บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส เปิดเผยว่า กลุ่ม Finance – สินเชื่อจำนำทะเบียน/ บัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคล/ AMC จากข่าวผลกระทบน้ำท่วมภาคใต้ โดยเฉพาะบริเวณ จ.ยะลา และ นราธิวาส สร้างความกังวลต่อผู้ประกอบการในกลุ่ม finance ที่ศึกษา ได้แก่ สินเชื่อจำนำทะเบียน (MTC, SAWAD, TIDLOR) สินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคล (AEONTS, KTC) และ AMC (BAM, JMT) ส่วนใหญ่ให้ข้อมูลไปในทิศทางเดียวกันคือ ผลกระทบค่อนข้างจำกัดมาก
โดยน้ำท่วมภาคใต้เป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นประจำทุกปี และเกิดขึ้นในช่วงเวลาไม่นาน การระบายน้ำออกจะรวดเร็วกว่าเพราะเป็นพื้นที่ติดทะเล
ขณะที่ในระดับบริษัท พบว่าแต่ละบริษัทมีสาขาที่ไปเปิดเป็นจำนวนไม่มาก และส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับรายงานผลกระทบจากการเรียกเก็บหนี้ที่ลดลงไปอย่างมีนัยฯ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสถานการณ์น้ำท่วมครั้งนี้ค่อนข้างหนักกว่าทุกครั้ง หากมีสถานการณ์ใหม่เพิ่มเติมเราจะนำเสนอต่อเนื่องในภายหลัง
เรายังชอบกลุ่มสินเชื่อจำนำทะเบียนมากกว่าผู้ประกอบการสินเชื่อประเภทอื่นในกลุ่มที่ศึกษา เนื่องจาก 1) แนวโน้มการเติบโตของสินเชื่อปี 2024 ยังเติบโตสูงกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่ม finance หรือเกิน 10% y-y และ 2) แนวโน้ม credit cost ที่จะแผ่วตัวลงหลังจากผ่านช่วง peak ของค่าใช้จ่ายไปแล้วในช่วง 2Q-3Q23 (MTC, TIDLOR) ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยผลักดันการเติบโตของกำไรสุทธิปี 2024 ที่คาดเพิ่มขึ้นเฉลี่ย c18-28% y-y
โดยเลือก TIDLOR (TP@THB28) เป็น top pick และแนะนำซื้อ SAWAD (FV@THB54) ส่วน MTC (FV@THB44) แนะนำซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว เนื่องจากช่วงสั้นราคาหุ้นปรับตัวขึ้นแรงเกินพื้นฐานปี 2024 ไปแล้ว
โดยน้ำท่วมภาคใต้เป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นประจำทุกปี และเกิดขึ้นในช่วงเวลาไม่นาน การระบายน้ำออกจะรวดเร็วกว่าเพราะเป็นพื้นที่ติดทะเล
ขณะที่ในระดับบริษัท พบว่าแต่ละบริษัทมีสาขาที่ไปเปิดเป็นจำนวนไม่มาก และส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับรายงานผลกระทบจากการเรียกเก็บหนี้ที่ลดลงไปอย่างมีนัยฯ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสถานการณ์น้ำท่วมครั้งนี้ค่อนข้างหนักกว่าทุกครั้ง หากมีสถานการณ์ใหม่เพิ่มเติมเราจะนำเสนอต่อเนื่องในภายหลัง
เรายังชอบกลุ่มสินเชื่อจำนำทะเบียนมากกว่าผู้ประกอบการสินเชื่อประเภทอื่นในกลุ่มที่ศึกษา เนื่องจาก 1) แนวโน้มการเติบโตของสินเชื่อปี 2024 ยังเติบโตสูงกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่ม finance หรือเกิน 10% y-y และ 2) แนวโน้ม credit cost ที่จะแผ่วตัวลงหลังจากผ่านช่วง peak ของค่าใช้จ่ายไปแล้วในช่วง 2Q-3Q23 (MTC, TIDLOR) ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยผลักดันการเติบโตของกำไรสุทธิปี 2024 ที่คาดเพิ่มขึ้นเฉลี่ย c18-28% y-y
โดยเลือก TIDLOR (TP@THB28) เป็น top pick และแนะนำซื้อ SAWAD (FV@THB54) ส่วน MTC (FV@THB44) แนะนำซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว เนื่องจากช่วงสั้นราคาหุ้นปรับตัวขึ้นแรงเกินพื้นฐานปี 2024 ไปแล้ว