Talk of The Town

กำไรแบงก์อู้ฟู่ท่ามกลางเศรษฐกิจแย่ เปิดอัตราส่วนการเงินตัวไหนยังต่ำบุ๊ก


08 มกราคม 2567
ในยุคที่ดอกเบี้ยเงินกู้แพงมาก ส่วนดอกเบี้ยเงินฝากก็ไม่ค่อยจูงใจเท่าไหร่ จึงไม่แปลกที่ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยที่ในวงการเรียกว่า NIM จะถ่างห่างส่งผลให้ผลประกอบการธนาคารต่างๆ มีกำไรดีมากสวนทางภาพรวมเศรษฐกิจในกระเป๋ารากหญ้า มีคนจำนวนมิใช่น้อยตกตะลึง และทำให้นักวิชาการบางคนรู้สึก "เอ๊ะ!" ขึ้นมา

แบงก์กำไรดี ทรงหุ้นน่าลุ้นแถมต่ำบุ๊ก.jpg

อย่างไรก็ตาม ก็ต้องยอมรับว่า ภาคธนาคารถือเป็นอุตสาหกรรมใหญ่ของประเทศ และในประเทศเรานั่นยังไม่ได้มีจำนวนคู่แข่งระหว่างกันเองน้อยรายจนเกินไปถึงขนาดเรียกได้ว่าผูกขาด ฉะนั้นถ้าตัวเลขกำไรที่มากมายหลายแสนล้านไม่ได้มาจากการรีดไถเอาเปรียบลูกค้าตาดำๆ ก็น่าจะหมายความว่า การบริหารจัดการมีประสิทธิภาพ มีการหารายได้อย่างกระจายตัวในหลายผลิตภัณฑ์ และในอีกมุมหนึ่งนั้นธุรกิจธนาคารถือเป็นต้นน้ำสายหนึ่งของห่วงโซ่ระบบธุรกิจที่ควรจะอยู่รอดให้ได้ในทุกๆ สภาวะเศรษฐกิจคอยประคับประคองธุรกิจอื่นๆ ให้ได้รับการเข้าถึงการสนับสนุนการเงิน

ขณะที่ในมุมนักลงทุนรายย่อยเรานั้น หุ้นธนาคารถือว่ามีความน่าสนใจในแง่ความมั่นคงมากกว่าอุตสาหกรรมอื่นๆ ในภาพรวม และในปีก่อน หลายตัวถูกถล่มขายจนระดับราคาเรียกได้ว่าเข้าขั้นถูก ซึ่งเป็นที่สังเกตว่าแทบจะทั้งหมดราคาหุ้นแทบจะต่ำกว่าราคาทางมูลค่าทางบัญชีทั้งสิ้น มีเพียง TISCO ที่ไม่เข้าพวก โดยอ้างอิงจากราคาปิดเมื่อวันที่ 5 ม.ค. 2024 กับราคาเทียบมูลค่าทางบัญชีต่อหุ้น จะเรียงลำดับจากค่าน้อยไปมากได้ดังนี้

ตาราง.jpg

บทวิเคราะห์ บล. ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ระบุถึงหุ้นกลุ่มธนาคารว่า คาดกลุ่มธนาคารไทยจะมีกำไรสุทธิเติบโต 42%yoy แต่ลดลง 7% qoq เป็น 4.69 หมื่นล้านบาทใน 4Q23 เราเชื่อว่ากำไรเติบโต yoy จาก NIM ที่เพิ่มขึ้น (+35bp yoy) และอัตราการสำรองหนี้สูญที่ลดลง ส่วนกำไรที่ลดลงมาจากค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (opex) ที่เพิ่มขึ้นตามฤดูกาล แนะนำ “Overweight” กลุ่มธนาคาร โดยเลือก BBL และ SCB เป็นหุ้น Top pick

โดยทั้ง 2 ตัวมีสัญญาณทางเทคนิคดังนี้

BBL สัญญาณฟื้นตัว

แนวรับ : 155.50 บาท และ 154.00 บาท

แนวต้าน : 160.00 บาท และ 162.00 บาท

STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 152.00 บาท

SCB แนวโน้มขึ้นทดสอบ 110 บาท แนวรับ 106-105 บาท แนวรับสำคัญ 103 บาท