บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุว่า เลือก GFPT (GFPT.BK/GFPT TB) เป็นหุ้นเด่นในบรรดาผู้ผลิตเนื้อสัตว์ จากแนวโน้ม กำไรที่แข็งแกร่งที่สุดใน 4Q66F ตามปริมาณการส่งออกที่สูงขึ้น
ในขณะเดียวกัน ยังชอบ Thaifoods Group (TFG.BK/TFG TB) มากกว่าผู้ผลิตหมูรายอื่น ๆ สำหรับการเก็งกำไรในระยะสั้น ตาม GPM ที่จะเพิ่มขึ้นถ้าหากราคาหมูเพิ่มขึ้น และ ราคาหุ้นที่ถูกกว่า (ปัจจุบัน PER อยู่ที่ 11.7x ต่ำกว่าของหุ้นอื่นในกลุ่มที่ 17.0x)
คาดราคาเนื้อสัตว์ในประเทศจะฟื้นตัวขึ้นก่อนตรุษจีนในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาไก่ในประเทศลดลงเล็กน้อย 0.6% เหลือ 39.00 บาท/กก. ในขณะที่ราคาหมูยังทรงตัวอยู่ที่ 69.50 บาท/กก. ทั้งนี้มีการคาดกันว่าราคาหมูน่าจะฟื้นตัวกลับขึ้นมาใกล้ระดับ 80.00 บาท/กก. ในช่วงเทศกาลตรุษจีน (10 กุมภาพันธ์) หลังจากที่รัฐบาลขอความร่วมมือกับผู้ประกอบการค้าปลีกรายใหญ่ให้เพิ่มราคารับซื้อหมู ในขณะเดียวกัน ราคาหมูในประเทศจีนลดลง 6.0% เหลือ CNY13.6/กก. (เป็นระดับที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2565) เพราะถูกกดดันจากภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอในส่วนของราคาอาหารสัตว์ ราคากากถั่วเหลืองในตลาดโลกลดลงอีก 6.2% เหลือ US$362/ton ตาม soft
commodities อื่น ๆ อย่างเช่น ถั่วเหลือง, ข้าวสาลี และข้าวโพด เนื่องจากมีการเก็งกันว่าจะมีอุปทานเพิ่มขึ้นจากทวีปอเมริกาใต้ ในขณะเดียวกัน ราคาข้าวโพดในประเทศยังคงเพิ่มขึ้น 1.5% เป็น 10.40 บาท/กก. USDA คงประมาณการผลผลิตถั่วเหลือง และข้าวสาลีเอาไว้เกือบเท่าเดิม
ในรายงานฉบับเดือนมกราคม USDA ยังคงประมาณการผลผลิต และการบริโภคถั่วเหลืองโลกในปี MY2566/2567F เอาไว้ที่ 399 ล้านตัน และ 384 ล้านตัน ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม ราคาถั่วเหลืองที่ลดลงอย่างมากจากการคาดการณ์ว่าผลผลิตในอาร์เจนตินา และปารากวัยจะเพิ่มขึ้น ส่วนประมาณการผลผลิตข้าวสาลีมีการปรับขึ้นเล็กน้อยเพียง 2ล้านตัน เป็น 785ล้านตัน ในขณะที่มีการปรับเพิ่มประมาณการการบริโภคขึ้นอีก 1ล้านตันเป็น 796ล้านตัน