จิปาถะ

ปิยบุตร วิเคราะห์คำวินิจฉัย ศาลรธน. 3 ประเด็น พิธา รอดคดีไอทีวี


24 มกราคม 2567
ปิยบุตร วิเคราะห์คำวินิจฉัย.jpg

ปิยบุตร วิเคราะห์คำนิจฉัย พิธา เหตุไอทีวีไม่ได้เป็นสื่อ กระตุกใครจะเป็นนักการเมือง ดูให้ดีถือแม้แต่ 1 หุ้นหรือไม่ เตรียมไลฟ์เจาะลึกรายการ ปิยบุตรทัวร์ คืนนี้


เมื่อวันที่ 24 มกราคม นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์ข้อความผ่าน x แสดงความเห็น หลังจากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคดีการถือครองหุ้นไอทีวีของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ระบุข้อความว่า

“วิเคราะห์คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ คดีพิธา

ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยยกคำร้องในคดีที่พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ถูกร้องว่ามีลักษณะต้องห้ามจากการถือหุ้นสื่อ

โดยศาลรัฐธรรมนูญ เห็นว่า พิธา ไม่มีลักษณะต้องห้ามดังกล่าว โดยให้เหตุผลในสามประเด็น ดังนี้

1. ตามบทบัญญัติมาตรา 98 (3) “เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดๆ” แม้ถือหุ้นเพียงหุ้นเดียว ก็เข้าข่ายตามมาตรา 98 (3) นี้ ไม่จำเป็นต้องดูจำนวนหุ้นมากเท่าไร จนส่งผลครอบงำสั่งการได้หรือไม่

กรณีนี้ ศาลรัฐธรรมนูญเห็นต่างกับศาลฎีกา (คำสั่งศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง 24/2566 คดีชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ถือหุ้น AIS 200 หุ้น)

เป็นอันว่า ถ้ายังไม่ยกเลิกมาตรา 98 (3) ใครจะมาเป็นนักการเมือง ลงสมัครรับเลือกตั้ง ต้องไปตรวจสอบให้ดีว่าตนเองถือหุ้นสื่อแม้แต่ 1 หุ้น หรือไม่

ก่อนเลือกตั้ง คดีขึ้นศาลฎีกา รอด
หลังประกาศผลเลือกตั้ง คดีขึ้นศาลรัฐธรรมนูญ ไม่รอด

2. พิธายังคงถือหุ้นบริษัท ไอทีวี 42,000 หุ้น ณ วันสมัครรับเลือกตั้ง

3. บริษัท ไอทีวี ไม่ได้เป็นสื่อ

โดยพิจารณาจากคำให้การของประธานบริษัท, สปน.บอกเลิกสัญญาการทำสื่อกับไอทีวี, ไอทีวี ไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการ, งบการเงิน แสดงให้เห็นว่าไม่มีรายได้จากการทำสื่อ, เอกสารส่งสำนักงานประกันสังคม ไม่ได้ระบุว่าทำสื่อ

ผมจะวิเคราะห์คำวินิจฉัยนี้ โดยละเอียดอีกครั้ง ในรายการ “ปิยบุตร ทัวร์” ทางช่อง Friends Talk วันนี้ เวลา 20.00 น.”

ที่มา : https://www.matichon.co.th/politics/news_4392003