Wealth Sharing
บล.พาย ปิดดีลระดมทุนกว่า 10 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จาก Koo Group กลุ่มธุรกิจยักษ์ใหญ่สัญชาติไต้หวัน
11 มกราคม 2567
บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) (Pi Securities Public Company Limited) หนึ่งในผู้นำการให้บริการ และผลิตภัณฑ์ด้านการลงทุนแบบครบวงจรในประเทศไทย ประกาศความสำเร็จในการระดมทุนเชิงกลยุทธ์มูลค่ากว่า 10 ล้านเหรียญสหรัฐ จาก Koo Family Group ซึ่งเป็นกลุ่มที่ครอบครองธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไต้หวัน พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนเป้าหมายของบริษัทฯ สู่การเป็นผู้นำแพลตฟอร์มบริหารความมั่งคั่ง และการลงทุนระดับภูมิภาค
ในปัจจุบัน บล.พาย ครองตำแหน่งผู้นำในอุตสาหกรรมหลักทรัพย์ ด้วยปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นที่สูงถึง 21,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และสัญญาซื้อขายล่วงหน้ากว่า 30 ล้านสัญญาในปี 2565 โดยบริษัทฯ มีฐานลูกค้ามากกว่า 80,000 ราย เติบโตเฉลี่ยสะสมต่อปี 16% ภายใน 4 ปีที่ผ่านมา ซึ่ง บล.พาย ชื่อเดิมคือ บล.คันทรี่กรุ๊ป มีการขายธุรกิจรายย่อยไปเมื่อปี 2557 และเริ่มต้นสร้างชื่อเสียง และผลงานใหม่ จนเกิดการรีแบรนด์เป็น บล.พายในปัจจุบัน ภายหลังจากปรับโครงสร้างธุรกิจครั้งใหญ่ บล.พาย ได้ขึ้นแท่นเป็นผู้นำตลาด และสามารถคว้ารางวัล SET TFEX Agent of the Year ติดกันถึง 4 ปีซ้อน ทั้งนี้บล.พาย ได้มุ่งมั่นพัฒนาการให้บริการให้มีความเป็นดิจิทัล และทันสมัยมากขึ้น พร้อมตั้งเป้าขยายฐานลูกค้าเป็น 3 เท่าภายในปี 2567 โดยทางบริษัทฯ กำลังพัฒนาแพลตฟอร์มการลงทุนแบบครบวงจร เพื่อมอบประสบการณ์การลงทุนที่ราบรื่น ไร้รอยต่อ ตอบโจทย์ทุกการลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ภายใต้แอปพลิเคชันเดียว สิ่งเหล่านี่สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของบล.พาย ในการนำเสนอบริการที่เหนือระดับ พร้อมตอบโจทย์นักลงทุนยุคใหม่ และก้าวสู่การเป็นผู้นำในตลาดการลงทุนดิจิทัล
ตระกูล Koo ถือได้ว่าเป็นกลุ่มธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดจากประเทศไต้หวัน ดำเนินกิจการหลากหลายในภูมิภาคเอเชีย ครอบคลุมทั้ง ธนาคาร, ประกันภัย, อสังหาริมทรัพย์, การท่องเที่ยว, กีฬา และการลงทุนในตลาดหุ้นของไต้หวัน สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น จีน และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดย CTBC Financial Holding บริษัทเรือธงของตระกูล Koo คือ กลุ่มบริษัทการเงินข้ามชาติขนาดใหญ่ ที่มีสินทรัพย์รวมมากว่า 260 ล้านเหรียญสหรัฐ ณ ไตรมาส 3 ปี 2566 ในฐานะที่เป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ของบล.พาย จะเป็นผู้ที่ร่วมสนับสนุนการพัฒนาบริการด้านการลงทุน ไปจนถึงผลิตภัณฑ์ และศักยภาพการให้บริการแก่ลูกค้าของบล.พาย ให้ก้าวไปสู่ระดับภูมิภาค
นายทอมมี่ เตชะอุบล, ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คันทรี่ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ บล.พาย กล่าวว่า "เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้ร่วมมือกับพันธมิตรรายแรกของเรา โดยเรามั่นใจว่า ด้วยความช่วยเหลือ และการสนับสนุนจากนักลงทุนเชิงกลยุทธ์ครั้งนี้ จะทำให้เราจะสามารถสร้างแพลตฟอร์มการลงทุนที่เหนือระดับ และส่งมอบประสบการณ์ใหม่ให้แก่ลูกค้าของเราได้อย่างครบวงจร”
“สำหรับปรัชญาในการสร้างดิจิทัลแพลตฟอร์มของบล.พาย คือการนำเอาเทคโนโลยีมาผนวกเข้ากับความสามารถของผลิตภัณฑ์ทางการเงิน เพื่อมอบบริการที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า ซึ่งในปัจจุบัน เราได้มีการนำนวัตกรรมขั้นสูงมาใช้ เพื่อมอบบริการซื้อ-ขายสินทรัพย์ที่หลากหลายให้แก่ลูกค้า โดยผลิตภัณฑ์บนแอปพลิเคชันของเรา ได้รับการคัดสรรมาอย่างดีจากทีมงานผู้เชี่ยวชาญในผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เพื่อให้ลูกค้าสามารถเลือกลงทุนได้อย่างไว้วางใจ ตลอดจนการได้รับคำแนะนำ และการสนับสนุนจากผู้แนะนำการลงทุนอย่างใกล้ชิด มากไปกว่านั้น ทีมการลงทุนของบล.พาย ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาความสามารถในการใช้เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อติดตามพอร์ตการลงทุนของลูกค้า พร้อมเน้นการวิเคราะห์แผนการลงทุน การจัดสรรความเสี่ยงจากข้อมูลเชิงลึก เพื่อช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพผลงานต่อไป” นายทอมมี่ กล่าวเสริม
สำหรับปี 2567 นี้ บล.พาย จะต่อยอดในด้านเทคโนโลยี และความสามารถด้านผลิตภัณฑ์ เพื่อเปิดตัวธุรกิจการบริหารจัดการความมั่งคั่ง (Wealth Management) ซึ่งขณะนี้ บล.พาย มีสินทรัพย์ภายใต้การแนะนำ (AUA) จากลูกค้าบนแพลตฟอร์มกว่า 2.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ และตั้งเป้าเพิ่ม 1.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปีแรก มุ่งเจาะกลุ่มลูกค้าระดับ High-Net-Worth พร้อมนำเสนอโอกาสการลงทุนที่คัดสรรอย่างพิถีพิถันร่วมกับผู้จัดการกองทุนชั้นนำระดับโลก ตลอดจนการวางแผนบริหารความมั่งคั่งสู่ระบบดิจิทัล
นอกจากนี้ นายบ๊อบ เวาเทอร์ส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) ยังได้ตั้งเป้าให้บริษัทฯ เป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของอุตสาหกรรมการลงทุนในประเทศไทย โดยกล่าวว่า "สำหรับ บล.พาย เราเชื่อมั่นในพลังของเทคโนโลยีดิจิทัล โดยการที่เรานำเทคโนโลยีต่างๆ มาใช้นั้น ไม่ได้จะมาทดแทนความสัมพันธ์ของลูกค้ากับผู้แนะนำการลงทุน หากแต่เป็นการผสมผสานจุดแข็งที่ดีสุดของทั้งสองสิ่งเข้าด้วยกัน เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า โดยเราเรียกสิ่งนี้ว่า Digital With A Human Touch”
การร่วมมือกันในครั้งนี้ จะทำให้บล.พาย สามารถพัฒนา Pi Ecosystem ได้ก้าวไกลกว่าที่เคย ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงิน นวัตกรรมต่าง ๆ ไปจนถึงบริการการลงทุนรูปแบบใหม่ๆ ให้แก่ลูกค้าได้อย่างครอบคลุม พร้อมทั้งยังเปิดโอกาสให้บล.พาย สามารถขยายฐานการดำเนินงานสู่ระดับภูมิภาคในอนาคตอีกด้วย
ในปัจจุบัน บล.พาย ครองตำแหน่งผู้นำในอุตสาหกรรมหลักทรัพย์ ด้วยปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นที่สูงถึง 21,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และสัญญาซื้อขายล่วงหน้ากว่า 30 ล้านสัญญาในปี 2565 โดยบริษัทฯ มีฐานลูกค้ามากกว่า 80,000 ราย เติบโตเฉลี่ยสะสมต่อปี 16% ภายใน 4 ปีที่ผ่านมา ซึ่ง บล.พาย ชื่อเดิมคือ บล.คันทรี่กรุ๊ป มีการขายธุรกิจรายย่อยไปเมื่อปี 2557 และเริ่มต้นสร้างชื่อเสียง และผลงานใหม่ จนเกิดการรีแบรนด์เป็น บล.พายในปัจจุบัน ภายหลังจากปรับโครงสร้างธุรกิจครั้งใหญ่ บล.พาย ได้ขึ้นแท่นเป็นผู้นำตลาด และสามารถคว้ารางวัล SET TFEX Agent of the Year ติดกันถึง 4 ปีซ้อน ทั้งนี้บล.พาย ได้มุ่งมั่นพัฒนาการให้บริการให้มีความเป็นดิจิทัล และทันสมัยมากขึ้น พร้อมตั้งเป้าขยายฐานลูกค้าเป็น 3 เท่าภายในปี 2567 โดยทางบริษัทฯ กำลังพัฒนาแพลตฟอร์มการลงทุนแบบครบวงจร เพื่อมอบประสบการณ์การลงทุนที่ราบรื่น ไร้รอยต่อ ตอบโจทย์ทุกการลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ภายใต้แอปพลิเคชันเดียว สิ่งเหล่านี่สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของบล.พาย ในการนำเสนอบริการที่เหนือระดับ พร้อมตอบโจทย์นักลงทุนยุคใหม่ และก้าวสู่การเป็นผู้นำในตลาดการลงทุนดิจิทัล
ตระกูล Koo ถือได้ว่าเป็นกลุ่มธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดจากประเทศไต้หวัน ดำเนินกิจการหลากหลายในภูมิภาคเอเชีย ครอบคลุมทั้ง ธนาคาร, ประกันภัย, อสังหาริมทรัพย์, การท่องเที่ยว, กีฬา และการลงทุนในตลาดหุ้นของไต้หวัน สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น จีน และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดย CTBC Financial Holding บริษัทเรือธงของตระกูล Koo คือ กลุ่มบริษัทการเงินข้ามชาติขนาดใหญ่ ที่มีสินทรัพย์รวมมากว่า 260 ล้านเหรียญสหรัฐ ณ ไตรมาส 3 ปี 2566 ในฐานะที่เป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ของบล.พาย จะเป็นผู้ที่ร่วมสนับสนุนการพัฒนาบริการด้านการลงทุน ไปจนถึงผลิตภัณฑ์ และศักยภาพการให้บริการแก่ลูกค้าของบล.พาย ให้ก้าวไปสู่ระดับภูมิภาค
นายทอมมี่ เตชะอุบล, ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คันทรี่ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ บล.พาย กล่าวว่า "เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้ร่วมมือกับพันธมิตรรายแรกของเรา โดยเรามั่นใจว่า ด้วยความช่วยเหลือ และการสนับสนุนจากนักลงทุนเชิงกลยุทธ์ครั้งนี้ จะทำให้เราจะสามารถสร้างแพลตฟอร์มการลงทุนที่เหนือระดับ และส่งมอบประสบการณ์ใหม่ให้แก่ลูกค้าของเราได้อย่างครบวงจร”
“สำหรับปรัชญาในการสร้างดิจิทัลแพลตฟอร์มของบล.พาย คือการนำเอาเทคโนโลยีมาผนวกเข้ากับความสามารถของผลิตภัณฑ์ทางการเงิน เพื่อมอบบริการที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า ซึ่งในปัจจุบัน เราได้มีการนำนวัตกรรมขั้นสูงมาใช้ เพื่อมอบบริการซื้อ-ขายสินทรัพย์ที่หลากหลายให้แก่ลูกค้า โดยผลิตภัณฑ์บนแอปพลิเคชันของเรา ได้รับการคัดสรรมาอย่างดีจากทีมงานผู้เชี่ยวชาญในผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เพื่อให้ลูกค้าสามารถเลือกลงทุนได้อย่างไว้วางใจ ตลอดจนการได้รับคำแนะนำ และการสนับสนุนจากผู้แนะนำการลงทุนอย่างใกล้ชิด มากไปกว่านั้น ทีมการลงทุนของบล.พาย ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาความสามารถในการใช้เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อติดตามพอร์ตการลงทุนของลูกค้า พร้อมเน้นการวิเคราะห์แผนการลงทุน การจัดสรรความเสี่ยงจากข้อมูลเชิงลึก เพื่อช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพผลงานต่อไป” นายทอมมี่ กล่าวเสริม
สำหรับปี 2567 นี้ บล.พาย จะต่อยอดในด้านเทคโนโลยี และความสามารถด้านผลิตภัณฑ์ เพื่อเปิดตัวธุรกิจการบริหารจัดการความมั่งคั่ง (Wealth Management) ซึ่งขณะนี้ บล.พาย มีสินทรัพย์ภายใต้การแนะนำ (AUA) จากลูกค้าบนแพลตฟอร์มกว่า 2.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ และตั้งเป้าเพิ่ม 1.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปีแรก มุ่งเจาะกลุ่มลูกค้าระดับ High-Net-Worth พร้อมนำเสนอโอกาสการลงทุนที่คัดสรรอย่างพิถีพิถันร่วมกับผู้จัดการกองทุนชั้นนำระดับโลก ตลอดจนการวางแผนบริหารความมั่งคั่งสู่ระบบดิจิทัล
นอกจากนี้ นายบ๊อบ เวาเทอร์ส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) ยังได้ตั้งเป้าให้บริษัทฯ เป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของอุตสาหกรรมการลงทุนในประเทศไทย โดยกล่าวว่า "สำหรับ บล.พาย เราเชื่อมั่นในพลังของเทคโนโลยีดิจิทัล โดยการที่เรานำเทคโนโลยีต่างๆ มาใช้นั้น ไม่ได้จะมาทดแทนความสัมพันธ์ของลูกค้ากับผู้แนะนำการลงทุน หากแต่เป็นการผสมผสานจุดแข็งที่ดีสุดของทั้งสองสิ่งเข้าด้วยกัน เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า โดยเราเรียกสิ่งนี้ว่า Digital With A Human Touch”
การร่วมมือกันในครั้งนี้ จะทำให้บล.พาย สามารถพัฒนา Pi Ecosystem ได้ก้าวไกลกว่าที่เคย ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงิน นวัตกรรมต่าง ๆ ไปจนถึงบริการการลงทุนรูปแบบใหม่ๆ ให้แก่ลูกค้าได้อย่างครอบคลุม พร้อมทั้งยังเปิดโอกาสให้บล.พาย สามารถขยายฐานการดำเนินงานสู่ระดับภูมิภาคในอนาคตอีกด้วย