Wealth Sharing

FTREIT ประชุมสามัญปี 67 ผ่านฉลุยทุกวาระ


31 มกราคม 2567
บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ อินดัสเทรียล รีท แมนเนจเม้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ “FIRM” ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรม เฟรเซอรส  พร็อพเพอร์ตี้ หรือ “FTREIT” จัดประชุมสามัญผู้ถือหน่วยทรัสต์ ประจำปี 2567 โดยรายงานผลประกอบการของปีงบการเงิน 2566  (1 ตุลาคม 2565 - 30 กันยายน 2566) มีรายได้รวม 3,779.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.7% และกำไรจากการลงทุนสุทธิ 2,493.5 ล้านบาท โดยได้จ่ายเงินปันผลจากการดำเนินงานปีงบการเงิน 2566 จำนวน 4 ครั้ง รวม 0.7480 บาทต่อหน่วย เพิ่มขึ้น 5.8% เมื่อเทียบกับปีก่อน

FTREIT ประชุมสามัญปี 67.jpg

นายธนะรัชต์ บุญญะโกศล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ อินดัสเทรียล รีท แมนเนจเม้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด เผยว่า ในปีงบการเงิน 2566  FTREIT มีอัตราการเช่าเฉลี่ยอยู่ที่ 86.2% และมีอัตราการต่อสัญญาเช่าสูงถึง 81.8% เป็นผลจากทรัพย์สินของกองทรัสต์ที่มีคุณภาพ ด้วยที่ตั้งยุทธศาสตร์ในพื้นที่เศรษฐกิจด้านอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ ได้แก่ กรุงเทพฯ พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี สมุทรปราการ ปราจีนบุรี และจังหวัดในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) บวกกับการได้รับอานิสงส์อย่างต่อเนื่องจากการขยายและย้ายฐานการผลิตของนักลงทุนต่างชาติจากนโยบาย China Plus One ส่งผลให้อุปสงค์พื้นที่เช่าขยายตัว โดยเฉพาะอาคารโรงงานจากกลุ่มผู้เช่าในอุตสาหกรรมยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์

ปัจจุบันทรัพย์สินภายใต้การบริหารจัดการของกองทรัสต์ FTREIT ประกอบด้วยอาคารโรงงานและคลังสินค้ารวม 701 ยูนิต พื้นที่ให้เช่ารวม 2.26 ล้านตร.ม. โดย FTREIT เป็นกองทรัสต์อุตสาหกรรมที่มีขนาดพื้นที่ให้เช่าสุทธิในรูปแบบการถือครองกรรมสิทธิ (Freehold) สูงที่สุดในประเทศไทย ทรัพย์สินภายใต้การบริหารจัดการมีมูลค่ารวม 49,825 ล้านบาท

การประชุมผู้ถือหน่วยทรัสต์ในครั้งนี้ยังมีมติอนุมัติการเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) โดยออกหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมจํานวนไม่เกิน 919,016,114 หน่วย ซึ่งการเพิ่มทุนเป็นทางเลือกหนึ่งของแหล่งเงินทุนที่ FIRM พิจารณาใช้ร่วมกับการกู้ยืมเงิน เพื่อรักษาระดับหนี้สินของ FTREIT ให้เหมาะสม โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของผู้ถือหน่วยทรัสต์เป็นสำคัญ

สำหรับปีงบการเงิน 2567  (1 ตุลาคม 2566 - 30 กันยายน 2567)  FIRM จะยังคงติดตามทิศทางเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อ และอัตราดอกเบี้ยอย่างใกล้ชิด โดยวางแผนโครงสร้างเงินทุนให้สอดรับกับสภาวะตลาดเงินและตลาดทุน เพื่อบริหารต้นทุนทางการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมรองรับโอกาสการลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติมทั้งจากกลุ่มบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทยและภายนอกกลุ่ม รวมถึงอัพเกรดทรัพย์สินให้อยู่ในสภาพดีและมีมาตรฐานด้านความยั่งยืน ซึ่งสอดรับกับดีมานด์ของผู้เช่าระดับชั้นนำต่อไป