มีการเปิดเผยข้อมูลง่านับถึงวานนี้ (26 ธ.ค.) ยอดกองทุน TESG มียอด NAV กองทุนหุ้นทั้งสิ้น 3.32 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 4 วันทำการที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ที่ 2.67, 2.38 , 1.5 และ 1.36 พันล้านบาท
ตามลำดับ
Krungsri Capital Securities แนะนำกลยุทธ์เน้นหุ้นพื้นฐานแข็งแกร่ง อยู่ในโซนลงทุน อิงคาดการณ์ เม็ดเงินจะเข้าราว 1.0-1.5 หมื่นล้านบาท ประเมินหุ้นน่าสนใจและคาดการณ์เม็ดเงิน ดังนี้ AOT(คาดเม็ดเงินเข้า 519-779 ล้านบาท) CPALL (453-680 ล้านบาท) DELTA(403-604 ล้านบาท) SCC (316-474 ล้านบาท SCGP(143-214 ล้านบาท) GPSC(110-166 ล้านบาท) MTC (79-119 ล้านบาท) SAWAD (55-83 ล้านบาท) BGRIM (55-83 ล้านบาท)
สายงานวิจัย บล. เอเซีย พลัส ระบุว่าเม็ดเงินจาก Thailand ESG Fund หนุนตลาดปลายปีในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา สังเกตว่าเม็ดเงินที่ไหลเข้าตลาดหุ้นไทยส่วนใหญ่มาจากสถาบันในประเทศเป็นหลัก โดยตั้งแต่ 18 ธ.ค.66 ซื้อสุทธิไปแล้วกว่า 4 พันล้านบาท ซึ่งสาเหตุหลัก มาจากเม็ดเงิน ESG Fund ที่ทยอยเข้าตลาดหุ้นไทยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆตั้งแต่ 18 ธ.ค.66 มี AUM อยู่ที่ 424 ล้านบาท จนถึงล่าสุดอยู่ 2.84 พันล้านบาท (ณ 25
ธ.ค. 66) โดยเพิ่มเฉลี่ยวันละ 403 ล้านบาท ส่วนสัปดาห์นี้น่าจะเห็นเม็ดเงินไหลเข้ามาเพิ่มเติมเด่นในช่วงโค้งสุดท้ายของปี ฝ่ายวิจัยฯคาดว่าเม็ดเงิน ESG Fund ในปีนี้มีโอกาสอยู่ที่ระดับ 5 พันล้านบาท –1 หมื่นล้านบาท
ขณะที่หากพิจารณา AUM ทั้งหมดเป็นราย บลจ. จะเห็นได้ว่า บลจ.ที่มีมูลค่า AUM มากสุด คือ ไทยพาณิชย์ 600 ล้านบาท, กสิกรไทย 584 ล้านบาท, บัวหลวง 489 ล้านบาท, กรุงไทย 324 ล้านบาท
ขณะที่กลยุทธ์การลงทุน แนะนำทยอยสะสมหุ้นให้ความสำคัญกับ ESG ที่แนวโน้มกำไรเติบโตเด่น หรือ ปันผลสูง
-หุ้น ESG Rating สูง กำไรเติบโตเด่น -> CK, GULF, CRC, BEM, CPALL,MINT, kbank, hmpro, bbl, cpn, intuch, ap, advanc, tisco
-หุ้น ESG Rating สูง ปันผลสูง -> SIRI, BRI, TISCO, ORI, SPALI, SC, LH,INTUCH, AP, TTCL, MAJOR, BBL, ADVANC, kbank, hmpro
ซึ่งรายชื่อที่ซ้ำกันทั้ง 2 กลุ่ม คือ TISCO, INTUCH, AP, BBL , ADVANC , KBANK,HMPRO
สรุป SET Index ช่วงปลายปีมีแรงหนุนจากเงิน TESG Fund จากฝั่งสถาบัน และมีโอกาเร่งตัวในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของปี ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนเน้นหุ้นพื้นฐานแข็งแกร่งที่มี ESG Eating สูงอย่าง TISCO, INTUCH, AP, BBL , ADVANC , KBANK,HMPRO
ตามลำดับ
Krungsri Capital Securities แนะนำกลยุทธ์เน้นหุ้นพื้นฐานแข็งแกร่ง อยู่ในโซนลงทุน อิงคาดการณ์ เม็ดเงินจะเข้าราว 1.0-1.5 หมื่นล้านบาท ประเมินหุ้นน่าสนใจและคาดการณ์เม็ดเงิน ดังนี้ AOT(คาดเม็ดเงินเข้า 519-779 ล้านบาท) CPALL (453-680 ล้านบาท) DELTA(403-604 ล้านบาท) SCC (316-474 ล้านบาท SCGP(143-214 ล้านบาท) GPSC(110-166 ล้านบาท) MTC (79-119 ล้านบาท) SAWAD (55-83 ล้านบาท) BGRIM (55-83 ล้านบาท)
สายงานวิจัย บล. เอเซีย พลัส ระบุว่าเม็ดเงินจาก Thailand ESG Fund หนุนตลาดปลายปีในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา สังเกตว่าเม็ดเงินที่ไหลเข้าตลาดหุ้นไทยส่วนใหญ่มาจากสถาบันในประเทศเป็นหลัก โดยตั้งแต่ 18 ธ.ค.66 ซื้อสุทธิไปแล้วกว่า 4 พันล้านบาท ซึ่งสาเหตุหลัก มาจากเม็ดเงิน ESG Fund ที่ทยอยเข้าตลาดหุ้นไทยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆตั้งแต่ 18 ธ.ค.66 มี AUM อยู่ที่ 424 ล้านบาท จนถึงล่าสุดอยู่ 2.84 พันล้านบาท (ณ 25
ธ.ค. 66) โดยเพิ่มเฉลี่ยวันละ 403 ล้านบาท ส่วนสัปดาห์นี้น่าจะเห็นเม็ดเงินไหลเข้ามาเพิ่มเติมเด่นในช่วงโค้งสุดท้ายของปี ฝ่ายวิจัยฯคาดว่าเม็ดเงิน ESG Fund ในปีนี้มีโอกาสอยู่ที่ระดับ 5 พันล้านบาท –1 หมื่นล้านบาท
ขณะที่หากพิจารณา AUM ทั้งหมดเป็นราย บลจ. จะเห็นได้ว่า บลจ.ที่มีมูลค่า AUM มากสุด คือ ไทยพาณิชย์ 600 ล้านบาท, กสิกรไทย 584 ล้านบาท, บัวหลวง 489 ล้านบาท, กรุงไทย 324 ล้านบาท
ขณะที่กลยุทธ์การลงทุน แนะนำทยอยสะสมหุ้นให้ความสำคัญกับ ESG ที่แนวโน้มกำไรเติบโตเด่น หรือ ปันผลสูง
-หุ้น ESG Rating สูง กำไรเติบโตเด่น -> CK, GULF, CRC, BEM, CPALL,MINT, kbank, hmpro, bbl, cpn, intuch, ap, advanc, tisco
-หุ้น ESG Rating สูง ปันผลสูง -> SIRI, BRI, TISCO, ORI, SPALI, SC, LH,INTUCH, AP, TTCL, MAJOR, BBL, ADVANC, kbank, hmpro
ซึ่งรายชื่อที่ซ้ำกันทั้ง 2 กลุ่ม คือ TISCO, INTUCH, AP, BBL , ADVANC , KBANK,HMPRO
สรุป SET Index ช่วงปลายปีมีแรงหนุนจากเงิน TESG Fund จากฝั่งสถาบัน และมีโอกาเร่งตัวในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของปี ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนเน้นหุ้นพื้นฐานแข็งแกร่งที่มี ESG Eating สูงอย่าง TISCO, INTUCH, AP, BBL , ADVANC , KBANK,HMPRO