รายงานพิเศษ : EA รับอานิสงส์รัฐเร่งแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 หนุนบริษัทลูก TSB เร่งส่งมอบรถเมล์ไฟฟ้า

สภาพอากาศแปรปรวนจากภาวะโลกร้อนเป็นปัจจัยเสี่ยงและต้นทุนที่สำคัญของภาคธุรกิจ  ซึ่งทั่วโลกสนับสนุนการลดภาวะโลกร้อน โดยการใช้พลังงานสะอาดในทุกภาคส่วน โดยเฉพาะภาคการขนส่ง  หนุนผลงาน ไทย สมายล์ กรุ๊ป (TSB) บริษัทลูกบมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA)



ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) ระบุปี 66 เป็นปีที่ไทยต้องเผชิญกับสภาวะอากาศที่แปรปรวนค่อนข้างรุนแรงเกือบตลอดทั้งปี  โดยในช่วง ม.ค.-ส.ค. หลายภูมิภาคของไทยต้องเผชิญกับปริมาณฝนที่ต่ำกว่าปกติมาก จากอิทธิพลของเอลนีโญ  ซึ่งแตกต่างโดยสิ้นเชิงจากในช่วงสองเดือนถัดมา (ก.ย.-ต.ค.) ที่ปริมาณฝนกลับสูงกว่าปกติมาก จากอิทธิพลของร่องมรสุม  ซึ่งช่วยหักล้างผลกระทบจากเอลนีโญ โดยการเกิดฝนในรูปแบบดังกล่าว ส่งผลให้ไทยต้องประสบปัญหาภัยแล้งรุนแรงในช่วงแรกของปี 66 ก่อนจะต้องเผชิญกับปัญหาน้ำท่วมในช่วงปลายปี

โดยประเมินว่า ปัญหาภัยแล้ง-น้ำท่วม ที่เกิดขึ้นในปี 66 จะสร้างความเสียหายต่อภาคเกษตรไม่ต่ำกว่า 51,700 ล้านบาท  ซึ่งความเสียหายจะเกิดขึ้นในปี 66 ราว 19,300 ล้านบาท และในปี 67 อีกราว 32,400 ล้านบาท

สภาพอากาศที่แปรปรวน สาเหตุสำคัญมาจากการเกิดภาวะเรือนกระจกที่ให้อุณหภูมิโลกสูงขึ้น  ซึ่งแนวทางในการลดภาวะโลกร้อนที่กำลังได้รับกระแสตอบรับที่ดี ได้แก่  การใช้พลังงานสะอาดในกิจกรรมต่างๆ   สอดคล้องกับทิศทางการทำธุรกิจของบมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA)  ที่บริษัทฯ และบริษัทย่อย ดำเนินธุรกิจหลัก 4 กลุ่ม ได้แก่ 

1.) กลุ่มธุรกิจไบโอดีเซล 
2.) กลุ่มธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน- โรงไฟฟ้าพลังงานลม – โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์
3.) กลุ่มธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า และระบบกักเก็บพลังงาน- พัฒนา ผลิตและจำหน่ายแบตเตอรี่ -ธุรกิจบริการสถานีอัดประจุไฟฟ้า (สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า)- ธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า 
4.) กลุ่มธุรกิจอื่นๆ - ศูนย์ทดสอบแบตเตอรี่ ยานยนต์ไฟฟ้า และผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ - วิจัยและพัฒนา

“อมร ทรัพย์ทวีกุล” รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารEA  ระบุ ปี 67บริษัทคาดว่า จะมีคำสั่งซื้อรถไฟฟ้า EV ประมาณ  5,000-6,000 คัน  เพื่อลดมลพิษทางอากาศที่มีความรุนแรงมากขึ้นในปัจจุบัน 

สอดคล้องกับมุมมอง นางสาวกุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไทย สมายล์ กรุ๊ป (TSB) ผู้นำการให้บริการรถเมล์และเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้า (บริษัทในกลุ่มบมจ.พลังงานบริสุทธ์:EA) ที่รับว่า ปัญหาฝุ่นควันพิษที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ คุณภาพชีวิตของผู้คน  ซึ่งบริษัทได้ตระหนักถึงเรื่องนี้เป็นอย่างมาก ทำให้ก่อนหน้านี้ได้ทำการประกาศนโยบายพัฒนาระบบขนส่งของไทยให้ก้าวสู่ยุคพลังงานไฟฟ้า 100% ด้วยการปลดประจำการรถเมล์ NGV ทั้งหมด 350 คัน จะต้องถูกยกเลิกการใช้งานทั้งหมดภายในเดือนมกราคมที่ผ่านมา

ขณะเดียวกัน TSB ได้ประกาศเป็นนโยบายให้รถทุกคันเปิดรับชำระค่าโดยสารทั้ง 2 ระบบ ผู้เดินทางสามารถใช้ "เงินสด" จ่ายผ่านบัสโฮสเตส (พนักงานเก็บค่าโดยสาร) เพื่อให้ผู้ใช้บริการมีทางเลือกที่มากขึ้น ด้วยอัตราค่าโดยสารเริ่มเพียง 15-20-25 บาท ตามระยะทาง อย่างไรก็ตามยังคงเสนอทางเลือกดี ๆ สำหรับคนใช้งานประจำในการใช้บัตร HOP Card เพื่อรับสิทธิประโยชน์ "เดลิ แมกซ์ แฟร์" Daily Max Fare เดินทางกี่ต่อ กี่สาย กี่ครั้งก็ได้ไม่จำกัดจำนวนภายในหนึ่งวัน ด้วยการชำระค่าโดยสารสูงสุดเพียง 40 บาทต่อวันเท่านั้น หรือจะนั่งรถต่อเรือ เรือต่อรถ ชำระค่าโดยสารสูงสุดเพียง 50 บาทต่อวัน ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถหาซื้อบัตรได้ง่าย ๆ ผ่านทางแอปพลิเคชัน Shopee