ปี 2566 การท่องเที่ยวไทยยังไม่สดใสมากเท่าที่ควร เนื่องจากมีข่าวเชิงลบเกิดขึ้นตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคมจนถึงสิ้นปี เกิดขึ้นมาเหมือนระลอกคลื่น
ส่งผลกระทบต่อจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาเที่ยวไทย ฟื้นตัวได้แล้ว ปรับลดลงอีก ทยอยฟื้นตัวขึ้นมาใหม่แล้วก็ลดลงอีก ทำให้จำนวนต่างชาติที่จะเข้ามาไม่ถึงฝันสูงสุด
จากสถิติทั้งปี 2566 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวไทย จำนวน 28,042,131 คนสร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้ว 1.2 ล้านล้านบาท โดยต่างชาติสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.มาเลเซีย 4,563,020 คน 2.จีน 3,519,735 คน 3.เกาหลีใต้ 1,658,688 คน 4.อินเดีย 1,626,720 คน และ 5.รัสเซีย 1,481,878 คน
สะท้อนถึงเป้าหมายทั้งปีเดิมคาดว่าจะเข้ามาถึง 30 ล้านคน แต่เข้ามาจริงกว่า 28 ล้านคน
ขณะที่ตลาดฐานลูกค้าหลักอย่างจีน เข้ามาได้ 3.5 ล้านคน ถูกมองว่าเป็นแรงผลักจากมาตรการวีซ่าฟรีของรัฐบาล ที่ช่วยทำให้คนจีนเข้ามาเที่ยวไทยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และผู้ประกอบการส่วนใหญ่ต้องการให้ขยายเวลาดำเนินมาตรการออกไปจากที่จะหมดลง 29 กุมภาพันธ์นี้
เหมือนรัฐบาลได้ยินเสียงประสานที่ส่งมา ล่าสุด เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่า ไทยและจีนเตรียมยกเว้นการขอวีซ่าแบบถาวร เพื่อยกระดับความภาคภูมิใจของพาสปอร์ตไทย สามารถเดินทางเข้าและออกระหว่าง 2 ประเทศ ไทยกับจีนได้แบบซึ่งกันและกัน คาดว่าจะเริ่มในวันที่ 1 มีนาคม 2567
ถือเป็นการอัดยาแรงแบบหมดแม็ก ที่เชื่อว่าจะเป็นผลเชิงบวกกับการท่องเที่ยวไทยได้
เรื่องนี้ อดิษฐ์ ชัยรัตนานนท์ เลขาธิการสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) มองว่า การที่จีนและไทย เตรียมยกเว้นการขอวีซ่าเข้าประเทศระหว่างกันแบบถาวร จะทำให้มีปริมาณความต้องการเดินทางเพิ่มขึ้นจากทั้ง 2 ประเทศ นักท่องเที่ยวสามารถตัดสินใจเดินทางได้ง่ายขึ้น ส่งผลให้สายการบินตัดสินใจเพิ่มเที่ยวบินและเส้นทางการบิน ทั้งจากเมืองหลักและเมืองรองของทั้งสองประเทศ
แต่ประเด็นที่ต้องระวังยังมีอยู่มาก โดยเฉพาะการสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว รวมถึงต้องไม่ให้นักท่องเที่ยวที่เข้ามาส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตปกติของคนไทยด้วย
ที่มา : https://www.matichon.co.th/economy/news_4365387