หุ้นปั๊มน้ำมันในประเทศไทยมีแนวโน้มเติบโตได้ดีในระยะยาว เนื่องจากความต้องการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงยังคงมีอย่างต่อเนื่อง และแนวโน้มของราคาน้ำมันดิบโลกมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจปั๊มน้ำมันมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ธุรกิจปั๊มน้ำมันยังมีโอกาสเติบโตจากการขยายสาขาไปยังพื้นที่ใหม่ๆ และการพัฒนาธุรกิจใหม่ๆ เช่น ธุรกิจค้าปลีกสินค้าและบริการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์
แน่นอนว่าเรื่องของประเด็นดราม่าเติมน้ำมันไม่เต็มลิตรที่ปั๊มเจ้าตลาดรายใหญ่นั้น คงไม่ได้ระคาย กระทบอย่างมีนัยต่อกำไรหุ้นในตลาดที่เกี่ยวข้อง ทว่าในแง่ของจิตวิทยาราคาหุ้นพอจะสังเกตได้ว่า อาจเป็นอีกปัจจัยร่วมกดดันให้ได้รับการพิจารณาลงทุนน้อยลงกว่าปกติในด้านภาพลักษณ์
เรื่องนี้มีผลกระทบต่อราคาหุ้นปั๊มน้ำมันในเชิงลบอย่างแน่นอน เนื่องจากข่าวดังกล่าวทำให้ผู้บริโภคเกิดความไม่เชื่อมั่นในปั๊มน้ำมัน และอาจส่งผลต่อยอดขายของปั๊มน้ำมันในระยะสั้น
จากผลการวิจัยพบว่า ผู้บริโภคที่ทราบข่าวเติมน้ำมันไม่เต็มลิตร มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนพฤติกรรมการเติมน้ำมัน โดยหันไปเติมน้ำมันที่ปั๊มอื่นที่มีภาพลักษณ์ที่ดีมากกว่า หรือหันไปเติมน้ำมันจากปั๊มน้ำมันขนาดเล็กที่มีราคาน้ำมันถูกกว่า
นอกจากนี้ ข่าวเติมน้ำมันไม่เต็มลิตร ยังอาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของธุรกิจปั๊มน้ำมันโดยรวม ทำให้ผู้บริโภคมีทัศนคติที่ไม่ดีต่อธุรกิจปั๊มน้ำมัน ซึ่งอาจส่งผลต่อยอดขายของปั๊มน้ำมันในระยะยาว
ในตลาดหุ้นไทยนั้น ปัจจุบันมีหลักทรัพย์ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับปั๊มน้ำมันได้แก่
-บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR เป็นบริษัทลูกของ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT ดำเนินธุรกิจค้าปลีกน้ำมันเชื้อเพลิง ธุรกิจค้าปลีกก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ และธุรกิจค้าปลีกผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมชนิดอื่นๆ
-บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG ดำเนินธุรกิจค้าปลีกน้ำมันเชื้อเพลิง ธุรกิจค้าปลีกก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ ธุรกิจค้าปลีกผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมชนิดอื่นๆ และธุรกิจบริการด้านยานยนต์
-บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP ดำเนินธุรกิจค้าปลีกน้ำมันเชื้อเพลิง ธุรกิจค้าปลีกก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ ธุรกิจค้าปลีกผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมชนิดอื่นๆ และธุรกิจพลังงานทดแทน
(หมายเหตุ เมื่อไม่นานมานี้ BCP เพิ่งซื้อโรงกลั่นน้ำมัน บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ ESSO)
และ
-บริษัท ซัสโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ SUSCO ดำเนินธุรกิจค้าปลีกน้ำมันเชื้อเพลิง ธุรกิจค้าปลีกก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ และธุรกิจค้าปลีกผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมชนิดอื่นๆ
อย่างไรก็ตาม ผลกระทบต่อราคาหุ้นปั๊มน้ำมันจะมากหรือน้อยนั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ ประกอบ เช่น ความรุนแรงของข่าว การดำเนินการของภาครัฐ และพฤติกรรมของผู้บริโภคในระยะต่อไป แต่ในมุมกลับนี่อาจจะเป็นจังหวะที่ดีในการรอสะสมหุ้นดีๆ ที่ราคากำลังย่อตัวอยู่ก็เป็นได้ ซึ่งหุ้นที่มีข่าวเชิงลบได้มีการปรับตัวลงมาพอประมาณแล้วนับแต่ต้นปี ขณะที่คู่แข่งปั๊มอื่นที่เติมเต็มลิตรกว่า ราคาหุ้นกลับบวกสวนประดุจสะท้อนว่าผู้บริโภคกำลังเทใจให้เต็มที่
หมายเหตุ : ตารางเป็นการเปลี่ยนแปลงราคาหุ้นปิดวันที่ 9 มกราคม 2024 เทียบกับราคาปิด ณ สิ้นปี 2566