Wealth Sharing
CHO พร้อมลุย หลังขายหุ้นเพิ่มทุน “RO” ได้เกินคาด ผู้ถือหุ้นเชื่อมั่นจองซื้อกว่า 1.8 พันราย ระดมทุนได้กว่า 362 ล้านบาท เตรียมดันธุรกิจรถบัสไฟฟ้า (EV-Bus) และลุยต่อยอดโครงการใหม่
16 มกราคม 2567
CHO ปลื้มยอดจองหุ้นเพิ่มทุนเกินคาด ผู้ถือหุ้นเชื่อมั่นจองซื้อเกือบ 1.8 พันราย ระดมทุนได้กว่า 362 ล้านบาท นำเงินไปเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางการเงิน พร้อมดันธุรกิจรถบัสไฟฟ้า (EV-Bus) และลุยต่อยอดโครงการใหม่ในอนาคต
บริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) หรือ “CHO” เปิดเผยว่า หลังจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ได้มีมติอนุมัติการออก และเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2566 ได้มีมติอนุมัติการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น และการจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท รุ่นที่ 4 (“ใบสำคัญแสดงสิทธิ CHO-W4”) ของบริษัท และที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ได้กำหนดวันใช้สิทธิจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนควบวอร์แรนท์ระหว่างวันที่ 26 ธันวาคม 2566 ถึงวันที่ 3 มกราคม 2567 สำหรับการเพิ่มทุน
ผลปรากฎว่ามีผู้ถือหุ้นทั้งในและต่างประเทศให้ความสนใจใช้สิทธิจองซื้อกว่า 1,800 ราย เป็นมูลค่ากว่า 362.12 ล้านบาท เกินกว่าที่จำนวนเงินเพิ่มทุนที่บริษัทได้คาดการณ์ไว้จำนวนเงิน 250 ล้านบาท สำหรับผู้ถือหุ้นรายย่อยที่มาใช้สิทธินั้น ส่วนใหญ่จองซื้อตามสิทธิ หรือเกินกว่าสิทธิที่มี โดยจำนวนเงินที่เพิ่มทุนคราวนี้คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 32.24 ของมูลค่าการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนรวม 1,123,385,010 บาทที่บริษัทได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นให้ระดมทุนในครั้งนี้
บริษัทมีวัตถุประสงค์นำเงินระดมทุนไปเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางการเงิน ขยายธุรกิจในอนาคตเพื่อสร้างฐานรายได้ที่มั่นคงทั้งในระยะสั้น และระยะยาว อาทิ เช่น การสั่งซื้อรถบัสไฟฟ้าจากจีนเพื่อมาจำหน่ายในประเทศไทยที่เป็นตัวแทนจำหน่ายรถบัสไฟฟ้ายี่ห้ออันไข่ (ANHUI ANKAI AUTOMOBILE CO., LTD) แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย รวมถึงการร่วมลงทุนในระยะยาวกับบริษัทชั้นนำในประเทศจีน เช่น AVIC-INTL PROJECT ENGINEERING COMPANY. ในการนำเข้าชิ้นส่วนรถบัสไฟฟ้าจากสาธารณรัฐประชาชนจีนเพื่อประกอบเป็นรถบัสไฟฟ้าในประเทศไทยแบบ Semi-Knocked Down Kit (SKD) เพื่อจำหน่ายในประเทศไทย ตลอดจนให้บริการและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของรถโดยสาร EV-BUS โดยตรงผ่านตัวแทนจำหน่ายของบริษัททั่วประเทศไทย
นอกจากนี้ หากบริษัทสามารถระดมเงินจากการเพิ่มทุนในครั้งนี้ได้เต็มจำนวน เสริมด้วยเงินกู้จากหุ้นกู้แปลงสภาพที่ออกและเสนอขายให้กับกองทุนต่างประเทศอีกจำนวน 1 พันล้านบาท บริษัทมีความตั้งใจที่จะเป็นบริษัทมหาชนที่ปลอดภาระหนี้สินภายในปี 2567 หรือต้นปี 2568 นี้
สำหรับหุ้นเพิ่มทุนที่เหลือจากการเสนอขายนั้น บริษัทฯ จะเสนอคณะกรรมการบริษัท เพื่อพิจารณาและเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนครั้งที่ 2 ให้กับผู้ถือหุ้นที่สนใจต่อไปภายหลังการจดทะเบียนเพิ่มทุนของบริษัทครั้งนี้เสร็จสมบูรณ์เป็นที่เรียบร้อย
บริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) หรือ “CHO” เปิดเผยว่า หลังจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ได้มีมติอนุมัติการออก และเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2566 ได้มีมติอนุมัติการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น และการจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท รุ่นที่ 4 (“ใบสำคัญแสดงสิทธิ CHO-W4”) ของบริษัท และที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ได้กำหนดวันใช้สิทธิจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนควบวอร์แรนท์ระหว่างวันที่ 26 ธันวาคม 2566 ถึงวันที่ 3 มกราคม 2567 สำหรับการเพิ่มทุน
ผลปรากฎว่ามีผู้ถือหุ้นทั้งในและต่างประเทศให้ความสนใจใช้สิทธิจองซื้อกว่า 1,800 ราย เป็นมูลค่ากว่า 362.12 ล้านบาท เกินกว่าที่จำนวนเงินเพิ่มทุนที่บริษัทได้คาดการณ์ไว้จำนวนเงิน 250 ล้านบาท สำหรับผู้ถือหุ้นรายย่อยที่มาใช้สิทธินั้น ส่วนใหญ่จองซื้อตามสิทธิ หรือเกินกว่าสิทธิที่มี โดยจำนวนเงินที่เพิ่มทุนคราวนี้คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 32.24 ของมูลค่าการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนรวม 1,123,385,010 บาทที่บริษัทได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นให้ระดมทุนในครั้งนี้
บริษัทมีวัตถุประสงค์นำเงินระดมทุนไปเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางการเงิน ขยายธุรกิจในอนาคตเพื่อสร้างฐานรายได้ที่มั่นคงทั้งในระยะสั้น และระยะยาว อาทิ เช่น การสั่งซื้อรถบัสไฟฟ้าจากจีนเพื่อมาจำหน่ายในประเทศไทยที่เป็นตัวแทนจำหน่ายรถบัสไฟฟ้ายี่ห้ออันไข่ (ANHUI ANKAI AUTOMOBILE CO., LTD) แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย รวมถึงการร่วมลงทุนในระยะยาวกับบริษัทชั้นนำในประเทศจีน เช่น AVIC-INTL PROJECT ENGINEERING COMPANY. ในการนำเข้าชิ้นส่วนรถบัสไฟฟ้าจากสาธารณรัฐประชาชนจีนเพื่อประกอบเป็นรถบัสไฟฟ้าในประเทศไทยแบบ Semi-Knocked Down Kit (SKD) เพื่อจำหน่ายในประเทศไทย ตลอดจนให้บริการและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของรถโดยสาร EV-BUS โดยตรงผ่านตัวแทนจำหน่ายของบริษัททั่วประเทศไทย
นอกจากนี้ หากบริษัทสามารถระดมเงินจากการเพิ่มทุนในครั้งนี้ได้เต็มจำนวน เสริมด้วยเงินกู้จากหุ้นกู้แปลงสภาพที่ออกและเสนอขายให้กับกองทุนต่างประเทศอีกจำนวน 1 พันล้านบาท บริษัทมีความตั้งใจที่จะเป็นบริษัทมหาชนที่ปลอดภาระหนี้สินภายในปี 2567 หรือต้นปี 2568 นี้
สำหรับหุ้นเพิ่มทุนที่เหลือจากการเสนอขายนั้น บริษัทฯ จะเสนอคณะกรรมการบริษัท เพื่อพิจารณาและเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนครั้งที่ 2 ให้กับผู้ถือหุ้นที่สนใจต่อไปภายหลังการจดทะเบียนเพิ่มทุนของบริษัทครั้งนี้เสร็จสมบูรณ์เป็นที่เรียบร้อย