Smart Investment

PTG + ไพศาล แคปปิตอล Win-Win Synergy


12 มกราคม 2567
Mr.Data

ภาพของการผนึกกำลังระหว่าง บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) (PTG) ผู้นำในธุรกิจพลังงานในไทยที่มีสถานีน้ำมันเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ มากกว่า 2,000 สาขาทั่วประเทศไทย กับบริษัท ไพศาล แคปปิตอล จำกัด  ผู้นำสินเชื่อรถบรรทุกมือสอง ที่มีเครือข่ายสาขา 9 แห่ง และเตรียมเปิดเพิ่มอีก 2 แห่ง ภายในปี 2567 รองรับความต้องการสินเชื่อของลูกค้า

โดย PTG ทุ่มเงินลงทุนกว่า 825 ล้านบาท เข้าถือหุ้น บริษัท ไพศาล แคปปิตอล จำกัด ในสัดส่วน 33.33% เพื่อต่อยอดธุรกิจ Non Oil เชื่อม Ecosystem ของกลุ่ม PTG อย่างครบลูป

เกมส์ใหญ่ PTG จับมือ copy.jpg

บิ๊กดีลครั้งนี้! ถือเป็น Win-Win Synergy ที่ทั้งสองฝ่ายเข้ามาเสริมจุดแข็ง ให้แก่กันและกัน เพื่อสร้างการเติบโตอย่างก้าวกระโดด

ส่วนแหล่งเงินทุนที่ PTG นำมาใช้ในเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้ มาจากเงินทุนหมุนเวียน

ขณะที่ “ไพศาล แคปปิตอล” ได้เงินจากการขายหุ้นในครั้งนี้ 825 ล้านบาท มาใช้สำหรับการขยายพอร์ตสินเชื่อ เพื่อการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในปี 2567 

และเตรียมพร้อมสำหรับการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในปี 2569 

มาดูกันว่า การเข้าซื้อ “ไพศาล แคปปิตอล” ในครั้งนี้ PTG สามารถต่อยอด Ecosystem ให้ครบวงจรได้อย่างไรบ้าง???

…ตามมาดูกัน

ปัจจุบัน PTG ธุรกิจน้ำมันของมีสถานีน้ำมันกว่า 2 พันแห่งทั่วประเทศ เป็นเบอร์หนึ่งของเมืองไทย

ขณะที่ธุรกิจ Non-Oil ทั้งสิ้น 1,892 Touchpoints (ณ สิ้นเดือนก.ย.66) แบ่งเป็น

-ธุรกิจ LPG  539 Touchpoints
-ร้านกาแฟพันธุ์ไทย 756  สาขา
-ร้านกาแฟคอฟฟีเวิลด์ 24 สาขา
-ร้านสะดวกซื้อ Max Mart 334 สาขา
-ศูนย์ซ่อมบำรุงรักษารถยนต์ Autobacs 59 สาขา
-จุดพักรถ Max Camp 78 Touchpoints
-จุดเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง Maxnitron 56 Touchpoints 
-และจุดชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า Elex by EGAT Max 46 จุดชาร์จ

ยิ่งมีความแข็งแกร่งด้วยฐานสมาชิก PT MAX CARD 20 ล้านสมาชิก จะยิ่งเป็นการเสริมความแข็งแกร่ง และเพิ่มแหล่งที่มาของรายได้ให้กับทั้ง PTG และ “ไพศาล แคปปิตอล”

PTG จะได้ฐานลูกค้าเติมน้ำมันเพิ่มจากกลุ่มลูกค้าของ “ไพศาล แคปปิตอล” รวมไปถึงการใช้บริการในเครือของ PTG ที่ครอบคลุมทั้งร้านกาแฟ ร้านสะดวกซื้อ ศูนย์ซ่อมบำรุง

ขณะที่ “ไพศาล แคปปิตอล” ได้ฐานข้อมูลลูกค้า หรือ Big Data ของ PTG ในการขยายลูกค้า

เพราะก้าวต่อไปของบริษัทฯ ไม่ได้หยุดเพียงแค่การขยายพอร์ตสินเชื่อรถบรรทุกมือสอง ที่มีมูลค่าตลาดสูงถึง 30,000-40,000 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันแม้บริษัทจะครองส่วนแบ่งตลาด (มาร์เก็ตแชร์) อันดับหนึ่ง โดยมีพอร์ตสินเชื่อราว 3,000 ล้านบาท

แต่การจับมือกับ PTG ในครั้งนี้จะเป็น ”สปริงบอร์ด“ ในการขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่

โดยปัจจุบัน “ไพศาล แคปปิตอล” อยู่ระหว่างขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อไปสู่เป้าหมายต่อไป ในการเจาะกลุ่มลูกค้าสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ สินเชื่อรายย่อย ซึ่งตลาดยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก เนื่องจากยังมีข้อจำกัดการเข้าถึงแหล่งสินเชื่อจากสถาบันการเงินในระบบ

ในอนาคตเราคงได้เห็นการเปิดสาขาของ “ไพศาล แคปปิตอล” ในปั๊ม PTG 

และนี่คือ โอกาสแห่งความสำเร็จในการเจาะตลาดใหม่ เพื่อเข้าถึงรายย่อย ครอบคลุมการให้บริการทั่วประเทศ ในอีกไม่นาน

ส่วน PTG นอกเหนือจากจะมี Recuring Income จากกำไรตามสัดส่วนถือหุ้น และรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการขายน้ำมัน รวมถึงการใช้บริการในเครือ PTG 

นี่ยังมีอัพไซด์จากการถือหุ้น หลัง “ไพศาล แคปปิตอล” เข้าจดทะเบียนตลาดหุ้นในปี 2569 ตามแผน

บิ๊กดีลนี้บอกเลยไม่ธรรมดา!!!!
PTG