บีซีพีจี เผยปี 2565 กลุ่มบริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 2,630 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 30.8 จากปี 2564 ขณะที่ไตรมาสที่ 4/2565 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 296 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 24.5 จากงวดเดียวกันของปีก่อน
นายนิวัติ อดิเรก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทฯ สำหรับงวดปี 2565 มีรายได้รวมอยู่ที่ 5,405 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.8 เมื่อเทียบปี 2564 ที่มีรายได้รวมเท่ากับ 4,669 ล้านบาท มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 2,630 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 30.8 จากปี 2564 ที่มีกำไรสุทธิเท่ากับ 2,011 ล้านบาท
ขณะที่ผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/2565 มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,267 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.8 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันปีก่อน ที่มีรายได้รวมเท่ากับ 1,232 ล้านบาท มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 296 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 24.5 จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 238 ล้านบาท
พร้อมกันนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2566 ได้อนุมัติจ่ายเงินปันผลสำหรับงวดวันที่ 1 กรกฎาคม- 31 ธันวาคม 2565 หรือครึ่งปีหลังในอัตราหุ้นละ 0.16 บาท ซึ่งเมื่อรวมเงินปันผลระหว่างกาลที่จ่ายไปแล้วจากผลการดำเนินงานงวดวันที่ 1 มกราคม- 30 มิถุนายน 2565 คิดเป็นเงินปันผลทั้งปี 0.36 บาทต่อหุ้น
กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record Date) ในวันอังคารที่ 7 มีนาคม 2566 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันศุกร์ที่ 21 เมษายน 2566 โดยบริษัทฯ จะจ่ายเงินปันผลเมื่อได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 แล้ว
ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทฯ มีกำลังการผลิตไฟฟ้าทั้งหมด 1,109 เมกะวัตต์ เปิดดำเนินการขายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) เรียบร้อยแล้ว 391 เมกะวัตต์ อยู่ระหว่างพัฒนา 718 เมกะวัตต์ คาดว่าจะสามารถเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ทั้งหมดภายในปี 2568
นายนิวัติ อดิเรก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทฯ สำหรับงวดปี 2565 มีรายได้รวมอยู่ที่ 5,405 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.8 เมื่อเทียบปี 2564 ที่มีรายได้รวมเท่ากับ 4,669 ล้านบาท มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 2,630 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 30.8 จากปี 2564 ที่มีกำไรสุทธิเท่ากับ 2,011 ล้านบาท
ขณะที่ผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/2565 มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,267 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.8 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันปีก่อน ที่มีรายได้รวมเท่ากับ 1,232 ล้านบาท มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 296 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 24.5 จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 238 ล้านบาท
พร้อมกันนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2566 ได้อนุมัติจ่ายเงินปันผลสำหรับงวดวันที่ 1 กรกฎาคม- 31 ธันวาคม 2565 หรือครึ่งปีหลังในอัตราหุ้นละ 0.16 บาท ซึ่งเมื่อรวมเงินปันผลระหว่างกาลที่จ่ายไปแล้วจากผลการดำเนินงานงวดวันที่ 1 มกราคม- 30 มิถุนายน 2565 คิดเป็นเงินปันผลทั้งปี 0.36 บาทต่อหุ้น
กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record Date) ในวันอังคารที่ 7 มีนาคม 2566 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันศุกร์ที่ 21 เมษายน 2566 โดยบริษัทฯ จะจ่ายเงินปันผลเมื่อได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 แล้ว
ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทฯ มีกำลังการผลิตไฟฟ้าทั้งหมด 1,109 เมกะวัตต์ เปิดดำเนินการขายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) เรียบร้อยแล้ว 391 เมกะวัตต์ อยู่ระหว่างพัฒนา 718 เมกะวัตต์ คาดว่าจะสามารถเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ทั้งหมดภายในปี 2568