จับประเด็นหุ้นเด่น
รายงานพิเศษ : รัฐหนุนลงทุนธุรกิจ “รักษ์โลก” แก้ฝุ่น PM 2.5 อย่างยั่งยืนกระตุ้นพลังงานสะอาดโต
10 มกราคม 2567
คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เคาะมาตรการส่งเสริมลงทุน สนับสนุนลด PM2.5 ผลักดันผลงานธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนโตยั่งยืน
คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(BOI) ได้เห็นชอบมาตรการส่งเสริมการลงทุน เพื่อลดปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 โดยนายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการ BOI ระบุการขยายขอบข่ายการสนับสนุนตามมาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อพัฒนาชุมชนและสังคม ให้รวมถึงการสนับสนุนองค์กรท้องถิ่น และกลุ่มเกษตรกรในการยกระดับสิ่งแวดล้อมในชุมชน โดยการจัดการป่าในพื้นที่เป้าหมาย ครอบคลุมทั้งป่าชุมชน ป่าอนุรักษ์ ป่าสงวนแห่งชาติทั่วประเทศ เพื่อลดปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ระดับชาติ
ทั้งนี้ บีโอไอให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการลงทุนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และลดปัญหามลภาวะ ทั้งที่เกิดจากภาคอุตสาหกรรม ภาคพลังงาน ภาคการขนส่ง รวมทั้งภาคการเกษตรและชุมชน โดยที่ผ่านมา ได้ออกหลายมาตรการที่ช่วยในด้านนี้ เช่น การส่งเสริมการผลิตและใช้พลังงานทดแทน มาตรการยกระดับอุตสาหกรรมโดยใช้เครื่องจักรประหยัดพลังงานและเทคโนโลยีที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า
สำหรับมาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อลดปัญหาฝุ่น PM 2.5 ในครั้งนี้ บีโอไอได้หารือร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในการกำหนดมาตรการที่จะช่วยสนับสนุนและเพิ่มความสามารถขององค์กรท้องถิ่นและกลุ่มเกษตรกร ในการยกระดับการจัดการสิ่งแวดล้อมในชุมชนด้วยวิธีต่างๆ เพื่อลดปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 อย่างยั่งยืน
โดยกิจกรรมที่สามารถขอรับสิทธิตามมาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อลดปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 เช่น
- การก่อสร้างแนวกันไฟป่าเปียก
- การก่อสร้างฝายชะลอความชุ่มชื้น
- การสนับสนุนเครื่องมือและอุปกรณ์ดับไฟป่า
- การฝึกอบรมด้านการป้องกันและควบคุมไฟป่า
การลงทุนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ในส่วนของโรงไฟฟ้า บมจ.ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น (SUPER) นับเป็นบริษัทชั้นนำในด้านการลงทุนในธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาดชั้นนำของประเทศ ซึ่ง “จอมทรัพย์ โลจาย” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มั่นใจผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 4/66 ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง คาดว่าสามารถจำหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ได้อีกราว 40 เมกะวัตต์ ประกอบด้วยโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่เวียดนาม "Soc Trang" กำลังการผลิต 30 เมกะวัตต์ และโครงการพลังงานทดแทนจากแสงอาทิตย์กับมหาวิทยาลัยมหิดล กำลังการผลิตประมาณ 12 เมกะวัตต์
และบริษัทฯคาดว่าจะรักษาเป้าหมายรายได้ปีนี้เติบโต 10% หรือ 10,000 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้ประมาณ 9,000 ล้านบาท ขณะเดียวกัน บริษัทเดินหน้าขายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ ในโครงการโรงไฟฟ้าต่างๆ อย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าหมายใน 3 ปีข้างหน้า จะมีกำลังการผลิตไฟฟ้ามากกว่า 3,000 เมกะวัตต์ จากปัจจุบันมีกำลังการผลิตรวม 1,665 เมกะวัตต์ รวมทั้งการหาพันธมิตรเข้ามาร่วมลงทุน (Strategic Partner) เพื่อสร้างการเติบโตอย่าง
คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(BOI) ได้เห็นชอบมาตรการส่งเสริมการลงทุน เพื่อลดปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 โดยนายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการ BOI ระบุการขยายขอบข่ายการสนับสนุนตามมาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อพัฒนาชุมชนและสังคม ให้รวมถึงการสนับสนุนองค์กรท้องถิ่น และกลุ่มเกษตรกรในการยกระดับสิ่งแวดล้อมในชุมชน โดยการจัดการป่าในพื้นที่เป้าหมาย ครอบคลุมทั้งป่าชุมชน ป่าอนุรักษ์ ป่าสงวนแห่งชาติทั่วประเทศ เพื่อลดปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ระดับชาติ
ทั้งนี้ บีโอไอให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการลงทุนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และลดปัญหามลภาวะ ทั้งที่เกิดจากภาคอุตสาหกรรม ภาคพลังงาน ภาคการขนส่ง รวมทั้งภาคการเกษตรและชุมชน โดยที่ผ่านมา ได้ออกหลายมาตรการที่ช่วยในด้านนี้ เช่น การส่งเสริมการผลิตและใช้พลังงานทดแทน มาตรการยกระดับอุตสาหกรรมโดยใช้เครื่องจักรประหยัดพลังงานและเทคโนโลยีที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า
สำหรับมาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อลดปัญหาฝุ่น PM 2.5 ในครั้งนี้ บีโอไอได้หารือร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในการกำหนดมาตรการที่จะช่วยสนับสนุนและเพิ่มความสามารถขององค์กรท้องถิ่นและกลุ่มเกษตรกร ในการยกระดับการจัดการสิ่งแวดล้อมในชุมชนด้วยวิธีต่างๆ เพื่อลดปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 อย่างยั่งยืน
โดยกิจกรรมที่สามารถขอรับสิทธิตามมาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อลดปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 เช่น
- การก่อสร้างแนวกันไฟป่าเปียก
- การก่อสร้างฝายชะลอความชุ่มชื้น
- การสนับสนุนเครื่องมือและอุปกรณ์ดับไฟป่า
- การฝึกอบรมด้านการป้องกันและควบคุมไฟป่า
การลงทุนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ในส่วนของโรงไฟฟ้า บมจ.ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น (SUPER) นับเป็นบริษัทชั้นนำในด้านการลงทุนในธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาดชั้นนำของประเทศ ซึ่ง “จอมทรัพย์ โลจาย” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มั่นใจผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 4/66 ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง คาดว่าสามารถจำหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ได้อีกราว 40 เมกะวัตต์ ประกอบด้วยโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่เวียดนาม "Soc Trang" กำลังการผลิต 30 เมกะวัตต์ และโครงการพลังงานทดแทนจากแสงอาทิตย์กับมหาวิทยาลัยมหิดล กำลังการผลิตประมาณ 12 เมกะวัตต์
และบริษัทฯคาดว่าจะรักษาเป้าหมายรายได้ปีนี้เติบโต 10% หรือ 10,000 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้ประมาณ 9,000 ล้านบาท ขณะเดียวกัน บริษัทเดินหน้าขายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ ในโครงการโรงไฟฟ้าต่างๆ อย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าหมายใน 3 ปีข้างหน้า จะมีกำลังการผลิตไฟฟ้ามากกว่า 3,000 เมกะวัตต์ จากปัจจุบันมีกำลังการผลิตรวม 1,665 เมกะวัตต์ รวมทั้งการหาพันธมิตรเข้ามาร่วมลงทุน (Strategic Partner) เพื่อสร้างการเติบโตอย่าง