ระวังหุ้นแบงก์เสี่ยงขาดทุน ผลพวงลงทุน Virtual Bank

Virtual Bank หรือธนาคารเสมือนจริง คือธนาคารพาณิชย์ที่ไม่มีสาขาและตู้ ATM แต่มีสำนักงานใหญ่ให้บริการผ่านช่องทางดิจิทัลทั้งกระบวนการ โดยลูกค้าสามารถเปิดบัญชี ฝากเงิน ถอนเงิน โอนเงิน ชำระเงิน กู้ยืมเงิน ฯลฯ ผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือหรือเว็บไซต์ของธนาคารได้



โดยข้อน่าสนใจคือมีต้นทุนในการดำเนินงานต่ำกว่าธนาคารพาณิชย์แบบดั้งเดิม เนื่องจากไม่มีค่าใช้จ่ายในการเช่าพื้นที่ตั้งสาขาและตู้ ATM ดังนั้นจึงสามารถเสนออัตราดอกเบี้ยเงินฝากและสินเชื่อที่สูงกว่า รวมถึงบริการที่หลากหลายและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ายุคดิจิทัล

ความคืบหน้าเกี่ยวกับ Virtual Bank ในประเทศไทย ขณะนี้มีความชัดเจนในระดับหนึ่งแล้ว โดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ออกหลักเกณฑ์การกำกับดูแล Virtual Bank ขึ้นเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2565 และเปิดให้ยื่นขออนุญาตจัดตั้ง Virtual Bank ไปแล้ว

นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า คาดการณ์ภายในสัปดาห์นี้ ธนาคารแห่งประเทศไทยจะนำส่งร่างหลักเกณฑ์ใบอนุญาตธนาคารพาณิชย์รูปแบบใหม่ที่ไม่มีสาขา โดยให้บริการผ่านช่องทางดิจิทัลเป็นหลัก  (Virtual Bank) มาที่กระทรวงการคลังในรอบสุดท้าย โดยร่างดังกล่าวนั้น จะมีทั้งหลักเกณฑ์ เงื่อนไขต่างๆ ในการเปิด Virtual Bank
ส่วนทางด้านธนาคารแห่งประเทศไทย ระบุสอดคล้องกันว่า ร่างประกาศอยู่ระหว่างรอพิจารณารายละเอียดร่วมกับกระทรวงการคลัง และหลังจาก Virtual Bank ที่จัดตั้งขึ้นใหม่เปิดดำเนินการไประยะหนึ่งแล้ว ธปท. จะติดตามและประเมินผลการดำเนินงานของ Virtual Bank อย่างต่อเนื่องและใกล้ชิด 

พร้อมกันนี้มีรายงานข่าวว่า ปัจจุบันมีผู้ประกอบการที่สนใจทำ Virtual Bank ได้แก่ 1) KTB ที่จับคู่กับ ADVANC 2) SCB ที่จับมือกับ KAKAO Bank ที่มีประสบการณ์ทำ Virtual Bank ในเกาหลีใต้ 3) JMART กับ KB Kookmin 
 
ทั้งนี้จากมุมมองใน บทวิเคราะห์ บล. แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ระบุว่า คาดคงใช้เวลาอีกนาน ราว 2H68 ถึงจะสามารถเปิดดำเนินการได้จริง และถ้าดู Virtual Bank ในต่างประเทศ ช่วงแรกจะยังคงขาดทุน คงใช้เวลาสักระยะหนึ่งถึงจะมีกำไร บางรายยังคงขาดทุนอยู่ และไม่ใช่ทุกรายที่จะประสบความสำเร็จ มองว่าผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จจะต้องมีฐานลูกค้าที่ใหญ่มาก และมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย ดังนั้นจึงยังไม่เห็นผลบวกในระยะสั้นสำหรับผู้ประกอบการที่จะได้ไลเซ่นส์ Virtual bank จึงให้น้ำหนักลงทุนในหุ้นกลุ่มธนาคารระดับปานกลาง (Neutral)
Top Pick ยังคงเป็น BBL (TP : 207 บ.-) และ KTB (TP : 25 บ.-) ที่คาดว่าจะประกาศผลประกอบการ 4Q66 ยังเติบโตดี YoY และมีกำไรทั้งปี 66 ที่เติบโตโดดเด่น