นายกรพัส อัจฉริยมานีกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเนซีส เฟอร์ทิลีตี เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) "GFC" เปิดเผยว่า ธุรกิจให้บริการรักษาผู้มีบุตรยาก เป็นธุรกิจที่น่าจับตาในขณะนี้ หลังจากที่อัตราการเกิดน้อย จนส่งให้ภาครัฐบาลต้องเร่งนโยบายส่งเสริมการมีบุตรเป็นวาระแห่งชาติ ประกอบกับในปีนี้ก้าวเข้าสู่ปีมะโรง ซึ่งถือเป็นปีมงคลตามความเชื่อของชาวจีนและอีกหลายประเทศทั่วโลก เพราะมังกรเป็นสัญลักษณ์ของความกล้าหาญ สติปัญญา และความสำเร็จ ทำให้ดีมานด์ในการเข้ารับบริการเพื่อรักษามีบุตร สำหรับการมีบุตรช่วงปีมังกรจึงคึกคัก ส่งผลให้ธุรกิจรักษาผู้มีบุตรยากจึงเป็นธุรกิจที่น่าจับตา โดยเฉพาะ "GFC” ที่นอกจากจะได้รับอานิสงค์เชิงบวกจากประเด็นดังกล่าวแล้ว ยังเร่งเดินเกมรุกในการขยาย 2 สาขา ทั้ง สาขาสุวรรณภูมิ-พระราม 9 และ คลินิกสาขาอุบลราชธานี เพื่อรองรับกับดีมานด์กลุ่มผู้เข้ารับบริการรักษาผู้มีบุตรยาก ทั้งคนไทยและต่างชาติในอนาคต ซึ่งสอดรับกับ 4 บริษัทหลักทรัพย์ ที่แนะนำหุ้น “GFC” พร้อมประเมินอัตราการเติบโตสำหรับปี 2567
บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) มีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มการเติบโตของรายได้ของ GFC ที่สูงขึ้นของสาขาพระราม 3 และพระราม 9 ซึ่งมีทิศทางการเติบโตโดดเด่น โดยแนะนำ “ซื้อ”บน P/E ที่ 28 เท่าในปี 2567 เป็น 16 บาท ตอนนี้อิงจาก P/E ที่ 34 เท่า 2567 เพื่อสะท้อนถึงการเติบโตของรายได้ที่แข็งแกร่งในระยะยาวของ GFC จากการขยายสาขาอีก 2 แห่ง โดยประเมินกำไรสุทธิในปี 2566-2568 ที่ 72 ล้านบาท , 103 ล้านบาท และ 133 ล้านบาท ตามลำดับ พร้อมปรับเพิ่มประมาณการกำไรต่อหุ้น (EPS) ขึ้นอีก 13%-45%
บริษัทหลักทรัพย์ เอเอสแอล จำกัด ประมาณการกำไรสุทธิของ GFC ในปี 2566-2568 เท่า 70.2 ล้านบาท , 104.6 ล้านบาท และ115.5 ล้านบาท ตามลำดับ โดยคิดเป็นอัตราการเติบโต เท่ากับ 6.8%, 49.1% และ 10.4% ตามลำดับ หรือ28.3% CAGR และได้ประมาณการรายได้เท่ากับ 340 ล้านบาท , 480 ล้านบาท และ 520 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นอัตราการเติบโตเท่ากับ 23.2%, 41.2% และ 8.3% ตามลำดับ หรือ 23.7% CAGR ตามแนวโน้มการเข้ารับการรักษาเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้มีบุตรยาก ตามแผนการขยายสาขา และการให้บริการแก่ลูกค้าต่างชาติ โดยให้มูลค่าที่เหมาะสมปี 2567 เท่ากับ 14.30 บาท อิง PE เท่ากับ 30 เท่าใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ย PE ระยะยาวของหุ้นกลุ่มโรงพยาบาล โดยมองว่าแนวโน้มของผลประกอบการยังคงเติบโตต่อเนื่อง
บริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) คาดปี 2567 มีกำไรสุทธิที่ 105 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50% จากผลการเปิดสาขาใหม่ สุวรรณภูมิ-พระราม 9 และอุบลราชธานี ตั้งแต่ปลายไตรมาส 1/2567 รวมถึงการนำเอาเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธ์ขยายห้อง LAB ที่เป็นมาตรฐานสากลจะทำให้มีลูกค้าต่างชาติเข้าขอรับบริการเป็นปีแรก พร้อมเคาะราคาเป้าหมายใหม่ที่ 12 บาท อิง PE เดิม 25 เท่า แนะนำ “ซื้อ”
บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด มองว่า จากแนวโน้มจำนวนเคสที่เร่งขึ้นต่อเนื่อง ประกอบกับ ดีมานด์ของการมีลูกให้ทันในช่วงปีมังกรทอง (ปี 2567) ซึ่งจะต้องตั้งครรภ์ช้าสุดในช่วงไตรมาส 4/2566 - ไตรมาส 1/2567 จึงคาดการณ์กำไรปี 2567 แตะ 96 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26% จากการเปิดสาขาใหม่พระราม 9 และอุบลราชธานี ช่วงปลายไตรมาส 1/2567- ต้นไตรมาส 2/2567 ซึ่งคาดว่าทั้ง 2 แห่ง จะสร้างรายได้ปี 2567 ที่ 480 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39% ประกอบกับปัจจุบันอยู่ในระหว่างการเจรจากับ Agency เพื่อส่งคนไข้ชาวจีนมารับบริการในช่วงไตรมาส 1/2567 พร้อมประเมินราคาเหมาะสม GFC ด้วยวิธี Prospective PE Ratio เทียบกับบริษัทที่อยู่ในหมวดของธุรกิจทางการแพทย์ทั้งกลุ่มโรงพยาบาลขนาดเล็กและคลินิกเฉพาะทาง โดยประเมินราคาเหมาะสมปี 2567 ที่ระดับ 11.70 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) มีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มการเติบโตของรายได้ของ GFC ที่สูงขึ้นของสาขาพระราม 3 และพระราม 9 ซึ่งมีทิศทางการเติบโตโดดเด่น โดยแนะนำ “ซื้อ”บน P/E ที่ 28 เท่าในปี 2567 เป็น 16 บาท ตอนนี้อิงจาก P/E ที่ 34 เท่า 2567 เพื่อสะท้อนถึงการเติบโตของรายได้ที่แข็งแกร่งในระยะยาวของ GFC จากการขยายสาขาอีก 2 แห่ง โดยประเมินกำไรสุทธิในปี 2566-2568 ที่ 72 ล้านบาท , 103 ล้านบาท และ 133 ล้านบาท ตามลำดับ พร้อมปรับเพิ่มประมาณการกำไรต่อหุ้น (EPS) ขึ้นอีก 13%-45%
บริษัทหลักทรัพย์ เอเอสแอล จำกัด ประมาณการกำไรสุทธิของ GFC ในปี 2566-2568 เท่า 70.2 ล้านบาท , 104.6 ล้านบาท และ115.5 ล้านบาท ตามลำดับ โดยคิดเป็นอัตราการเติบโต เท่ากับ 6.8%, 49.1% และ 10.4% ตามลำดับ หรือ28.3% CAGR และได้ประมาณการรายได้เท่ากับ 340 ล้านบาท , 480 ล้านบาท และ 520 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นอัตราการเติบโตเท่ากับ 23.2%, 41.2% และ 8.3% ตามลำดับ หรือ 23.7% CAGR ตามแนวโน้มการเข้ารับการรักษาเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้มีบุตรยาก ตามแผนการขยายสาขา และการให้บริการแก่ลูกค้าต่างชาติ โดยให้มูลค่าที่เหมาะสมปี 2567 เท่ากับ 14.30 บาท อิง PE เท่ากับ 30 เท่าใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ย PE ระยะยาวของหุ้นกลุ่มโรงพยาบาล โดยมองว่าแนวโน้มของผลประกอบการยังคงเติบโตต่อเนื่อง
บริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) คาดปี 2567 มีกำไรสุทธิที่ 105 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50% จากผลการเปิดสาขาใหม่ สุวรรณภูมิ-พระราม 9 และอุบลราชธานี ตั้งแต่ปลายไตรมาส 1/2567 รวมถึงการนำเอาเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธ์ขยายห้อง LAB ที่เป็นมาตรฐานสากลจะทำให้มีลูกค้าต่างชาติเข้าขอรับบริการเป็นปีแรก พร้อมเคาะราคาเป้าหมายใหม่ที่ 12 บาท อิง PE เดิม 25 เท่า แนะนำ “ซื้อ”
บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด มองว่า จากแนวโน้มจำนวนเคสที่เร่งขึ้นต่อเนื่อง ประกอบกับ ดีมานด์ของการมีลูกให้ทันในช่วงปีมังกรทอง (ปี 2567) ซึ่งจะต้องตั้งครรภ์ช้าสุดในช่วงไตรมาส 4/2566 - ไตรมาส 1/2567 จึงคาดการณ์กำไรปี 2567 แตะ 96 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26% จากการเปิดสาขาใหม่พระราม 9 และอุบลราชธานี ช่วงปลายไตรมาส 1/2567- ต้นไตรมาส 2/2567 ซึ่งคาดว่าทั้ง 2 แห่ง จะสร้างรายได้ปี 2567 ที่ 480 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39% ประกอบกับปัจจุบันอยู่ในระหว่างการเจรจากับ Agency เพื่อส่งคนไข้ชาวจีนมารับบริการในช่วงไตรมาส 1/2567 พร้อมประเมินราคาเหมาะสม GFC ด้วยวิธี Prospective PE Ratio เทียบกับบริษัทที่อยู่ในหมวดของธุรกิจทางการแพทย์ทั้งกลุ่มโรงพยาบาลขนาดเล็กและคลินิกเฉพาะทาง โดยประเมินราคาเหมาะสมปี 2567 ที่ระดับ 11.70 บาท