จับประเด็นหุ้นเด่น

รายงานพิเศษ : ธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์หัวหอก ดันรายได้ PJW ปี 67 โตกว่า 15%


10 มกราคม 2567
กลับมาเติบโตอย่างโดดเด่น PJW มั่นใจรายได้ปี 67 โตทะลุ 15%  หนุนการ Turnaround อย่างแข็งแกร่ง จากยอดสั่งซื้อชิ้นส่วนยานยนต์ -ธุรกิจผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ – ธุรกิจบรรจุภัณฑ์สำหรับกลุ่มน้ำมันหล่อลื่น

รายงานพิเศษ ธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์หัวหอก.jpg

หลากหลายธุรกิจของ บมจ.ปัญจวัฒนาพลาสติก (PJW)ในปี  2567  ยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง  โดยเฉพาะธุรกิจหลักอย่างธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์   ซึ่งนายวิวรรธน์  เหมมณฑารพ  ประธานคณะกรรมการบริหาร  PJW มั่นใจ ผลการดำเนินงานในปี 67  ยังเติบโตต่อเนื่องมากกว่า 15%  อัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่า 20%  จากปี 66 ที่นับเป็นปีของการเริ่มกลับมา Turnaround  โดยรายได้เติบโต 10%

ซึ่งการเติบโตในปี 66 มาจากทั้งธุรกิจเดิมและธุรกิจใหม่ โดยเฉพาะธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์ ที่มีมาร์จิ้นสูงกว่าธุรกิจอื่น และบริษัทขึ้นเป็น Tier1 ในธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์  สะท้อนจากไตรมาส 3/66 บริษัทมีรายได้จากธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์ 244.68 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 33% รายได้รวม การเติบโตมาจากกลุ่มลูกค้าจีนมากขึ้น และคาดว่าปี 67 ธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์จะเติบโตอย่างน้อย 20% จากปี 66
          
ส่วนธุรกิจผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์จากพลาสติกในกลุ่มวัสดุสิ้นเปลือง บริษัทกำลังทำผลิตภัณฑ์ใหม่ คือ Oxygen Humidifier จากเดิมที่เป็นผลิตภัณฑ์ Reused ซึ่งต้นทุนสูงกว่าแบบ Single Use ที่ใช้แล้วนำไป Recycle ต่อไม่เป็นขยะทางการแพทย์ โดยกลุ่มธุรกิจดังกล่าวเป็นตลาดใหม่ที่บริษัทได้เข้าไปขยายกลุ่มลูกค้าในปีหน้า มูลค่าตลาดรวม (Market Size) ในไทยอยู่ที่ราว 300-400 ล้านบาท ขณะที่ในอาเซียนมีมูลค่าสูงถึง 3,000 ล้านบาท ทำให้มีโอกาสส่งออกไปยังตลาดอาเซียนได้ แต่ยอดขายในปี 67 อาจจะยังไม่มาก แต่ปีถัดไปคาดว่าจะอยู่ที่ 300-400 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนรายได้ 10% ของรายได้รวม
         
ด้านธุรกิจบรรจุภัณฑ์สำหรับกลุ่มน้ำมันหล่อลื่นในปี 67 คาดว่าจะเติบโตประมาณ 5-7% ส่วนธุรกิจบรรจุกลุ่มอุตสาหกรรมนมและนมเปรี้ยวคาดว่าปีนี้จะเติบโตประมาณ 10% 

ทั้งนี้ธุรกิจยานยนต์มีสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 33% ของรายได้รวม ซึ่งยังมีการเติบโตที่ดี  โดยสนับสนุนจากการรายงานข่าวของกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ที่ระบุ ยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เดือน พ.ย.66 อยู่ที่ 99,609 คัน เพิ่มขึ้น 13.22% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน และมีมูลค่าการส่งออกอยู่ที่ 89,290 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.87% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน

ขณะที่ยอดส่งออก 11 เดือนของปีนี้ (ม.ค.-พ.ย.66) อยู่ที่ 1,027,234 คัน เพิ่มขึ้น 15.59% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีมูลค่าการส่งออกอยู่ที่ 888,455 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.25% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

ซึ่งส.อ.ท. คาดยอดส่งออกปีนี้น่าจะทะลุเป้าที่ 1.05 ล้านคัน แตะที่ 1.1 ล้านคัน ส่วนปี 2567 มีโอกาสที่จะอยู่ในระดับใกล้เคียงกัน         

ส่วนสถานการณ์การจดทะเบียนใหม่ของยานยนต์ไฟฟ้าในเดือนพ.ย.66  ยังมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง  ซึ่ง นับจนถึงวันที่ 30 พ.ย.66  มียานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมในไทย ประเภท BEV รวมทั้งสิ้น 120,713 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 310.56% ส่วนประเภท HEV รวมทั้งสิ้น 338,174คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 32.22% และประเภท PHEV รวมทั้งสิ้น 53,450 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 28.05%
PJW