บล.เอเซียพลัส ระบุว่า ช่วงต้นปี 2567 มีโอกาสถูกแรงขายจากกองทุน LTF ที่ครบกำหนดอายุเยอะไหม?
ฝ่ายวิจัย ASPS ประเมินว่าแรงขายจาก LTF ในช่วงต้นปี 2567 น่าจะน้อย และไม่น่ากังวลเหมือนต้นปี 2566 ด้วยเหตุผลต่างๆ ดังนี้
1. ในเดือน ม.ค. 66 กองทุนขายสุทธิหุ้นไทยสูงถึง 2.4 หมื่นล้านบาท โดยเป็นแรงขายจากกองทุน LTF ราว 1 หมื่นล้านบาท ทำให้เกิดความกังวลว่าจะซ้ำรอยในปี67 นี้หรือไม่? ส่วนหนึ่งเกิดจากคนที่ซื้อ LTF ในช่วงท้ายปี 60 มีต้นทุนเฉลี่ยช่วงท้ายปี1724
จุด และเฉลี่ยทั้งปี 1612 จุด โดย SET ปิดปี 2565 ที่ 1668 จุด ทำให้ยอดซื้อ LTF ปี 61 ที่ 6.45 หมื่นล้านบาท พอมีกำไรบ้าง และสามารถขายออกได้ทันที พร้อมกับยังมียอดคงค้าง LTF ในปีอื่นๆ รวมอยู่ด้วยสูงถึง 3.3 แสนล้านบาท
2. เดือน ม.ค. 67 เชื่อว่าแรงขายจาก LTF น้อยกว่าปีที่แล้ว และน้อยกว่า 1 หมื่นล้านบาท เพราะ ต้นทุนคนซื้อ LTF ช่วงท้ายปี 2561 อยู่ในกรอบ 1550 –1670 จุด และเฉลี่ยทั้งปี 1720 จุด ยังขาดทุนอยู่มากเมื่อเทียบกับดัชนีปัจจุบัน 1430 จุด ทำให้ยอดซื้อในปี
2561 ที่ 7.6 หมื่นล้านบาท ยังไม่น่าขายออกมาในตอนนี้ต้นทุนคนซื้อ LTF ปลายปี 2561 ยังขาดทุนอยู่มากเมื่อเทียบกับดัชนีปัจจุบัน
3. ยอดคงค้างของกองทุน LTF รวมปัจจุบันอยู่ที่ 2.65 แสนล้านบาท (เป็นยอดคงค้างในปีอื่นๆ นอกจากปี 62 ราว 1.9 แสนล้านบาท) ถือว่าลดลงมามากเมื่อเทียบกับในอดีตราว 4-5 แสนล้านบาท และต่ำกว่าปลายปี 2565 อยู่ที่ 3.3 แสนล้านบาท นั่นคือ
ปริมาณที่จะว่าจะถล่มขายออกมาได้ลดน้อยลงไปมากเมื่อเทียบกับในอดีต
สรุปคือ ยอดซื้อ LTF ในปี 2561 ที่พร้อมขายได้ในปีนี้ยังขาดทุนอยู่พอสมควร ส่วนยอดคงค้าง LTF ถือว่าลดลงมาจากในอดีตมาก ดังนั้นแรงถล่มขาย LTF ในช่วงต้นปีนี้ ยังไม่น่ากังวลเทียบเท่ากับช่วงต้นๆ ปีในอดีต
ฝ่ายวิจัย ASPS ประเมินว่าแรงขายจาก LTF ในช่วงต้นปี 2567 น่าจะน้อย และไม่น่ากังวลเหมือนต้นปี 2566 ด้วยเหตุผลต่างๆ ดังนี้
1. ในเดือน ม.ค. 66 กองทุนขายสุทธิหุ้นไทยสูงถึง 2.4 หมื่นล้านบาท โดยเป็นแรงขายจากกองทุน LTF ราว 1 หมื่นล้านบาท ทำให้เกิดความกังวลว่าจะซ้ำรอยในปี67 นี้หรือไม่? ส่วนหนึ่งเกิดจากคนที่ซื้อ LTF ในช่วงท้ายปี 60 มีต้นทุนเฉลี่ยช่วงท้ายปี1724
จุด และเฉลี่ยทั้งปี 1612 จุด โดย SET ปิดปี 2565 ที่ 1668 จุด ทำให้ยอดซื้อ LTF ปี 61 ที่ 6.45 หมื่นล้านบาท พอมีกำไรบ้าง และสามารถขายออกได้ทันที พร้อมกับยังมียอดคงค้าง LTF ในปีอื่นๆ รวมอยู่ด้วยสูงถึง 3.3 แสนล้านบาท
2. เดือน ม.ค. 67 เชื่อว่าแรงขายจาก LTF น้อยกว่าปีที่แล้ว และน้อยกว่า 1 หมื่นล้านบาท เพราะ ต้นทุนคนซื้อ LTF ช่วงท้ายปี 2561 อยู่ในกรอบ 1550 –1670 จุด และเฉลี่ยทั้งปี 1720 จุด ยังขาดทุนอยู่มากเมื่อเทียบกับดัชนีปัจจุบัน 1430 จุด ทำให้ยอดซื้อในปี
2561 ที่ 7.6 หมื่นล้านบาท ยังไม่น่าขายออกมาในตอนนี้ต้นทุนคนซื้อ LTF ปลายปี 2561 ยังขาดทุนอยู่มากเมื่อเทียบกับดัชนีปัจจุบัน
3. ยอดคงค้างของกองทุน LTF รวมปัจจุบันอยู่ที่ 2.65 แสนล้านบาท (เป็นยอดคงค้างในปีอื่นๆ นอกจากปี 62 ราว 1.9 แสนล้านบาท) ถือว่าลดลงมามากเมื่อเทียบกับในอดีตราว 4-5 แสนล้านบาท และต่ำกว่าปลายปี 2565 อยู่ที่ 3.3 แสนล้านบาท นั่นคือ
ปริมาณที่จะว่าจะถล่มขายออกมาได้ลดน้อยลงไปมากเมื่อเทียบกับในอดีต
สรุปคือ ยอดซื้อ LTF ในปี 2561 ที่พร้อมขายได้ในปีนี้ยังขาดทุนอยู่พอสมควร ส่วนยอดคงค้าง LTF ถือว่าลดลงมาจากในอดีตมาก ดังนั้นแรงถล่มขาย LTF ในช่วงต้นปีนี้ ยังไม่น่ากังวลเทียบเท่ากับช่วงต้นๆ ปีในอดีต