จับประเด็นหุ้นเด่น
รายงานพิเศษ : Digital Economy มาแรงปี73 สัดส่วนแตะ 30% ของGDPโลกดันผลงาน TPS
17 มกราคม 2567
โลกปัจจุบันเทคโนโลยีดิจิทัลจะเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยยกระดับธุรกิจให้ดีขึ้น เติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง ซึ่งสอดคล้องและสนับสนุนผลงานบมจ. เดอะแพรคทิเคิลโซลูชั่น (TPS) ในฐานะที่ชำนาญในเรื่องระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ
ต้องยอมรับว่าเศรษฐกิจหรือการทำธุรกิจในโลกยุคใหม่ เทคโนโลยีดิจิทัลจะมีความสำคัญมากขึ้น ซึ่ง EXIM BANK ได้ระบุ โดยอ้างรายงานของ World Bank และ Digital Cooperation Organization ที่ประเมินว่า ปัจจุบัน Digital Economy มีสัดส่วนราว 15% ของ GDP โลก และคาดว่าจะแตะ 30% ในปี 2573 โดยเทคโนโลยีดิจิทัลถูกนำไปต่อยอดหรือประยุกต์ใช้ในหลายวงการ โดยเฉพาะภาคธุรกิจ นับตั้งแต่การผลิตไปจนถึงส่งมอบสินค้าถึงมือลูกค้า รวมถึงบริการหลังการขายอีกด้วย ภายใต้ความสำคัญดังกล่าว 5 เทรนด์เทคโนโลยีดิจิทัลที่คาดว่าจะมาแรงในปี 2567 ซึ่งประกอบด้วย
Social Commerce ช่องทางการค้าใหม่มาแรง
ปัจจุบันการค้าออนไลน์ก้าวขึ้นมาเป็นช่องทางการค้าสำคัญที่เติบโตอย่างรวดเร็ว โดย Oberlo ผู้ให้บริการ E-Commerce ชั้นนำของโลกประเมินว่า ในปี 2568 จำนวนนักชอปปิงออนไลน์ทั่วโลกจะเพิ่มเป็น 2.8 พันล้านคนหรือราว 1 ใน 3 ของประชากรโลก การค้าออนไลน์ผ่าน Social Media Platform เช่น Facebook, Instagram, WeChat และ TikTok เติบโตก้าวกระโดด โดย Strategic Market Research คาดว่า รายได้ของ Social Commerce โลกจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 6.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2573 จาก 0.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2565 หรือขยายตัวเฉลี่ยปีละ 30.8% Generative AI ตัวช่วยสำหรับธุรกิจยุคใหม่
ปัญญาประดิษฐ์หรือ AI เน้นการสร้างสรรค์สิ่งใหม่จากข้อมูลที่มีอยู่ แตกต่างจาก AI แบบเดิมที่เน้นการวิเคราะห์และคาดการณ์เป็นหลัก โดยภาคธุรกิจนิยมนำ Gen AI มาใช้ในหลายด้าน ทั้งการสร้าง Content ใหม่ ๆ การสร้างแคมเปญการตลาดให้โดนใจลูกค้า ตลอดจนการให้คำปรึกษา/แนะนำลูกค้า Bloomberg คาดว่า รายได้จากการใช้งาน Gen AI ทั่วโลกจะขยายตัวก้าวกระโดดแตะระดับ 1.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2575 หรือโตเฉลี่ยถึงปีละ 226%
AR ช่วยให้ผู้ใช้มองเห็นวัตถุในรูปแบบ 3 มิติในพื้นที่จริง ซึ่งได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นและถูกนำไปใช้ในภาคธุรกิจอย่างกว้างขวาง โดย ARtillery Intelligence บริษัทที่ปรึกษาด้าน AR ของสหรัฐฯ คาดว่า รายได้ของ AR โลกในปี 2567 จะแตะระดับ 21 พันล้านดอลลาร์สหรัฐหรือโตถึง 5.4 เท่าจาก 5 ปีก่อน ปัจจุบันหลายบริษัทใช้ AR เป็นตัวช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น เช่น IKEA ผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ของสวีเดนใช้ AR ช่วยลูกค้าจำลองการวางเฟอร์นิเจอร์ในบ้านได้เสมือนจริง Rayban ผู้ผลิตแว่นตาของสหรัฐฯ ใช้ AR ให้ลูกค้าทดลองเลือกแว่นที่เข้ากับใบหน้าBig Data การใช้ข้อมูลขนาดใหญ่ขับเคลื่อนธุรกิจ
ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) เป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจยุคใหม่ ภาคธุรกิจนำ Big Data มาวิเคราะห์เพื่อยกระดับองค์กรในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการจัดการความเสี่ยง การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า และการพัฒนากลยุทธ์การตลาด โดย International Data Corporation บริษัทที่ปรึกษาของสหรัฐฯ ประเมินว่า ในช่วงปี 2553-2568 ปริมาณข้อมูลในภาคธุรกิจเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเฉลี่ยปีละ 25% ตัวอย่างบริษัทที่นำ Big Data มาช่วยเพิ่มรายได้แก่บริษัท เช่น Amazon ผู้ให้บริการ E-Commerce ระดับโลกใช้ Big Data วิเคราะห์เพื่อแนะนำสินค้าให้ตรงกับความต้องการลูกค้ามากที่สุด ช่วยให้รายได้ของบริษัทฯ ในปี 2564 เพิ่มขึ้นถึง 35% Netflix ผู้ให้บริการ Streaming ของสหรัฐฯ นำ Big Data โดยเฉพาะพฤติกรรมการใช้งานของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นรายการ/ซีรีส์ที่ดูบ่อย ความถี่และระยะเวลาที่รับชม มาวิเคราะห์และนำเสนอคอนเทนต์ที่ตรงใจลูกค้าให้มากที่สุดVoice Assistant สุดยอดผู้ช่วยด้านเสียง
อีกหนึ่งเครื่องมือสำคัญยุคใหม่ เป็นการพัฒนา AI ให้สามารถสั่งการด้วยเสียง เพื่อนำมาใช้ในด้านต่าง ๆ ทั้งการค้นหาข้อมูล (Voice Search) รวมถึงเป็นตัวช่วยสั่งซื้อสินค้า เช่น 7-Eleven ในสหรัฐฯ ใช้งานระบบ Voice Assistant "7 Voice" สำหรับให้ลูกค้าสั่งซื้อสินค้าและจัดส่งถึงบ้านด้วยเสียง ข้อดี คือ ลูกค้าซื้อสินค้าได้ง่าย รวมถึงระบบยังจดจำเสียงพร้อมที่อยู่ เพิ่มความสะดวกแก่ลูกค้า ทำให้อยากกลับมาซื้อซ้ำ ทั้งนี้ มีการประเมินว่า ตลาด Voice Assistant Shopping จะเติบโตอีกมาก โดยเฉพาะในเอเชีย-แปซิฟิก ซึ่งคาดว่าในช่วงปี 2564-2569 จะโตเฉลี่ยปีละ 50.5% ตลาดสำคัญ ได้แก่ จีน อินเดีย ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย สำหรับ Voice Assistant ที่นิยม เช่น SIRI (Apple), Google Assistant และ Amazon Alexa
ซึ่งโอกาสและความต้องการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในองค์กรต่างๆ จะสนับสนุนผลงานของ บมจ. เดอะแพรคทิเคิลโซลูชั่น (TPS) ในฐานะเป็นผู้ให้คำปรึกษา ออกแบบ จัดหา ติดตั้ง และจำหน่ายผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ( Information Technology Solutions Provider : ITP )
ที่ CEO “บุญสม กิจเกษตรสถาพร” มั่นใจแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/66 ยังมีทิศทางที่ดี จากการที่บริษัทมีงานที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) อยู่ที่ 2,285 ล้านบาท และบริษัทฯ และ บริษัท เดอะวิน เทเลคอม จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ยังเดินหน้าเข้าประมูลงานใหม่ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน โดยเฉพาะงานภาครัฐที่มีขนาดใหญ่ ทำให้มั่นใจว่า ผลงานในปีนี้จะสามารถสร้างสถิติสูงสุดใหม่ได้ ทั้งในด้านรายได้ และกำไร
ต้องยอมรับว่าเศรษฐกิจหรือการทำธุรกิจในโลกยุคใหม่ เทคโนโลยีดิจิทัลจะมีความสำคัญมากขึ้น ซึ่ง EXIM BANK ได้ระบุ โดยอ้างรายงานของ World Bank และ Digital Cooperation Organization ที่ประเมินว่า ปัจจุบัน Digital Economy มีสัดส่วนราว 15% ของ GDP โลก และคาดว่าจะแตะ 30% ในปี 2573 โดยเทคโนโลยีดิจิทัลถูกนำไปต่อยอดหรือประยุกต์ใช้ในหลายวงการ โดยเฉพาะภาคธุรกิจ นับตั้งแต่การผลิตไปจนถึงส่งมอบสินค้าถึงมือลูกค้า รวมถึงบริการหลังการขายอีกด้วย ภายใต้ความสำคัญดังกล่าว 5 เทรนด์เทคโนโลยีดิจิทัลที่คาดว่าจะมาแรงในปี 2567 ซึ่งประกอบด้วย
Social Commerce ช่องทางการค้าใหม่มาแรง
ปัจจุบันการค้าออนไลน์ก้าวขึ้นมาเป็นช่องทางการค้าสำคัญที่เติบโตอย่างรวดเร็ว โดย Oberlo ผู้ให้บริการ E-Commerce ชั้นนำของโลกประเมินว่า ในปี 2568 จำนวนนักชอปปิงออนไลน์ทั่วโลกจะเพิ่มเป็น 2.8 พันล้านคนหรือราว 1 ใน 3 ของประชากรโลก การค้าออนไลน์ผ่าน Social Media Platform เช่น Facebook, Instagram, WeChat และ TikTok เติบโตก้าวกระโดด โดย Strategic Market Research คาดว่า รายได้ของ Social Commerce โลกจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 6.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2573 จาก 0.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2565 หรือขยายตัวเฉลี่ยปีละ 30.8% Generative AI ตัวช่วยสำหรับธุรกิจยุคใหม่
ปัญญาประดิษฐ์หรือ AI เน้นการสร้างสรรค์สิ่งใหม่จากข้อมูลที่มีอยู่ แตกต่างจาก AI แบบเดิมที่เน้นการวิเคราะห์และคาดการณ์เป็นหลัก โดยภาคธุรกิจนิยมนำ Gen AI มาใช้ในหลายด้าน ทั้งการสร้าง Content ใหม่ ๆ การสร้างแคมเปญการตลาดให้โดนใจลูกค้า ตลอดจนการให้คำปรึกษา/แนะนำลูกค้า Bloomberg คาดว่า รายได้จากการใช้งาน Gen AI ทั่วโลกจะขยายตัวก้าวกระโดดแตะระดับ 1.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2575 หรือโตเฉลี่ยถึงปีละ 226%
AR ช่วยให้ผู้ใช้มองเห็นวัตถุในรูปแบบ 3 มิติในพื้นที่จริง ซึ่งได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นและถูกนำไปใช้ในภาคธุรกิจอย่างกว้างขวาง โดย ARtillery Intelligence บริษัทที่ปรึกษาด้าน AR ของสหรัฐฯ คาดว่า รายได้ของ AR โลกในปี 2567 จะแตะระดับ 21 พันล้านดอลลาร์สหรัฐหรือโตถึง 5.4 เท่าจาก 5 ปีก่อน ปัจจุบันหลายบริษัทใช้ AR เป็นตัวช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น เช่น IKEA ผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ของสวีเดนใช้ AR ช่วยลูกค้าจำลองการวางเฟอร์นิเจอร์ในบ้านได้เสมือนจริง Rayban ผู้ผลิตแว่นตาของสหรัฐฯ ใช้ AR ให้ลูกค้าทดลองเลือกแว่นที่เข้ากับใบหน้าBig Data การใช้ข้อมูลขนาดใหญ่ขับเคลื่อนธุรกิจ
ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) เป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจยุคใหม่ ภาคธุรกิจนำ Big Data มาวิเคราะห์เพื่อยกระดับองค์กรในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการจัดการความเสี่ยง การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า และการพัฒนากลยุทธ์การตลาด โดย International Data Corporation บริษัทที่ปรึกษาของสหรัฐฯ ประเมินว่า ในช่วงปี 2553-2568 ปริมาณข้อมูลในภาคธุรกิจเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเฉลี่ยปีละ 25% ตัวอย่างบริษัทที่นำ Big Data มาช่วยเพิ่มรายได้แก่บริษัท เช่น Amazon ผู้ให้บริการ E-Commerce ระดับโลกใช้ Big Data วิเคราะห์เพื่อแนะนำสินค้าให้ตรงกับความต้องการลูกค้ามากที่สุด ช่วยให้รายได้ของบริษัทฯ ในปี 2564 เพิ่มขึ้นถึง 35% Netflix ผู้ให้บริการ Streaming ของสหรัฐฯ นำ Big Data โดยเฉพาะพฤติกรรมการใช้งานของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นรายการ/ซีรีส์ที่ดูบ่อย ความถี่และระยะเวลาที่รับชม มาวิเคราะห์และนำเสนอคอนเทนต์ที่ตรงใจลูกค้าให้มากที่สุดVoice Assistant สุดยอดผู้ช่วยด้านเสียง
อีกหนึ่งเครื่องมือสำคัญยุคใหม่ เป็นการพัฒนา AI ให้สามารถสั่งการด้วยเสียง เพื่อนำมาใช้ในด้านต่าง ๆ ทั้งการค้นหาข้อมูล (Voice Search) รวมถึงเป็นตัวช่วยสั่งซื้อสินค้า เช่น 7-Eleven ในสหรัฐฯ ใช้งานระบบ Voice Assistant "7 Voice" สำหรับให้ลูกค้าสั่งซื้อสินค้าและจัดส่งถึงบ้านด้วยเสียง ข้อดี คือ ลูกค้าซื้อสินค้าได้ง่าย รวมถึงระบบยังจดจำเสียงพร้อมที่อยู่ เพิ่มความสะดวกแก่ลูกค้า ทำให้อยากกลับมาซื้อซ้ำ ทั้งนี้ มีการประเมินว่า ตลาด Voice Assistant Shopping จะเติบโตอีกมาก โดยเฉพาะในเอเชีย-แปซิฟิก ซึ่งคาดว่าในช่วงปี 2564-2569 จะโตเฉลี่ยปีละ 50.5% ตลาดสำคัญ ได้แก่ จีน อินเดีย ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย สำหรับ Voice Assistant ที่นิยม เช่น SIRI (Apple), Google Assistant และ Amazon Alexa
ซึ่งโอกาสและความต้องการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในองค์กรต่างๆ จะสนับสนุนผลงานของ บมจ. เดอะแพรคทิเคิลโซลูชั่น (TPS) ในฐานะเป็นผู้ให้คำปรึกษา ออกแบบ จัดหา ติดตั้ง และจำหน่ายผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ( Information Technology Solutions Provider : ITP )
ที่ CEO “บุญสม กิจเกษตรสถาพร” มั่นใจแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/66 ยังมีทิศทางที่ดี จากการที่บริษัทมีงานที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) อยู่ที่ 2,285 ล้านบาท และบริษัทฯ และ บริษัท เดอะวิน เทเลคอม จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ยังเดินหน้าเข้าประมูลงานใหม่ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน โดยเฉพาะงานภาครัฐที่มีขนาดใหญ่ ทำให้มั่นใจว่า ผลงานในปีนี้จะสามารถสร้างสถิติสูงสุดใหม่ได้ ทั้งในด้านรายได้ และกำไร