จับประเด็นหุ้นเด่น

รายงานพิเศษ : “การแพทย์จีโนมิกส์” พลิกโฉมการรักษา ใช้ข้อมูลด้านพันธุกรรมเน้น “ตรงจุด-แม่นยำ”


29 มกราคม 2567
“การแพทย์จีโนมิกส์” เมกะเทรนด์ระดับโลกที่จะเข้ามาพลิกโฉมวงการการแพทย์ทั่วโลก  มีจุดเด่นใช้ข้อมูลด้านพันธุกรรมร่วมกับข้อมูลสุขภาพอื่นๆ ส่งผลรักษาผู้ป่วยได้ตรงจุด แม่นยำ  ลดอัตราการเสียชีวิต

รายงานพิเศษ การแพทย์จีโนมิกส์พลิกโฉมการร.jpg

“สุขภาพที่แข็งแรง” เป็นสิ่งที่ปรารถนาของทุกคน  แต่การเจ็บไข้ได้ป่วยก็เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้  ทำให้อุตสาหกรรมการแพทย์ยิ่งมีความสำคัญ สะท้อนจากสัดส่วนค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพของไทยต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศที่เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 3-5% และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง  และยังเป็นเทรนด์ที่มีทิศทางเดียวกับทุกประเทศทั่วโลก ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลที่กำหนดเป้าหมายให้ไทยเป็นจุดหมายปลายทางด้านการแพทย์ หรือ Medical hub ของภูมิภาคและโลก

ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยมูลค่ามหาศาลและภาพพจน์ที่ทันสมัย และคงปฏิเสธไม่ได้ว่า “การบริการทางการแพทย์ของไทย” เป็นจุดเด่น และมีความพร้อมมากที่สุดที่จะช่วยส่งเสริมให้ไทยก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ หรือ Medical Hub ของโลกได้ไม่ยากนัก เนื่องจากการบริการทางการแพทย์ของไทยมีชื่อเสียงด้านคุณภาพการรักษา และบริการที่หลากหลาย จนเป็นที่ยอมรับของนานาชาติ ทำให้สามารถต่อยอดการให้บริการเพิ่มขึ้นได้อีกมาก

Krungthai COMPASS  วิเคราะห์ว่า องค์ประกอบสำคัญประการหนึ่งที่จะผลักดันให้ไทยบรรลุเป้าหมายการเป็น Medical Hub อย่างเต็มรูปแบบ คือ การยกระดับเทรนด์การแพทย์ที่มาพร้อมกับความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัยอย่าง “การแพทย์จีโนมิกส์” ที่เป็นเมกะเทรนด์ระดับโลกที่จะเข้ามาพลิกโฉมวงการการแพทย์ทั่วโลก ซึ่งจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการช่วยยกระดับและเติมเต็มอุตสาหกรรมการแพทย์ของไทยให้ทัดเทียมนานาชาติ เนื่องจากการแพทย์จีโนมิกส์ได้ก่อให้เกิดการแพทย์มูลค่าสูง (High Value Medication) ในหลายมิติ อีกทั้งจะช่วยเน้นย้ำเรื่องศักยภาพและความพร้อมด้านการบริการทางการแพทย์ และก้าวสู่การเป็น World Class Medical Service Hub แถวหน้าของเอเชีย โดยคาดการณ์ว่า ภายในปี2573 การแพทย์จีโนมิกส์จะสร้างรายได้ให้กับประเทศได้เกือบหกหมื่นล้านบาท

สำหรับ“การแพทย์จีโนมิกส์”หากจะทำให้เข้าใจได้ง่าย  หมายถึงนวัตกรรมการให้บริการทางการแพทย์ที่มีการประยุกต์ใช้ข้อมูลด้านพันธุกรรมร่วมกับข้อมูลสุขภาพอื่นๆ รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมความเป็นอยู่ และวิถีการใช้ชีวิตประจำวัน เพื่อนำมาใช้วิเคราะห์โอกาสการเกิดโรค การวินิจฉัย การรักษาที่มีประสิทธิภาพ ทำให้ผู้ป่วยสามารถได้รับการรักษาได้ตรงจุด แม่นยำ อย่างเฉพาะเจาะจงสำหรับผู้ป่วยแต่ละรายได้มากยิ่งขึ้น

การแพทย์จีโนมิกส์ จึงถือเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่สําคัญในการพลิกโฉมแนวทางการรักษาและยังเป็น  New S-Curve สําคัญ ที่จะเปลี่ยนแนวทางการรักษา จากการรักษาในอดีตที่ใช้วิธีการรักษาโรคเดียวกัน รักษาเหมือนกัน ใช้ยาตัวเดียวกัน มาเป็นการรักษาเจาะจงเฉพาะบุคคล เพื่อเพิ่มโอกาสในการรักษาที่แม่นยำขึ้น และช่วยเพิ่มอัตราการอยู่รอดและโอกาสหายจากโรคที่รักษายากได้มากขึ้น

การใช้เทคโนโลยีการถอดรหัสพันธุกรรม (Next - Generation Sequencing : NGS) มาใช้ในการตรวจวิเคราะห์ด้านการแพทย์ ที่ใช้ในการวิเคราะห์ลําดับเบสใน DNA หรือสารพันธุกรรมของมนุษย์  และด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีที่มีการพัฒนาเทคนิคการตรวจให้สามารถตรวจได้ในต้นทุนที่ถูกลง สามารถตรวจได้ครั้งละหลายตัวอย่างในระยะเวลาที่รวดเร็วกว่าในอดีตอย่างมาก  ทําให้ใช้เทคโนโลยีการถอดรหัสพันธุกรรม ถูกนํามาใช้อย่างแพร่หลายในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น การศึกษาโรคทางพันธุกรรม (Genetic Diseases) การศึกษาอนามัยเจริญพันธุ์ (Reproductive Health) การตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ (Forensic) การศึกษาทางจุลชีววิทยา  (Microbiology) รวมถึงการตรวจหาไวรัสกลายพันธุ์ ซึ่งได้ถูกนำมาใช้ในการตรวจโรคระบาดครั้งใหญ่ของไวรัส SARS-CoV-2 เป็นต้น
248554_0.jpg

ด้วยเหตุผล 4 ประการ ที่ทำให้การแพทย์จีโนมิกส์ มีความน่าสนใจและมีความสำคัญในการให้บริการทางการแพทย์มากขึ้น คือ

1. การแพทย์จีโนมิกส์เป็นทางออกของโรคที่รักษายาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคทางพันธุกรรม และโรคหายาก  ซึ่งโรคทางพันธุกรรมหรือโรคที่เกิดจากความผิดปกติในพันธุกรรม หรือเกิดขึ้นในโครโมโซม  หรือการกลายพันธุ์ของยีน ที่พบได้บ่อย ได้แก่ โรคธาลัสซีเมียหรือโรคโลหิตจาง ดาวน์ซินโดรม โรคตาบอดสี โรคเม็ดเลือดแดงรูปเคียว10 โรคลูคิเมียหรือโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว โรคฮีโมฟีเลียหรือโรคเลือดออกง่ายหยุดยาก

2. การแพทย์จีโนมิกส์จะเข้ามาปลดล็อกการรักษาพยาบาลแบบปัจจุบันสู่แนวทางการรักษาที่ใช้รักษาแบบเฉพาะเจาะจงและแม่นยำมากขึ้น เพราะการใช้วิธีการรักษาแบบวิธีเดียวกันในปัจจุบันยังไม่อาจตอบโจทย์การรักษาโรคซับซ้อนที่รู้จักกันดีได้ เช่น กลุ่มโรคที่ไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไต และโรคเบาหวาน ซึ่งโรคเหล่านี้ล้วนเป็นโรคที่รักษายาก และต้องรักษาต่อเนื่องเป็นเวลานาน อีกทั้งมีค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลสูง และยังเป็นมูลเหตุสำคัญของการเสียชีวิตของประชากรทั่วโลก  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กลุ่มโรคมะเร็ง ซึ่งการแพทย์จีโนมิกส์จะเข้ามามีส่วนสำคัญในการลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคร้ายต่างๆได้เป็นจำนวนมาก

3. เทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านการถอดรหัสพันธุกรรม และการประมวลผลที่ได้ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว  ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีที่ได้รับพัฒนาอย่างไม่หยุดนิ่งมีส่วนสำคัญที่ทำให้การเข้าถึงข้อมูลด้านพันธุกรรมไม่ใช่เป็นเรื่องที่ไกลตัวอีกต่อไป การพัฒนาการเหล่านี้จะช่วยผลักดันการพัฒนาการแพทย์จีโนมิกส์ให้เป็นการแพทย์แห่งอนาคตที่สามารถตอบโจทย์การดูแลสุขภาพและการรักษาพยาบาลที่หลากหลาย และมีประสิทธิภาพภายใต้ต้นทุนที่ต่ำลงจากในอดีตเป็นอย่างมาก  

4. ตลาดการแพทย์จีโนมิกส์ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก  ซึ่ง Krungthai COMPASS ประเมินว่า มูลค่าตลาดการแพทย์จีโนมิกส์ของโลกจะขึ้นไปแตะระดับ 1.12 แสนล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 3.82 ล้านล้านบาท ในปี 2573 เติบโตเฉลี่ยปีละ 17.9% (CAGR ปี 2564-2573) เพิ่มขึ้น 4.4 เท่า เมื่อเทียบกับปี 2564

ดังนั้นการส่งเสริมการแพทย์จีโนมิกส์ในประเทศไทย จึงไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป แต่จะเป็นอีกหนึ่งความหวังของคนไทยที่จะเข้าถึงการรักษาพยาบาลในโลกอนาคตที่จับต้องได้ในปัจจุบัน  ซึ่งจะช่วยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น  ช่วยลดโอกาสการเจ็บป่วยเรื้อรังและสามารถป้องกันการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรได้อย่างมาก

ซึ่ง บมจ.แบงคอกจีโนมิกส์อินโนเวชั่น (BKGI) บริษัทฯ ที่ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่ม BGI Shenzhen Co., Ltd. ผู้นำด้านเทคโนโลยีการถอดรหัสพันธุกรรมของโลก โดย BKGI ได้ก่อตั้งขึ้นในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2560   และในปี 2561 ได้เริ่มให้บริการตรวจคัดกรองด้านอนามัยการเจริญพันธุ์ ได้แก่ การตรวจคัดกรองความผิดปกติของโครโมโซมทารกในครรภ์จากเลือดมารดาด้วยวิธี   Non-Invasive  Prenatal  Testing (NIPT) ภายใต้แบรนด์ NIFTY  กำลังจะสร้างปรากฎการณ์ใหม่ และยิ่งใหญ่  ให้กับวงการการแพทย์และวงการตลาดทุนไทย โดยการเปิดให้บริการการแพทย์แผนใหม่ต่างๆ ให้กับวงการสาธารณสุขไทย เพื่อสร้างชีวิตความเป็นอยู่ที่มีคุณภาพ และลดอัตราการเสี่ยงภัยจากโรคร้ายแรงต่างๆ ให้กับสาธารณชนได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นอย่างไรมีบริการอะไรบ้าง  สำนักข่าว Share2Trade  จะไปติดตามและนำมารายงานให้ทราบต่อไป

Logo BKGI.png