Talk of The Town
SCB WEALTH คาดปีนี้มีหุ้นกู้ออกใหม่ 1 ล้านลบ. แนะลงทุนกลุ่มInvestment grade
31 มกราคม 2567
SCB WEALTH มองตลาดตราสารหนี้ปี 2567 ยังสร้างผลตอบแทนดีต่อเนื่อง แนะลงทุนกลุ่มInvestment grade คาดหุ้นกู้ไทยออกใหม่อีก1ล้านล้านบาทในปีนี้และเลือกลงทุนผ่านกองทุน SCBDBOND
![TOT แนวนอน SCB WEALTH คาดปีนี้มีหุ้นกู้ออกใหม่ 1 ล้า_.jpg](https://www.share2trade.com/storage/PressIOS/2024/January/TOT%20%E0%B9%81%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%99%20SCB%20WEALTH%20%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%9B%E0%B8%B5%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%AB%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88%201%20%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2_.jpg)
นายศรชัย สุเนต์ตา, CFA รองผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน Investment Office and Product กลุ่มธุรกิจ Wealth ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) เปิดเผยแนวโน้มการลงทุนในตลาดตราสารหนี้ในปี 2567 คาดว่าจะยังสร้างผลตอบแทนที่ดีได้อย่างต่อเนื่อง จากการที่ดอกเบี้ยอยู่ในระดับสูงสุด และมีแนวโน้มปรับตัวเป็นขาลงในอนาคต จึงเป็นจังหวะที่เหมาะสมในการเข้าลงทุนในตราสารหนี้สหรัฐฯ
ซึ่งตราสารหนี้ทั่วโลกส่วนใหญ่ มีอายุเฉลี่ยยาว และจ่ายดอกเบี้ยรับ (coupon) คงที่ โดยเมื่ออัตราดอกเบี้ยพันธบัตรลดลง ราคาของพันธบัตรมักจะปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้นักลงทุนนอกจากจะได้รับผลตอบแทนจาก Coupon แล้ว ยังจะได้รับผลตอบแทนจาก capital gain เพิ่มอีกด้วย
สำหรับภาพรวมตลาดตราสารหนี้ในปีที่ผ่านมา สร้างผลตอบแทนได้ค่อนข้างดี โดยกลุ่มตราสารหนี้ภาคเอกชนที่อยู่ในระดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่าที่ลงทุนได้ และ มีความเสี่ยงสูง ประเภท หุ้นกู้ High Yield สหรัฐฯ ให้ผลตอบแทนสูงสุดประมาณ 13.5% เป็นผลจากตลาดเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อเศรษฐกิจดีขึ้นในช่วงปลายปี โดยมองว่าเศรษฐกิจจะมีทิศทางชะลอตัวอย่างช้าๆ (Soft Landing) จากช่วงต้นปีที่มองว่าเศรษฐกิจอาจเกิดภาวะถดถอย (Recession) นักลงทุนจึงพร้อมเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น (Risk on) เป็นผลบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยง ทำให้สร้างผลงานได้ดีช่วงปลายปี รวมถึงตราสารหนี้ High Yield ด้วย
อย่างไรก็ตาม ในปี 2567-2568 นี้ จะเริ่มมีอุปทาน High Yield ออกสู่ตลาดมากขึ้น เนื่องจากมีบริษัทจำนวนมาก ที่ต้องการออกหุ้นกู้ High Yield เพื่อนำไปชำระหนี้เดิม (rollover) แม้จะมีความท้าทายที่จะต้องออกหุ้นกู้ ด้วยต้นทุนที่สูงขึ้น ในขณะที่งบดุลของบริษัทที่ออกตราสารประเภทนี้อาจไม่ได้ดีเท่ากับช่วงก่อนหน้านี้ ทำให้มองว่า ตราสารหนี้ High Yield อาจไม่น่าสนใจลงทุน และต้องระมัดระวังความเสี่ยงจากการ rollover มากขึ้น โดยเฉพาะความเสี่ยงที่มาจากความสามารถในการชำระหนี้ กรณีที่ต้อง rollover ในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับสูง
ทั้งนี้ จึงแนะนำให้นักลงทุนควรมีตราสารหนี้ไว้เป็นส่วนหนึ่งในพอร์ตลงทุน ในสัดส่วนที่เหมาะสมกับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ เพราะเป็นสินทรัพย์ที่สร้างกระแสเงินสดได้ดีกว่าในอดีตที่ผ่านมา หากนักลงทุนรับความเสี่ยงได้ในระดับค่อนข้างต่ำ ควรมีตราสารหนี้ประมาณ 70-80% ของพอร์ต ส่วนที่เหลือเป็นสินทรัพย์เสี่ยง แต่หากรับความเสี่ยงได้ค่อนข้างสูง อาจมีตราสารหนี้ 50-60% และส่วนที่เหลือเป็นสินทรัพย์เสี่ยง
นายศรชัย กล่าวต่อไปว่า การลงทุนในหุ้นกู้เอกชนไทย โดยส่วนใหญ่จะอยู่ในระดับที่ลงทุนได้ (Investment Grade) ขณะที่ตราสารหนี้ High Yield หรือตราสารหนี้ที่ไม่ได้จัดอันดับเครดิต มีต่ำกว่า 10% ของหุ้นกู้ทั้งหมด ดังนั้นตลาดโดยรวมจึงยังไม่น่าเป็นห่วง และคาดว่าในปีนี้จะมีการออกหุ้นกู้ใหม่เพื่อทดแทนหุ้นกู้เดิม ที่ครบอายุประมาณ 1 ล้านล้านบาท ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ซึ่งกลุ่ม Investment Grade มีความต้องการซื้อเข้ามาตลอดเวลา จึงไม่มีปัญหาในการ rollover เมื่อมีการออกหุ้นกู้ใหม่ ส่วนหุ้นกู้ประเภท High Yield ออกใหม่ คาดว่าจะมีประมาณ 1.3 แสนล้านบาท มากกว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งเรามองว่า ต้องใช้ความระมัดระวังในการลงทุนมากขึ้น ควรเน้นคัดเลือกอุตสาหกรรมที่ไม่น่ากังวล มีหนี้สินต่อทุนยังต่ำ และ แนวโน้มธุรกิจมีการเติบโตได้ดี
สำหรับข้อแนะนำการลงทุนในหุ้นกู้ High Yield ควรกระจายความเสี่ยง ลงทุนในแต่ละตัวไม่มาก และให้ความสำคัญในการดูเงื่อนไขของหุ้นกู้ประกอบให้มาก เช่น เป็นหุ้นกู้ประเภทไหน มีหลักประกันหรือไม่ หลักประกันนี้ยึดได้ทันทีที่ผิดนัดชำระเลยหรือไม่ เป็นต้น นอกจากนี้ ควรลงทุนหุ้นกู้ที่มีระดับความเสี่ยงลดลงเรื่อยๆ ตามอายุที่มากขึ้น ส่วนในกรณีที่มองว่าไม่สามารถคัดเลือกหุ้นกู้เองได้แบบละเอียดถี่ถ้วน แนะนำให้ลงทุนผ่านกองทุนรวม
![TOT แนวนอน SCB WEALTH คาดปีนี้มีหุ้นกู้ออกใหม่ 1 ล้า_.jpg](https://www.share2trade.com/storage/PressIOS/2024/January/TOT%20%E0%B9%81%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%99%20SCB%20WEALTH%20%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%9B%E0%B8%B5%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%AB%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88%201%20%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2_.jpg)
นายศรชัย สุเนต์ตา, CFA รองผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน Investment Office and Product กลุ่มธุรกิจ Wealth ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) เปิดเผยแนวโน้มการลงทุนในตลาดตราสารหนี้ในปี 2567 คาดว่าจะยังสร้างผลตอบแทนที่ดีได้อย่างต่อเนื่อง จากการที่ดอกเบี้ยอยู่ในระดับสูงสุด และมีแนวโน้มปรับตัวเป็นขาลงในอนาคต จึงเป็นจังหวะที่เหมาะสมในการเข้าลงทุนในตราสารหนี้สหรัฐฯ
ซึ่งตราสารหนี้ทั่วโลกส่วนใหญ่ มีอายุเฉลี่ยยาว และจ่ายดอกเบี้ยรับ (coupon) คงที่ โดยเมื่ออัตราดอกเบี้ยพันธบัตรลดลง ราคาของพันธบัตรมักจะปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้นักลงทุนนอกจากจะได้รับผลตอบแทนจาก Coupon แล้ว ยังจะได้รับผลตอบแทนจาก capital gain เพิ่มอีกด้วย
สำหรับภาพรวมตลาดตราสารหนี้ในปีที่ผ่านมา สร้างผลตอบแทนได้ค่อนข้างดี โดยกลุ่มตราสารหนี้ภาคเอกชนที่อยู่ในระดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่าที่ลงทุนได้ และ มีความเสี่ยงสูง ประเภท หุ้นกู้ High Yield สหรัฐฯ ให้ผลตอบแทนสูงสุดประมาณ 13.5% เป็นผลจากตลาดเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อเศรษฐกิจดีขึ้นในช่วงปลายปี โดยมองว่าเศรษฐกิจจะมีทิศทางชะลอตัวอย่างช้าๆ (Soft Landing) จากช่วงต้นปีที่มองว่าเศรษฐกิจอาจเกิดภาวะถดถอย (Recession) นักลงทุนจึงพร้อมเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น (Risk on) เป็นผลบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยง ทำให้สร้างผลงานได้ดีช่วงปลายปี รวมถึงตราสารหนี้ High Yield ด้วย
อย่างไรก็ตาม ในปี 2567-2568 นี้ จะเริ่มมีอุปทาน High Yield ออกสู่ตลาดมากขึ้น เนื่องจากมีบริษัทจำนวนมาก ที่ต้องการออกหุ้นกู้ High Yield เพื่อนำไปชำระหนี้เดิม (rollover) แม้จะมีความท้าทายที่จะต้องออกหุ้นกู้ ด้วยต้นทุนที่สูงขึ้น ในขณะที่งบดุลของบริษัทที่ออกตราสารประเภทนี้อาจไม่ได้ดีเท่ากับช่วงก่อนหน้านี้ ทำให้มองว่า ตราสารหนี้ High Yield อาจไม่น่าสนใจลงทุน และต้องระมัดระวังความเสี่ยงจากการ rollover มากขึ้น โดยเฉพาะความเสี่ยงที่มาจากความสามารถในการชำระหนี้ กรณีที่ต้อง rollover ในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับสูง
ทั้งนี้ จึงแนะนำให้นักลงทุนควรมีตราสารหนี้ไว้เป็นส่วนหนึ่งในพอร์ตลงทุน ในสัดส่วนที่เหมาะสมกับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ เพราะเป็นสินทรัพย์ที่สร้างกระแสเงินสดได้ดีกว่าในอดีตที่ผ่านมา หากนักลงทุนรับความเสี่ยงได้ในระดับค่อนข้างต่ำ ควรมีตราสารหนี้ประมาณ 70-80% ของพอร์ต ส่วนที่เหลือเป็นสินทรัพย์เสี่ยง แต่หากรับความเสี่ยงได้ค่อนข้างสูง อาจมีตราสารหนี้ 50-60% และส่วนที่เหลือเป็นสินทรัพย์เสี่ยง
นายศรชัย กล่าวต่อไปว่า การลงทุนในหุ้นกู้เอกชนไทย โดยส่วนใหญ่จะอยู่ในระดับที่ลงทุนได้ (Investment Grade) ขณะที่ตราสารหนี้ High Yield หรือตราสารหนี้ที่ไม่ได้จัดอันดับเครดิต มีต่ำกว่า 10% ของหุ้นกู้ทั้งหมด ดังนั้นตลาดโดยรวมจึงยังไม่น่าเป็นห่วง และคาดว่าในปีนี้จะมีการออกหุ้นกู้ใหม่เพื่อทดแทนหุ้นกู้เดิม ที่ครบอายุประมาณ 1 ล้านล้านบาท ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ซึ่งกลุ่ม Investment Grade มีความต้องการซื้อเข้ามาตลอดเวลา จึงไม่มีปัญหาในการ rollover เมื่อมีการออกหุ้นกู้ใหม่ ส่วนหุ้นกู้ประเภท High Yield ออกใหม่ คาดว่าจะมีประมาณ 1.3 แสนล้านบาท มากกว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งเรามองว่า ต้องใช้ความระมัดระวังในการลงทุนมากขึ้น ควรเน้นคัดเลือกอุตสาหกรรมที่ไม่น่ากังวล มีหนี้สินต่อทุนยังต่ำ และ แนวโน้มธุรกิจมีการเติบโตได้ดี
สำหรับข้อแนะนำการลงทุนในหุ้นกู้ High Yield ควรกระจายความเสี่ยง ลงทุนในแต่ละตัวไม่มาก และให้ความสำคัญในการดูเงื่อนไขของหุ้นกู้ประกอบให้มาก เช่น เป็นหุ้นกู้ประเภทไหน มีหลักประกันหรือไม่ หลักประกันนี้ยึดได้ทันทีที่ผิดนัดชำระเลยหรือไม่ เป็นต้น นอกจากนี้ ควรลงทุนหุ้นกู้ที่มีระดับความเสี่ยงลดลงเรื่อยๆ ตามอายุที่มากขึ้น ส่วนในกรณีที่มองว่าไม่สามารถคัดเลือกหุ้นกู้เองได้แบบละเอียดถี่ถ้วน แนะนำให้ลงทุนผ่านกองทุนรวม
ยอดนิยม
![YGG อาการหนัก! ดิ่งฟลอร์ 2 วันติด ล่าสุด CFO แจ้งขอลาออก พบโดนเอาหุ้นมาตึ๊งมากสุดในตลาด](https://www.share2trade.com/storage/News%20Today/2024/030724/YGG%20%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81!%20copy_0.jpg)
YGG อาการหนัก! ดิ่งฟลอร์ 2 วันติด ล่าสุด CFO แจ้งขอลาออก พบโดนเอาหุ้นมาตึ๊งมากสุดในตลาด
![AOT รับแรงกระแทกอีกยาว! เลิก Duty Free ขาเข้า ฉุดรายได้ 1.4 พันลบ. โบรกฯ ชี้ราคาปัจจุบันยังไม่ใช่จุด “ซื้อ”](https://www.share2trade.com/storage/News%20Today/2024/030724/S2T%20(%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B9%87%E0%B8%9A)%20AOT%20%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%81%E0%B8%97%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%B5%E0%B8%81%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A7!_0.jpg)
AOT รับแรงกระแทกอีกยาว! เลิก Duty Free ขาเข้า ฉุดรายได้ 1.4 พันลบ. โบรกฯ ชี้ราคาปัจจุบันยังไม่ใช่จุด “ซื้อ”
![ย้อนไทม์ไลน์หุ้น YGG จากอดีตราคาสุดปัง ปัจจุบันดิ่งเหว รู้หรือไม่? ตลาดหลักทรัพย์ฯ เคยถือหุ้น](https://www.share2trade.com/storage/Web%20Board/2024/July/%E0%B8%A2%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A1%E0%B9%8C%E0%B9%84%E0%B8%A5%E0%B8%99%E0%B9%8C%E0%B8%AB%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%99%20YGG%20copy_0.jpg)
ย้อนไทม์ไลน์หุ้น YGG จากอดีตราคาสุดปัง ปัจจุบันดิ่งเหว รู้หรือไม่? ตลาดหลักทรัพย์ฯ เคยถือหุ้น
![ไทยเนื้อหอม ยักษ์ไอทีระดับโลก ปักหมุดลงทุน Data Center มูลค่ากว่าแสนลบ.](https://www.share2trade.com/storage/News%20Today/2024/030724/S2T%20(%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B9%87%E0%B8%9A)%20%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%AB%E0%B8%AD%E0%B8%A1%20%E0%B8%A2%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B9%8C%E0%B9%84%E0%B8%AD%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81.jpg)
ไทยเนื้อหอม ยักษ์ไอทีระดับโลก ปักหมุดลงทุน Data Center มูลค่ากว่าแสนลบ.
![ครึ่งแรกปี 67 พบ 14 บจ. ขายหุ้นพีพี สถาบัน-รายใหญ่ อ่วมแบกขาดทุนเพียบ WPH แชมป์ผลตอบแทนมากสุด 146%](https://www.share2trade.com/storage/News%20Today/2024/030724/S2T%20(%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B9%87%E0%B8%9A)%20%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B6%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%9B%E0%B8%B5%2067%20%E0%B8%9E%E0%B8%9A%2014%20%E0%B8%9A%E0%B8%88.%20%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%AB%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%B5%E0%B8%9E%E0%B8%B5_0.jpg)