‘ส. ขอนแก่นฟู้ดส์’ หรือ SORKON ปรับทัพบริหารงานเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ชูกลยุทธ์ 4 ด้าน มุ่งมั่นพัฒนาองค์กร สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ภายใต้กลุ่มบริษัทฯ โดยยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง เพิ่มช่องทางการขายต่อเนื่องทั้งในประเทศและต่างประเทศ เดินหน้าสร้างความร่วมมือบริษัทในเครือ ขยายช่องทางร้านค้าปลีกดั้งเดิมและตลาดสดต่อเนื่อง ด้านธุรกิจ QSR เดินหน้าบริหารจัดการลีนองค์กร คาดพลิกกลับมามีกำไรได้ในปี 2567
นายจรัญพจน์ รุจิราโสภณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ส. ขอนแก่นฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SORKON ผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารแปรรูปจากเนื้อสัตว์รายใหญ่ของไทย เปิดเผยว่า บริษัทฯ มุ่งมั่นในการบริหารจัดการเพื่อสร้างผลการดำเนินงานให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน โดยได้วางกลยุทธ์การดำเนินงานเชิงรุก 4 ด้าน ได้แก่ (1) Wow Customer Experience มุ่งสร้างสรรค์ประสบการณ์ผลิตภัณฑ์ใหม่โดยยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง และสร้างความโดดเด่นแตกต่างจากคู่แข่ง เริ่มจัดทำระบบสมาชิก SOR ONE เพื่อเก็บข้อมูลพฤติกรรมและความต้องการของกลุ่มลูกค้า รวมถึงทำโฆษณาสินค้าในช่องทางที่ไม่เคยทำมาก่อน เช่นแพลตฟอร์ม TikTok ซึ่งปัจจุบันมียอดวิวกว่า 131 ล้านวิว ส่งผลโดยตรงต่อยอดขายที่เพิ่มมากขึ้น ประกอบกับได้เริ่มทำแคมเปญสื่อสารการตลาด “แกล้มได้ทุกเรื่องเล่า” เปิดตัว “BUCKET กับแกล้ม” สร้างสีสันช่วงเทศกาลปลายปี และสื่อสารถึงผู้บริโภคแบบครบวงจร ทั้งออนไลน์ ออฟไลน์ เพิ่ม การรับรู้แบรนด์ ส.ขอนแก่น ซึ่งก็ได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดีจากกลุ่มเป้าหมาย
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้เตรียมขยายช่องทางการจัดจำหน่ายให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น วางแผนจัดการสินค้าหน้าร้านร่วมกับห้างร้านต่าง ๆ เพื่อให้ครอบคลุมกว่า 5,000 Outlet จากเดิมที่มีแค่ 400 Outlet ขณะที่ธุรกิจร้านอาหาร QSR ได้มีการออกแบบปรับปรุงประสบการ์ลูกค้าหน้าร้านใหม่รวมถึงปรับปรุงการบริหารจัดการหลังบ้านใหม่ทั้งหมด ตั้งแต่วัตถุดิบ การจัดเสิร์ฟ การพัฒนาเมนูใหม่ รวมไปถึงการลีนองค์กร ลดสาขาร้านอาหารที่ไม่ทำกำไร คาดว่าธุรกิจร้านอาหาร QSR จะเริ่มพลิกกลับมามีกำไรได้ในปี 2567 เป็นต้นไป
(2) E-Global and Own Channels โฟกัสขยายช่องทางใหม่ที่ยังมีสัดส่วนค่อนข้างน้อย เช่น General Trade, E-Commerce, Food service โดยเริ่มมีการผสานความร่วมมือภายในกลุ่มบริษัทฯ เพื่อจัดจำหน่ายสินค้าร่วมกัน อีกทั้ง ได้ขยายผลิตภัณฑ์เข้าสู่ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือมากขึ้น โดยขายผ่านช่องทาง Omni channel เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าสามารถสั่งซื้อได้ง่ายในทุกช่องทาง และจะมุ่งขยายการเข้าถึงร้านค้า รวมถึงทำให้เกิดการซื้อซ้ำมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังเดินหน้าเพิ่มสัดส่วนรายได้จากตลาดต่างประเทศ โดยตั้งตัวแทนจำหน่าย (Distributor) ในกลุ่มประเทศใหม่ ๆ เช่น อเมริกา, ยุโรป และเกาหลี เพื่อสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจ โดยเฉพาะการขยายเข้าสู่ประเทศเกาหลี ซึ่งผลิตภัณฑ์ของ SORKON ได้รับผลตอบรับที่ดีเป็นอย่างมาก ส่งผลให้ยอดขายจากเกาหลีมีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ในอเมริกาและจีนอยู่ระหว่างเจรจากับพาทเนอร์เพื่อนำผลิตภัณฑ์ไปจัดจำหน่าย รวมถึงการวางแผนการผลิตในประเทศนั้น ๆ ร่วมด้วย
(3) Sustainable Supply Chain Integration เนื่องจากรายได้ส่วนใหญ่มาจากกลุ่มอาหารแปรรูปจากเนื้อสุกร เช่น แหนม หมูยอ ซึ่งมีสัดส่วนรายได้มากกว่าธุรกิจฟาร์ม ทำให้มีความเสี่ยงด้านการบริหารจัดการราคาวัตถุดิบที่ผันผวน บริษัทฯ จึงมีแผนลงทุนขยายธุรกิจฟาร์มหมูเพื่อเพิ่มสัดส่วนรายได้และลดความเสี่ยงจากการ Hedging โดยวางแผนขยายพื้นที่ฟาร์มเพื่อรองรับการเติบโตของจำนวนหมูขุนเพิ่มมากขึ้น (4) Foundation Excellence วางแผนบริหารจัดการภายในให้มีประสิทธิภาพทั้งกลุ่มบริษัทฯ ผสมผสานจุดแข็งของกลุ่ม พร้อมวางระบบหลังบ้านให้แข็งแกร่ง พร้อมเอาไปปรับใช้กับธุรกิจใหม่ ๆ ในอนาคต
“ในปี 2567 บริษัทฯ เน้นเสริมสร้างความเข้มแข็งของแบรนด์ ส.ขอนแก่น อย่างต่อเนื่อง ด้วยการมุ่งสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้บริโภค พร้อมขยายช่องทางการจำหน่ายสินค้าในร้านค้าปลีกดั้งเดิมและตลาดสดให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ผ่านดีลเลอร์ที่มีความชำนาญ อีกทั้งวางแผนใช้ประโยชน์จากฐานลูกค้าปัจจุบันของบริษัทในกลุ่มอย่างมหาชัยฟู้ดส์ร่วมด้วย พร้อมกันนี้ ได้วางแผนเพิ่มรายได้จากตลาดต่างประเทศ ซึ่งจะเริ่มรับรู้รายได้จากตลาดอเมริกาในต้นปี 2567” นายจรัญพจน์ กล่าว
นายจรัญพจน์ รุจิราโสภณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ส. ขอนแก่นฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SORKON ผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารแปรรูปจากเนื้อสัตว์รายใหญ่ของไทย เปิดเผยว่า บริษัทฯ มุ่งมั่นในการบริหารจัดการเพื่อสร้างผลการดำเนินงานให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน โดยได้วางกลยุทธ์การดำเนินงานเชิงรุก 4 ด้าน ได้แก่ (1) Wow Customer Experience มุ่งสร้างสรรค์ประสบการณ์ผลิตภัณฑ์ใหม่โดยยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง และสร้างความโดดเด่นแตกต่างจากคู่แข่ง เริ่มจัดทำระบบสมาชิก SOR ONE เพื่อเก็บข้อมูลพฤติกรรมและความต้องการของกลุ่มลูกค้า รวมถึงทำโฆษณาสินค้าในช่องทางที่ไม่เคยทำมาก่อน เช่นแพลตฟอร์ม TikTok ซึ่งปัจจุบันมียอดวิวกว่า 131 ล้านวิว ส่งผลโดยตรงต่อยอดขายที่เพิ่มมากขึ้น ประกอบกับได้เริ่มทำแคมเปญสื่อสารการตลาด “แกล้มได้ทุกเรื่องเล่า” เปิดตัว “BUCKET กับแกล้ม” สร้างสีสันช่วงเทศกาลปลายปี และสื่อสารถึงผู้บริโภคแบบครบวงจร ทั้งออนไลน์ ออฟไลน์ เพิ่ม การรับรู้แบรนด์ ส.ขอนแก่น ซึ่งก็ได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดีจากกลุ่มเป้าหมาย
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้เตรียมขยายช่องทางการจัดจำหน่ายให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น วางแผนจัดการสินค้าหน้าร้านร่วมกับห้างร้านต่าง ๆ เพื่อให้ครอบคลุมกว่า 5,000 Outlet จากเดิมที่มีแค่ 400 Outlet ขณะที่ธุรกิจร้านอาหาร QSR ได้มีการออกแบบปรับปรุงประสบการ์ลูกค้าหน้าร้านใหม่รวมถึงปรับปรุงการบริหารจัดการหลังบ้านใหม่ทั้งหมด ตั้งแต่วัตถุดิบ การจัดเสิร์ฟ การพัฒนาเมนูใหม่ รวมไปถึงการลีนองค์กร ลดสาขาร้านอาหารที่ไม่ทำกำไร คาดว่าธุรกิจร้านอาหาร QSR จะเริ่มพลิกกลับมามีกำไรได้ในปี 2567 เป็นต้นไป
(2) E-Global and Own Channels โฟกัสขยายช่องทางใหม่ที่ยังมีสัดส่วนค่อนข้างน้อย เช่น General Trade, E-Commerce, Food service โดยเริ่มมีการผสานความร่วมมือภายในกลุ่มบริษัทฯ เพื่อจัดจำหน่ายสินค้าร่วมกัน อีกทั้ง ได้ขยายผลิตภัณฑ์เข้าสู่ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือมากขึ้น โดยขายผ่านช่องทาง Omni channel เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าสามารถสั่งซื้อได้ง่ายในทุกช่องทาง และจะมุ่งขยายการเข้าถึงร้านค้า รวมถึงทำให้เกิดการซื้อซ้ำมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังเดินหน้าเพิ่มสัดส่วนรายได้จากตลาดต่างประเทศ โดยตั้งตัวแทนจำหน่าย (Distributor) ในกลุ่มประเทศใหม่ ๆ เช่น อเมริกา, ยุโรป และเกาหลี เพื่อสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจ โดยเฉพาะการขยายเข้าสู่ประเทศเกาหลี ซึ่งผลิตภัณฑ์ของ SORKON ได้รับผลตอบรับที่ดีเป็นอย่างมาก ส่งผลให้ยอดขายจากเกาหลีมีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ในอเมริกาและจีนอยู่ระหว่างเจรจากับพาทเนอร์เพื่อนำผลิตภัณฑ์ไปจัดจำหน่าย รวมถึงการวางแผนการผลิตในประเทศนั้น ๆ ร่วมด้วย
(3) Sustainable Supply Chain Integration เนื่องจากรายได้ส่วนใหญ่มาจากกลุ่มอาหารแปรรูปจากเนื้อสุกร เช่น แหนม หมูยอ ซึ่งมีสัดส่วนรายได้มากกว่าธุรกิจฟาร์ม ทำให้มีความเสี่ยงด้านการบริหารจัดการราคาวัตถุดิบที่ผันผวน บริษัทฯ จึงมีแผนลงทุนขยายธุรกิจฟาร์มหมูเพื่อเพิ่มสัดส่วนรายได้และลดความเสี่ยงจากการ Hedging โดยวางแผนขยายพื้นที่ฟาร์มเพื่อรองรับการเติบโตของจำนวนหมูขุนเพิ่มมากขึ้น (4) Foundation Excellence วางแผนบริหารจัดการภายในให้มีประสิทธิภาพทั้งกลุ่มบริษัทฯ ผสมผสานจุดแข็งของกลุ่ม พร้อมวางระบบหลังบ้านให้แข็งแกร่ง พร้อมเอาไปปรับใช้กับธุรกิจใหม่ ๆ ในอนาคต
“ในปี 2567 บริษัทฯ เน้นเสริมสร้างความเข้มแข็งของแบรนด์ ส.ขอนแก่น อย่างต่อเนื่อง ด้วยการมุ่งสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้บริโภค พร้อมขยายช่องทางการจำหน่ายสินค้าในร้านค้าปลีกดั้งเดิมและตลาดสดให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ผ่านดีลเลอร์ที่มีความชำนาญ อีกทั้งวางแผนใช้ประโยชน์จากฐานลูกค้าปัจจุบันของบริษัทในกลุ่มอย่างมหาชัยฟู้ดส์ร่วมด้วย พร้อมกันนี้ ได้วางแผนเพิ่มรายได้จากตลาดต่างประเทศ ซึ่งจะเริ่มรับรู้รายได้จากตลาดอเมริกาในต้นปี 2567” นายจรัญพจน์ กล่าว