ อุกฤษฎ์นุกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) (TIDLOR) เปิดเผยว่า ผลประกอบการในปี 2565 บริษัทฯ สามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง ทั้งธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียนรถและธุรกิจนายหน้าประกันภัย ตอบรับเศรษฐกิจที่กลับมาฟื้นตัวภายหลัง การคลี่คลายของ การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 แม้ว่าจะได้รับแรงกดดันจากภาวะเงินเฟ้อและ แนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น โดยบริษัทฯมีรายได้รวม 15,274 ล้านบาท เติบโต 27% และมีกำไรสุทธิ 3,640 ล้านบาท ปรับตัวขึ้น 15% จากปีก่อน
โดยพอร์ตสินเชื่อจำนำทะเบียนรถขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็น 81,265 ล้านบาท เติบโตถึง 32% จากความสำเร็จของบัตรติดล้อ (TIDLOR Card) ทั้งสำหรับรถมอเตอร์ไซค์และรถยนต์ การขยายสาขาอย่างมีประสิทธิภาพ และการออกแคมเปญในปีที่ผ่านมา รวมถึงความต้องการสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นของกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อยเพื่อเสริมสภาพคล่อง และเตรียมความพร้อมสำหรับการกลับมาดำเนินธุรกิจ ประกอบกับธุรกิจนายหน้าประกันภัยที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ค่าเบี้ยประกันวินาศภัยในปี 2565 สูงเกือบ 7 พันล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 34% จากปีที่ผ่านมา โดยยังคงการเติบโตได้ดี ในระดับ 30-35% ตามเป้าหมายที่วางไว้ในปีที่ผ่านมา
บริษัทฯ ได้ดำเนินนโยบายพิจารณาสินเชื่ออย่างมีประสิทธิภาพและระมัดระวัง อัตราหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 1.52% ณ ไตรมาส 3/2565 มาอยู่ที่ 1.58% ณ สิ้นปี 2565 เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ในอัตราไม่เกิน 2% และยังคงอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมและคู่แข่ง รวมถึงยังคงอัตราการสำรองหนี้ในระดับสูง นอกจากนี้ในปี 2565 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ยังคงได้รับการจัดอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ที่ระดับ ‘A’ จากทริสเรทติ้ง ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต ‘Stable’ หรือ ‘คงที่’ ซึ่งส่งผลดีต่อต้นทุนทางการเงินของบริษัทฯ ในช่วงภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น
ทั้งนี้ จากการที่ TIDLOR มุ่งขับเคลื่อนองค์กรด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมด้านผลิตภัณฑ์สินเชื่อและประกันภัย อีกทั้งยังได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากการนำเสนอผลิตภัณฑ์ ‘บัตรติดล้อ’ (TIDLOR Card) เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ ให้สามารถกดเงินสดตามวงเงินที่ได้รับจากตู้เอทีเอ็มธนาคารพาณิชย์ชั้นนำทั่วประเทศเกือบ 50,000 ตู้ โดย ณ สิ้นปี 2565 ได้ออกบัตรติดล้อไปแล้วจำนวนมากกว่า 490,000 ใบ รวมถึงการมีช่องทางให้บริการแก่ลูกค้าที่หลากหลาย (Omni-Channel) ทั้งช่องทางออนไลน์ ออฟไลน์และแพลตฟอร์มดิจิทัลซึ่ง ณ สิ้นปี 2565 บริษัทฯ มีสาขาที่เปิดให้บริการรวมทั้งสิ้น 1,628 สาขา นอกจากนี้แบรนด์ ‘ประกันติดล้อ’ และฟีเจอร์ต่ออายุประกันภัยในแอปพลิเคชันเงินติดล้อที่มีการเปิดตัวในปีที่ผ่านมา มีการตอบรับที่ดี สร้างฐานลูกค้าที่แข็งแกร่งและช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ลูกค้าอีกด้วย ผู้สนใจติดตามรายละเอียดเงินติดล้อเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.tidlor.com และ Facebook เงินติดล้อ หรือสอบถามรายละเอียดผลิตภัณฑ์และบริการได้ที่ call center หมายเลข 088-088-0880 ตลอด 24 ชม.
นายปิยะศักดิ์ อุกฤษฎ์นุกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) (TIDLOR) เปิดเผยว่า ผลประกอบการในปี 2565 บริษัทฯ สามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง ทั้งธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียนรถและธุรกิจนายหน้าประกันภัย ตอบรับเศรษฐกิจที่กลับมาฟื้นตัวภายหลัง การคลี่คลายของ การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 แม้ว่าจะได้รับแรงกดดันจากภาวะเงินเฟ้อและ แนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น โดยบริษัทฯมีรายได้รวม 15,274 ล้านบาท เติบโต 27% และมีกำไรสุทธิ 3,640 ล้านบาท ปรับตัวขึ้น 15% จากปีก่อน
โดยพอร์ตสินเชื่อจำนำทะเบียนรถขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็น 81,265 ล้านบาท เติบโตถึง 32% จากความสำเร็จของบัตรติดล้อ (TIDLOR Card) ทั้งสำหรับรถมอเตอร์ไซค์และรถยนต์ การขยายสาขาอย่างมีประสิทธิภาพ และการออกแคมเปญในปีที่ผ่านมา รวมถึงความต้องการสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นของกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อยเพื่อเสริมสภาพคล่อง และเตรียมความพร้อมสำหรับการกลับมาดำเนินธุรกิจ ประกอบกับธุรกิจนายหน้าประกันภัยที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ค่าเบี้ยประกันวินาศภัยในปี 2565 สูงเกือบ 7 พันล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 34% จากปีที่ผ่านมา โดยยังคงการเติบโตได้ดี ในระดับ 30-35% ตามเป้าหมายที่วางไว้ในปีที่ผ่านมา
บริษัทฯ ได้ดำเนินนโยบายพิจารณาสินเชื่ออย่างมีประสิทธิภาพและระมัดระวัง อัตราหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 1.52% ณ ไตรมาส 3/2565 มาอยู่ที่ 1.58% ณ สิ้นปี 2565 เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ในอัตราไม่เกิน 2% และยังคงอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมและคู่แข่ง รวมถึงยังคงอัตราการสำรองหนี้ในระดับสูง นอกจากนี้ในปี 2565 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ยังคงได้รับการจัดอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ที่ระดับ ‘A’ จากทริสเรทติ้ง ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต ‘Stable’ หรือ ‘คงที่’ ซึ่งส่งผลดีต่อต้นทุนทางการเงินของบริษัทฯ ในช่วงภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น
ทั้งนี้ จากการที่ TIDLOR มุ่งขับเคลื่อนองค์กรด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมด้านผลิตภัณฑ์สินเชื่อและประกันภัย อีกทั้งยังได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากการนำเสนอผลิตภัณฑ์ ‘บัตรติดล้อ’ (TIDLOR Card) เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ ให้สามารถกดเงินสดตามวงเงินที่ได้รับจากตู้เอทีเอ็มธนาคารพาณิชย์ชั้นนำทั่วประเทศเกือบ 50,000 ตู้ โดย ณ สิ้นปี 2565 ได้ออกบัตรติดล้อไปแล้วจำนวนมากกว่า 490,000 ใบ รวมถึงการมีช่องทางให้บริการแก่ลูกค้าที่หลากหลาย (Omni-Channel) ทั้งช่องทางออนไลน์ ออฟไลน์และแพลตฟอร์มดิจิทัลซึ่ง ณ สิ้นปี 2565 บริษัทฯ มีสาขาที่เปิดให้บริการรวมทั้งสิ้น 1,628 สาขา นอกจากนี้แบรนด์ ‘ประกันติดล้อ’ และฟีเจอร์ต่ออายุประกันภัยในแอปพลิเคชันเงินติดล้อที่มีการเปิดตัวในปีที่ผ่านมา มีการตอบรับที่ดี สร้างฐานลูกค้าที่แข็งแกร่งและช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ลูกค้าอีกด้วย ผู้สนใจติดตามรายละเอียดเงินติดล้อเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.tidlor.com และ Facebook เงินติดล้อ หรือสอบถามรายละเอียดผลิตภัณฑ์และบริการได้ที่ call center หมายเลข 088-088-0880 ตลอด 24 ชม.