นายกิติศักดิ์ จำปาทิพย์พงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีเอ็มโอ จำกัด (มหาชน) (CMO) เปิดเผยว่า สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2566 บริษัทฯ ได้ถูกพนักงานอัยการฟ้องคดีอาญา ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ปรากฏเป็นคดีหมายเลขลำดับ ที่ อท 213/2566 ระหว่างพนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริต 1 โจทก์กับ บริษัท ซีเอ็มโอ จำกัด (มหาชน) จำเลย
บริษัทฯ ในฐานะผู้ถูกฟ้องคดีขอชี้แจงถึงข้อเท็จจริงและเนื้อหาของคดีที่ไม่กระทบต่อรูปคดี อันเป็นการเปิดเผยข้อมูลให้แก่นักลงทุนและผู้ถือหุ้นทราบ โดยมีรายละเอียดดังนี้
เมื่อประมาณปี 2554 คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติหลักการให้ประเทศไทยเข้าร่วมงาน Universal Exhibition Milano 2015 ณ เมืองมิลาน สาธารณรัฐอิตาลี ระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม ถึง 31 ตุลาคม 2558 โดยมอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสกหรณ์ เป็นหน่วยงานหลักรับผิดชอบการเข้าร่วมงาน วงเงินงบประมาณ 736,890,000 บาท ในวันที่ 8 พฤศจิกายน 2556 คณะกรรมการจัดจ้างโดยวิธีพิเศษได้ร่วมกันพิจารณาคัดเลือกรายชื่อบริษัทและนิติบุคคล จำนวน 10 ราย เพื่อเชิญชวนให้เข้าเสนองาน ในวันที่ 21 พฤศจิกายน 2556 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) ได้รับเรื่องกล่าวหา (บัตรสนเท่ห์ )เกี่ยวกับงาน Universal Exhibition Milano 2015 (EXPO MILANO 2015, ITAN)
ในวันที่ 29 พฤศจิกายน 2556 มีบริษัทแจ้งความประสงค์ในการยื่นเสนองาน จำนวน 2 ราย คือ 1. บริษัทฯ และกิจการร่วมค้า A
ในวันที่ 16 ธันวาคม 2556 กำหนดให้มีการยื่นซองข้อเสนอทางเทคนิคและราคาค่าจางงานพร้อมวาง หลักประกันซอง
ในวันที่ 19-20 ธันวาคม 2556 เป็นวันนำเสนองานของนิติบุคคลทั้งสอง และปรากฏว่าคณะกรรมการจัดจ้างฯ
ได้พิจารณาให้กิจการร่วมค้า A ได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้ชนะ
ในวันที่ 17 มีนาคม 2566 คณะกรรมการป.ป.ช. ได้แจ้งข้อกล่าวหาแกบริษัทฯ โดยกล่าวหาว่า บริษัทฯ โดย กรรมการผู้มีอำนาจในขณะนั้น ร่วมกันกับ กิจการร่วมค้า A ในการเสนอราคา เพื่อวัตถุประสงค์ที่จะให้ประโยชน์แก่ กิจการร่วมค้า A เป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับสำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยหลีกเลี่ยงการแข่งขันราคา อย่างเป็นธรรม ต่อมาเมื่อปี 2559 นาย B ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งกิจการร่วมค้า A ได้เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ บริษัทฯ และเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2560 ได้เข้ามาเป็นกรรมการของบริษัทฯ ต่อมาในวันที่ 18 เมษายน 2566 บริษัทฯ ได้จัดทำชี้แจงยื่นให้แก่คณะกรรมการ ป.ป.ช. โดยชี้แจงแก้ข้อ กล่าวหาในทุก ๆ ประเด็น ซึ่งประเด็นหลักคือบริษัทฯ ได้ทำการเสนอราคาอย่างตรงไปตรงมา ไม่เคยมีการเจรจาตกลง อะไรใด ๆ ต่อกัน การนำเสนองานได้ถูกนำเสนอโดยผู้บริหารระดับสูงของบริษัทฯ การจัดทำรูปแบบในรายละเอียดการเสนองานจัดทำด้วยความสวยงามเหมาะสมกับงานระดับนานาชาติ
ในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2566 ป.ป.ช. ได้มอบหมายให้เจ้าพนักงานดำเนินการกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลนางเลิ้ง กล่าวหานิติบุคคลจำนวนทั้งสิ้น 4 ราย และบุคคลทั้งสิ้นจำนวน 2 ราย ต่อมาพนักงานสอบสวนได้ส่งสำนวนมายังพนักงานอัยการและในวันที่ 13 ธันวาคม 2566 พนักงานอัยการได้ มีคำสั่งฟ้องบริษัทฯ
โดยในวันที่ 15 ธันวาคม 2566 พนักงานอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องนิติบุคคล 2 ราย ส่วนนิติบุคคลอีก 1 ราย และบุคคลธรรมดา 2 รายนั้น พนักงานสอบสวนไม่สามารถนำตัวมาส่งฟ้องได้ทันภายในกำหนดอายุความคือวันที่ 16 ธันวาคม 2566
พฤติการณ์และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดเกี่ยวเนื่องกับข้าราชการ เอกชน และบุคคลธรรมดาหลายราย แต่ สุดท้ายแล้วมีเพียงบริษัทฯ รายเดียวที่ถูกดำเนินคดีต่อศาล
บริษัทฯ ได้มีการจัดหาทนายความที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในคดีอาญาของศาลคดีอาญาทุจริตและประพฤติ มิชอบ เพื่อว่าความแก้ต่างในความผิดดังกล่าวให้กับบริษัทฯ
ทั้งนี้ ในระหว่างเหตุการณ์นับตั้งแต่ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวหา บริษัทฯ มั่นใจว่าไม่ได้กระทำตามที่ถูกกล่าวหาแต่อย่างใด พร้อมทั้งเชื่อมั่นในระบบกระบวนการ ยุติธรรม บริษัทฯ ได้ทำการชี้แจงโดยละเอียดตั้งแต่ชั้นคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้การปฏิเสธในชั้นตำรวจ ให้ความร่วมมือ ชั้นอัยการจนดำเนินการมาถึงชั้นศาล บริษัทฯ ได้จัดเตรียมข้อเท็จจริงของคดีและข้อต่อสู้ต่าง ๆ ไว้แล้ว
ในการประชุมคณะกรรมการครั้งที่ 2/2567 เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2567 บริษัทฯ ได้เชิญทนายความผู้เชี่ยวชาญในคดีลักษณะดังกล่าวเข้ามาอธิบายรายละเอียดและให้ความเห็นเกี่ยวกับประเด็นในการต่อสู้คดีซึ่งมีประโยชน์กับบริษัทฯ ทำให้มีโอกาสสูงที่จะชนะคดีนี้และไม่เกิดความเสียหายใด ๆ กับบริษัทฯ
บริษัทฯ ในฐานะผู้ถูกฟ้องคดีขอชี้แจงถึงข้อเท็จจริงและเนื้อหาของคดีที่ไม่กระทบต่อรูปคดี อันเป็นการเปิดเผยข้อมูลให้แก่นักลงทุนและผู้ถือหุ้นทราบ โดยมีรายละเอียดดังนี้
เมื่อประมาณปี 2554 คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติหลักการให้ประเทศไทยเข้าร่วมงาน Universal Exhibition Milano 2015 ณ เมืองมิลาน สาธารณรัฐอิตาลี ระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม ถึง 31 ตุลาคม 2558 โดยมอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสกหรณ์ เป็นหน่วยงานหลักรับผิดชอบการเข้าร่วมงาน วงเงินงบประมาณ 736,890,000 บาท ในวันที่ 8 พฤศจิกายน 2556 คณะกรรมการจัดจ้างโดยวิธีพิเศษได้ร่วมกันพิจารณาคัดเลือกรายชื่อบริษัทและนิติบุคคล จำนวน 10 ราย เพื่อเชิญชวนให้เข้าเสนองาน ในวันที่ 21 พฤศจิกายน 2556 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) ได้รับเรื่องกล่าวหา (บัตรสนเท่ห์ )เกี่ยวกับงาน Universal Exhibition Milano 2015 (EXPO MILANO 2015, ITAN)
ในวันที่ 29 พฤศจิกายน 2556 มีบริษัทแจ้งความประสงค์ในการยื่นเสนองาน จำนวน 2 ราย คือ 1. บริษัทฯ และกิจการร่วมค้า A
ในวันที่ 16 ธันวาคม 2556 กำหนดให้มีการยื่นซองข้อเสนอทางเทคนิคและราคาค่าจางงานพร้อมวาง หลักประกันซอง
ในวันที่ 19-20 ธันวาคม 2556 เป็นวันนำเสนองานของนิติบุคคลทั้งสอง และปรากฏว่าคณะกรรมการจัดจ้างฯ
ได้พิจารณาให้กิจการร่วมค้า A ได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้ชนะ
ในวันที่ 17 มีนาคม 2566 คณะกรรมการป.ป.ช. ได้แจ้งข้อกล่าวหาแกบริษัทฯ โดยกล่าวหาว่า บริษัทฯ โดย กรรมการผู้มีอำนาจในขณะนั้น ร่วมกันกับ กิจการร่วมค้า A ในการเสนอราคา เพื่อวัตถุประสงค์ที่จะให้ประโยชน์แก่ กิจการร่วมค้า A เป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับสำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยหลีกเลี่ยงการแข่งขันราคา อย่างเป็นธรรม ต่อมาเมื่อปี 2559 นาย B ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งกิจการร่วมค้า A ได้เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ บริษัทฯ และเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2560 ได้เข้ามาเป็นกรรมการของบริษัทฯ ต่อมาในวันที่ 18 เมษายน 2566 บริษัทฯ ได้จัดทำชี้แจงยื่นให้แก่คณะกรรมการ ป.ป.ช. โดยชี้แจงแก้ข้อ กล่าวหาในทุก ๆ ประเด็น ซึ่งประเด็นหลักคือบริษัทฯ ได้ทำการเสนอราคาอย่างตรงไปตรงมา ไม่เคยมีการเจรจาตกลง อะไรใด ๆ ต่อกัน การนำเสนองานได้ถูกนำเสนอโดยผู้บริหารระดับสูงของบริษัทฯ การจัดทำรูปแบบในรายละเอียดการเสนองานจัดทำด้วยความสวยงามเหมาะสมกับงานระดับนานาชาติ
ในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2566 ป.ป.ช. ได้มอบหมายให้เจ้าพนักงานดำเนินการกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลนางเลิ้ง กล่าวหานิติบุคคลจำนวนทั้งสิ้น 4 ราย และบุคคลทั้งสิ้นจำนวน 2 ราย ต่อมาพนักงานสอบสวนได้ส่งสำนวนมายังพนักงานอัยการและในวันที่ 13 ธันวาคม 2566 พนักงานอัยการได้ มีคำสั่งฟ้องบริษัทฯ
โดยในวันที่ 15 ธันวาคม 2566 พนักงานอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องนิติบุคคล 2 ราย ส่วนนิติบุคคลอีก 1 ราย และบุคคลธรรมดา 2 รายนั้น พนักงานสอบสวนไม่สามารถนำตัวมาส่งฟ้องได้ทันภายในกำหนดอายุความคือวันที่ 16 ธันวาคม 2566
พฤติการณ์และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดเกี่ยวเนื่องกับข้าราชการ เอกชน และบุคคลธรรมดาหลายราย แต่ สุดท้ายแล้วมีเพียงบริษัทฯ รายเดียวที่ถูกดำเนินคดีต่อศาล
บริษัทฯ ได้มีการจัดหาทนายความที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในคดีอาญาของศาลคดีอาญาทุจริตและประพฤติ มิชอบ เพื่อว่าความแก้ต่างในความผิดดังกล่าวให้กับบริษัทฯ
ทั้งนี้ ในระหว่างเหตุการณ์นับตั้งแต่ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวหา บริษัทฯ มั่นใจว่าไม่ได้กระทำตามที่ถูกกล่าวหาแต่อย่างใด พร้อมทั้งเชื่อมั่นในระบบกระบวนการ ยุติธรรม บริษัทฯ ได้ทำการชี้แจงโดยละเอียดตั้งแต่ชั้นคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้การปฏิเสธในชั้นตำรวจ ให้ความร่วมมือ ชั้นอัยการจนดำเนินการมาถึงชั้นศาล บริษัทฯ ได้จัดเตรียมข้อเท็จจริงของคดีและข้อต่อสู้ต่าง ๆ ไว้แล้ว
ในการประชุมคณะกรรมการครั้งที่ 2/2567 เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2567 บริษัทฯ ได้เชิญทนายความผู้เชี่ยวชาญในคดีลักษณะดังกล่าวเข้ามาอธิบายรายละเอียดและให้ความเห็นเกี่ยวกับประเด็นในการต่อสู้คดีซึ่งมีประโยชน์กับบริษัทฯ ทำให้มีโอกาสสูงที่จะชนะคดีนี้และไม่เกิดความเสียหายใด ๆ กับบริษัทฯ