จับประเด็นหุ้นเด่น

สัมภาษณ์พิเศษ : GTV ในมือ “พลดลพัฒน์ ธัชทัณฑิมารัชต์” บุกธุรกิจ “เกษตร-พลังงานไฟฟ้า-คริปโต”


30 มกราคม 2567
เปิดใจแม่ทัพใหม่ บมจ. กรีนเทค เวนเจอร์ หรือ GTV “พลดลพัฒน์ ธัชทัณฑิมารัชต์” รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หลังปรับโครงสร้างธุรกิจ มุ่งสู่ Green & Technology บุกธุรกิจ สินค้าเกษตร – พลังงานไฟฟ้า -คริปโทเคอเรนซี่

สัมภาษณ์พิเศษ GTV ในมือ “พลดลพัฒน์ ธัชทัณฑิม.jpg

ธุรกิจของ บมจ.กรีนเทค เวนเจอร์ หรือ GTV มีอะไรบ้าง ?

บริษัทเราทำธุรกิจเกี่ยวกับเทคโนโลยี ปัจจุบันทำเรื่อง โรงไฟฟ้า พลังงานหมุนเวียน คริปโตเคอเรนซี่ Real Estate ซึ่งเป็น 4 ธุรกิจหลัก

สาเหตุที่ขายธุรกิจโรงไฟฟ้า ?

เนื่องจากปัจจุบันธุรกิจโรงไฟฟ้าที่เราได้รับสัญญาสัมปทานของเรามีอายุ 25 ปี แต่ธุรกิจโรงไฟฟ้า มีคู่แข่งเยอะมากและส่วนใหญ่เป็นบริษัทขนาดใหญ่  ซึ่งสะท้อนว่าเมื่อสัญญา สัมปทานครบอายุทำให้มีความเสี่ยงในเรื่องของการต่อสัญญา ทำให้ เป้าหมายหลักของบริษัทในเรื่องของการสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืนอาจจะไม่เป็นไปตามที่ได้วางไว้

และถ้าเราจะไปรอขายเมื่อใกล้ครบอายุสัญญาโอกาสที่จะได้เม็ดเงินเพื่อเอาไปลงทุน ในธุรกิจที่ยั่งยืนกว่า ก็อาจจะไม่ได้ตามเป้าหมาย จึงเป็นโอกาสที่ดี เมื่อได้คุยกับ Partner ที่สนใจในธุรกิจ

แต่เรามั่นใจว่าการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเรายังอยู่ในเป้าหมายเดิมคือ Green and Tech ecosystem ยังต้องการทำธุรกิจที่เป็น ESG  ดูแลสังคม โปร่งใสตรวจสอบได้  ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ของเรา 

ซึ่งการขายโรงไฟฟ้าปัจจุบันยังอยู่ในขั้นตอนของการซื้อขายคาดว่า เม็ดเงินจะเข้า ในช่วงกลางปี 2567 สำหรับโรงไฟฟ้าที่บริษัทยังเหลืออยู่ จะอยู่ที่ประเทศเวียดนาม มีกำลังผลิตไฟฟ้า 17-18 MW

หลังปรับโครงสร้างธุรกิจ GTV จะเน้นทำธุรกิจด้านไหน ?

บริษัทยังคงเน้นเป้าหมายเดิมคือการเป็น Green and Tech คือยังคงทำเป็นธุรกิจที่เป็น ESG เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับทิศทางของโลกปัจจุบัน และเรายังอินกับธุรกิจที่ทำด้านพลังงาน เช่น EV บริษัทกำลังดูธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับชิ้นส่วนต่างๆเช่นแบตเตอรี่  รวมทั้งยังทำธุรกิจเกี่ยวกับเกษตรเทคโนโลยี และพลังงาน

ซึ่งบริษัทกำลังอยู่ระหว่างการเจรจา กับพันธมิตรด้านเกษตร ที่ปัจจุบันบริษัทมีการทำธุรกิจด้านกัญชา แต่จริงๆยังมี พืช เศรษฐกิจด้านส่งออก ที่จะทำธุรกิจได้มากกว่านี้  เช่นสมุนไพรไทยต่างๆที่สามารถสร้างมูลค่าได้พอสมควร หากการเจรจาไม่มีปัญหาคิดว่ากัญชาจะเป็นอันดับแรก ที่เป็นกัญชาเพื่อการรักษาสามารถทำตลาด ได้ในอนาคต ส่วนขณะที่พืชเศรษฐกิจอื่นๆก็จะถูกนำมาใช้ในเทคโนโลยีเดียวกัน กับกัญชา ทำให้เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มและสร้างความยั่งยืนให้กับเกษตรกรไทย เช่น ฟ้าทะลายโจร  โดยการทำตลาดของบริษัทจะเน้นการส่งออกไปในประเทศต่างๆในอาเซียน

คิดว่าอยู่ในแพลน 1-3 ปีที่จะสร้างรายได้ให้กับบริษัทได้อย่างเต็มที่ ซึ่งคาดว่าในช่วงปลายปีก็จะเริ่มรับรู้รายได้ได้บ้างและในปีหน้า ปัจจุบันเรามีรายได้ประมาณ 4-500 ล้านบาทต่อปี  ซึ่งการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างธุรกิจ ก็จะทำให้รายได้อาจจะยังไม่เท่าเดิม  โดยในปีแรกน่าจะอยู่ที่ 200-400 ล้านบาท แต่รายได้สัดส่วนที่เยอะที่สุดของบริษัทยังเป็นคริปโตเคอเรนซี่ ที่เป็น bitcoin ซึ่งบริษัทกำลังรอราคาที่เหมาะสมในการขายทำกำไร  ซึ่งรายได้ 80% ของบริษัทมาจาก bitcoin และปัจจุบันได้มีการยอมรับ เรื่องของ bitcoin มากขึ้น

ความน่าสนใจของธุรกิจคริปโทเคอเรนซี่ ?

แม้ตลาดจะมีความผันผวนมาก แต่สกุลเงิน Bitcoin ยังเป็นสกุลหลักที่จะได้รับความสนใจจากนักลงทุน แม้ปัจจุบันราคาจะปรับลดลง แต่เชื่อว่าในเดือนเม.ย. บริษัทเชื่อว่าราคาจะปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจากในทุกๆ 4 ปี จะมีการหยุดขบวนการขุดเหรียญ หรือมีการขุดน้อยลง ซึ่งการลงทุน Bitcoin  แนะนำให้ถือระยะยาว  

โครงสร้างรายได้ของบริษัทหลังจากที่มีการเปลี่ยนแปลง ?

สัดส่วนรายได้จากธุรกิจใหม่ในช่วง 1-3 ปีจะอยู่ที่ 30% ส่วนธุรกิจเดิม ซึ่งได้แก่ bitcoin ธุรกิจด้านการเกษตรพลังงานจะมีสัดส่วนอยู่ที่ 70% สำหรับมาร์จินบริษัทยังคาดหวังกับธุรกิจใหม่ โดยน่าจะมีการเติบโตอยู่ที่ 10-15% ของธุรกิจในอนาคต

ธุรกิจสีเขียว นอกจากกัญชายังมีอย่างอื่นอีกหรือไม่ ?

เรามองธุรกิจของ EV ที่ตอนนี้เป็นตลาดที่เป็น product Champion เพราะรถไฟฟ้าเข้ามาในทุกประเทศ  ซึ่งธุรกิจที่สนใจคือเรื่องของแบตเตอรี่ เรากำลังเจรจากับ Partner ที่มีความเชี่ยวชาญ  ซึ่งลักษณะการลงทุน จะเป็นในลักษณะของการลงทุนและรับผลตอบแทนจากการลงทุน  โดยยังอยู่ในช่วงของการเจรจากับบริษัทชั้นนำของจีน ซึ่งสัดส่วนการลงทุนส่วนใหญ่จะอยู่ที่  40-50%  เพื่อได้เข้าไปเป็นกรรมการของบริษัท  และมีอำนาจในการตัดสินใจ 

ปี 67 เราจะมีการลงทุนอย่างไรบ้าง ?

ปีนี้คาดว่าจะลงทุนในเรื่องของธุรกิจด้านพลังงานโดยสิ่งที่บริษัทสนใจคือเรื่องของ EV ซึ่งอยู่ในขั้นตอนเจรจา ส่วนธุรกิจอื่นก็ยังอยู่ใน Concept ของเรื่อง Green and Tech  แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายการสร้าง สัดส่วนที่ 30% ของกลุ่มธุรกิจใหม่

การตั้งเป้ารายได้ปีนี้อยู่ที่เท่าไหร่ ?

รายได้ที่เข้ามาในปีนี้น่าจะโตขึ้น 10% โดยรายได้หลักยังคงมาจากธุรกิจ cryptocurrency

วิสัยทัศน์ระยะยาวของบริษัท ?

บริษัท GTV มีความเชี่ยวชาญ ในเรื่องของพลังงาน  ธุรกิจด้านสิ่งแวดล้อมและธุรกิจด้านเทคโนโลยี  ซึ่งถือว่าเป็นจุดแข็งของบริษัททำให้ บริษัทยังคงเน้น การเป็น green tech  ecosystem  และเรามีวิสัยทัศน์ที่จะเป็นบริษัทที่เป็น Green และ Technology ชั้นนำของประเทศ  เป็นบริษัทที่มีคนรู้จักว่าถ้าพูดถึง GTV เป็นธุรกิจด้านพลังงาน และด้านสิ่งแวดล้อม

เป้าหมายหลักของบริษัทในอีก 5 ปีข้างหน้า ?

เราต้องเห็นความยั่งยืนของกำไร เพราะเชื่อว่าผู้ลงทุนหลายคนที่ลงทุนเพราะสนใจ Green Tech ยังคงมีความหวังว่า บริษัทจะสร้างความยั่นยืนได้ แม้ธุรกิจนี้จะไม่เห็นผลในระยะสั้น แต่ระยะยาวผู้ลงทุนยังคงหวังว่า ราคาหุ้นจะสูงขึ้น การจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ   

สัดส่วนรายได้ ?

ปัจจุบัน 80% เป็นคริปโตเคอเรนซี่ 20% เป็นโรงไฟฟ้า ส่วนอนาคตสัดส่วนรายได้ 70% เป็นของคริปโตเคอเรนซี่ ส่วนอีก 30% มาจากธุรกิจ พลังงานไฟฟ้า และ EV ส่วนธุรกิจเกษตรจะทยอยเข้าในช่วงปลายปี 67
GTV