จับประเด็นหุ้นเด่น
รายงานพิเศษ : โบรกเกอร์เชื่อ TFG พลิกมีกำไรเร็วสุดในกลุ่ม แรงหนุนราคาหมูเพิ่ม-ต้นทุนอาหารสัตว์ลด
02 กุมภาพันธ์ 2567
โบรกเกอร์มั่นใจผลงาน บมจ.ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป (TFG) ปี67 ฟื้นกลับมามีกำไรเร็วที่สุดในกลุ่ม จากสถานการณ์หมูเถื่อนคลี่คลาย หนุนราคาหมูปรับเพิ่ม ขณะที่ต้นทุนอาหารสัตว์ปรับลดลง แม้ 4Q23 ผลงานบริษัทไม่สดใส
บล.ฟินันเซีย ไซรัส วิเคราะห์สถานการณ์ บมจ.ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป (TFG) บริษัทประกอบธุรกิจหลักเกี่ยวกับการผลิตไก่และจำหน่ายไก่สด แช่เย็นและแช่แข็งและผลิตภัณฑ์แปรรูปจากไก่ ผลิตและจำหน่ายสุกร และผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์ TFG
โดยคาดว่า 4Q23 TFG จะมีผลขาดทุนสุทธิอยู่ที่ -522 ลบ. เพิ่มขึ้นจาก -446 ลบ. ใน 3Q23 ซึ่งจะเป็นจุดตํ่าสุดของปี 2023 เนื่องจากราคาเนื้อสัตว์ที่ยังปรับลงทั้งราคาหมูไทย -4.2% q-q, - 38.5% y-y และหมูเวียดนาม -17.4% q-q, -11% y-y ซึ่งเป็นระดับที่ตํ่ากว่าต้นทุนการเลี้ยง แม้คาดธุรกิจ Retail shop จะยังเติบโตและมีกําไรได้ แต่ยังไม่เพียงพอที่จะหักล้างผลขาดทุนของธุรกิจหมูได้ทั้งหมด
ขณะที่คาดธุรกิจไก่จะอ่อนตัวลง q-q เพราะเป็น low season ของธุรกิจ จึงคาดรายได้รวม 4Q23 อาจอ่อนตัวลง q-q เล็กน้อย และคาดอัตรากําไรขั้นต้นยังอยู่ในระดับตํ่าเพียง 4-5% ยังไม่สามารถครอบคลุม SG&A to sales ได้
มีโอกาสที่1Q24 อาจพลิกมีกําไรได้เร็วสุดในกลุ่มเนื้อสัตว์
แต่ในบรรดากลุ่มหมู เราเริ่มเห็นสัญญาณของ TFG ว่ามีโอกาสมากสุดที่ 1Q24 จะพลิกมีกําไรได้เร็วกว่ากลุ่ม เนื่องจากมีธุรกิจหมูอยู่ในไทยและเวียดนาม ที่แนวโน้มราคากําลังอยู่ในช่วงของการฟื้นตัว จากสถานการณ์หมูเถื่อนที่คลี่คลาย ส่งผลให้ราคาหมูไทยเริ่มขยับขึ้นสู่ระดับ 70 บาท/กก. +12% q-q แต่ยังตํ่ากว่าปีก่อน -17% y-y
ซึ่งบริษัทยังให้มุมมองเชิงบวกไปในทิศทางเดียวกับ CPF และ BTG โดยมองราคาหมูจะปรับขึ้นได้ ต่อเนื่องในช่วงเทศกาลตรุษจีน และจาก Supply ที่ยังไม่ฟื้นกลับสู่ระดับก่อน ASF ได้เร็ว โดยคาดปริมาณหมูจะเพิ่มขึ้นใกล้เคียง 20 ล้านตัวอีกครั้งได้ใน 2H24 จากสิ้นปี 2023 ที่ 18 ล้านตัว ขณะที่ราคาหมูเวียดนามล่าสุดขยับขึ้นสู่ระดับ 5-5.2 หมื่นด่อง/กก. +6-10%
ปรับลดผลการดําเนินงานปี 2023 แต่ยังคงประมาณการกําไรปี 2024
ทั้งนี้จาก 4Q23 ที่อาจขาดทุนมากกว่าคาด เราได้ปรับลดผลการดําเนินงานปี 2023 เป็นขาดทุนสุทธิมากขึ้นที่ -473 ลบ. แต่ยังคาดมีกําไรปกติราว 101 ลบ. ลดลงจาก 5.3 พันลบ.ในปี 2022 อย่างไรก็ตาม เรายังคงประมาณการกําไรสุทธิปี 2024 ไว้ตามเดิมที่ 2 พันลบ. ทั้งนี้เรายังไม่เห็น Downside ต่อประมาณการของเรา เนื่องจาก TFG มีธุรกิจใน ต่างประเทศที่เวียดนามเพียงประเทศเดียว และมีการฟื้นตัวของราคาเนื้อสัตว์ที่ดี
เริ่มเห็น Upside ต่อการถูก Re-rate valuation ในระยะถัดไป
เรายังคงราคาเป้าหมายสิ้นปี 2024 ที่ 4 บาท ตามเดิม โดยอิง PE 12x (-0.5 SD) และยังคงแนะนําถือ หรือ ซื้อเก็งกําไร ตามการฟื้นตัวของราคาเนื้อสัตว์ อย่างไรก็ตาม เราเริ่มเห็น Upside ต่อการ Re-rate valuation หากผลการดําเนินงาน 1Q24 สามารถฟื้นตัวพลิกเป็นกําไรได้เร็วกว่ากลุ่ม กอปรกับปัจจัยเสี่ยงของธุรกิจในต่างประเทศมีน้อยกว่าบริษัทอื่นในกลุ่มเนื้อสัตว์ ขณะที่ราคาหุ้นปัจจุบันเทรดที่ 2024E PE 11x ตํ่ากว่า CPF และ BTG ที่ 25x และ 21x ตามลําดับ
ขณะที่ บล. KGI ระบุว่า ถึงแม้ว่าผลประกอบการ TFG จะยังอ่อนแอกว่าภาวะปกติ แต่เราคาดว่า GPM และผลประกอบการของ TFG น่าจะดีขึ้น QoQ ใน 1Q67F เนื่องจากราคาหมูในประเทศไทย และเวียดนามเพิ่มขึ้น รวมถึงต้นทุนอาหารสัตว์ลดลง ในขณะเดียวกัน เราคาดว่าบริษัทน่าจะพลิกจากมาบันทึกกำไรจากสินทรัพย์ชีวภาพได้บ้างจากที่บันทึกผลขาดทุนใน 4Q66F
โดยบริษัทยังคงคำแนะนำถือ TFG โดยประเมินราคาเป้าหมายปี 2567 ที่ 3.40 บาท (อิงจาก PER ที่ 10.6x เท่ากับ
PER เฉลี่ยระยะยาว) เราชอบ TFG มากที่สุดในกลุ่มผู้ผลิตหมูเพราะมีสัดส่วนการขายหมูเป็นค่อนข้างสูง ซึ่งจะทำให้GPM ดีขึ้นมากที่สุดเมื่อเทียบกับรายอื่น ๆ เมื่อราคาหมูฟื้นตัวขึ้น
ซึ่งความเสี่ยงของธุรกิจ ได้แก่ ต้นทุนอาหารสัตว์ และค่าขนส่งสูงขึ้น, เศรษฐกิจชะลอตัวลง, ราคาเนื้อสัตว์ตกต่ำ
บล.ฟินันเซีย ไซรัส วิเคราะห์สถานการณ์ บมจ.ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป (TFG) บริษัทประกอบธุรกิจหลักเกี่ยวกับการผลิตไก่และจำหน่ายไก่สด แช่เย็นและแช่แข็งและผลิตภัณฑ์แปรรูปจากไก่ ผลิตและจำหน่ายสุกร และผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์ TFG
โดยคาดว่า 4Q23 TFG จะมีผลขาดทุนสุทธิอยู่ที่ -522 ลบ. เพิ่มขึ้นจาก -446 ลบ. ใน 3Q23 ซึ่งจะเป็นจุดตํ่าสุดของปี 2023 เนื่องจากราคาเนื้อสัตว์ที่ยังปรับลงทั้งราคาหมูไทย -4.2% q-q, - 38.5% y-y และหมูเวียดนาม -17.4% q-q, -11% y-y ซึ่งเป็นระดับที่ตํ่ากว่าต้นทุนการเลี้ยง แม้คาดธุรกิจ Retail shop จะยังเติบโตและมีกําไรได้ แต่ยังไม่เพียงพอที่จะหักล้างผลขาดทุนของธุรกิจหมูได้ทั้งหมด
ขณะที่คาดธุรกิจไก่จะอ่อนตัวลง q-q เพราะเป็น low season ของธุรกิจ จึงคาดรายได้รวม 4Q23 อาจอ่อนตัวลง q-q เล็กน้อย และคาดอัตรากําไรขั้นต้นยังอยู่ในระดับตํ่าเพียง 4-5% ยังไม่สามารถครอบคลุม SG&A to sales ได้
มีโอกาสที่1Q24 อาจพลิกมีกําไรได้เร็วสุดในกลุ่มเนื้อสัตว์
แต่ในบรรดากลุ่มหมู เราเริ่มเห็นสัญญาณของ TFG ว่ามีโอกาสมากสุดที่ 1Q24 จะพลิกมีกําไรได้เร็วกว่ากลุ่ม เนื่องจากมีธุรกิจหมูอยู่ในไทยและเวียดนาม ที่แนวโน้มราคากําลังอยู่ในช่วงของการฟื้นตัว จากสถานการณ์หมูเถื่อนที่คลี่คลาย ส่งผลให้ราคาหมูไทยเริ่มขยับขึ้นสู่ระดับ 70 บาท/กก. +12% q-q แต่ยังตํ่ากว่าปีก่อน -17% y-y
ซึ่งบริษัทยังให้มุมมองเชิงบวกไปในทิศทางเดียวกับ CPF และ BTG โดยมองราคาหมูจะปรับขึ้นได้ ต่อเนื่องในช่วงเทศกาลตรุษจีน และจาก Supply ที่ยังไม่ฟื้นกลับสู่ระดับก่อน ASF ได้เร็ว โดยคาดปริมาณหมูจะเพิ่มขึ้นใกล้เคียง 20 ล้านตัวอีกครั้งได้ใน 2H24 จากสิ้นปี 2023 ที่ 18 ล้านตัว ขณะที่ราคาหมูเวียดนามล่าสุดขยับขึ้นสู่ระดับ 5-5.2 หมื่นด่อง/กก. +6-10%
ปรับลดผลการดําเนินงานปี 2023 แต่ยังคงประมาณการกําไรปี 2024
ทั้งนี้จาก 4Q23 ที่อาจขาดทุนมากกว่าคาด เราได้ปรับลดผลการดําเนินงานปี 2023 เป็นขาดทุนสุทธิมากขึ้นที่ -473 ลบ. แต่ยังคาดมีกําไรปกติราว 101 ลบ. ลดลงจาก 5.3 พันลบ.ในปี 2022 อย่างไรก็ตาม เรายังคงประมาณการกําไรสุทธิปี 2024 ไว้ตามเดิมที่ 2 พันลบ. ทั้งนี้เรายังไม่เห็น Downside ต่อประมาณการของเรา เนื่องจาก TFG มีธุรกิจใน ต่างประเทศที่เวียดนามเพียงประเทศเดียว และมีการฟื้นตัวของราคาเนื้อสัตว์ที่ดี
เริ่มเห็น Upside ต่อการถูก Re-rate valuation ในระยะถัดไป
เรายังคงราคาเป้าหมายสิ้นปี 2024 ที่ 4 บาท ตามเดิม โดยอิง PE 12x (-0.5 SD) และยังคงแนะนําถือ หรือ ซื้อเก็งกําไร ตามการฟื้นตัวของราคาเนื้อสัตว์ อย่างไรก็ตาม เราเริ่มเห็น Upside ต่อการ Re-rate valuation หากผลการดําเนินงาน 1Q24 สามารถฟื้นตัวพลิกเป็นกําไรได้เร็วกว่ากลุ่ม กอปรกับปัจจัยเสี่ยงของธุรกิจในต่างประเทศมีน้อยกว่าบริษัทอื่นในกลุ่มเนื้อสัตว์ ขณะที่ราคาหุ้นปัจจุบันเทรดที่ 2024E PE 11x ตํ่ากว่า CPF และ BTG ที่ 25x และ 21x ตามลําดับ
ขณะที่ บล. KGI ระบุว่า ถึงแม้ว่าผลประกอบการ TFG จะยังอ่อนแอกว่าภาวะปกติ แต่เราคาดว่า GPM และผลประกอบการของ TFG น่าจะดีขึ้น QoQ ใน 1Q67F เนื่องจากราคาหมูในประเทศไทย และเวียดนามเพิ่มขึ้น รวมถึงต้นทุนอาหารสัตว์ลดลง ในขณะเดียวกัน เราคาดว่าบริษัทน่าจะพลิกจากมาบันทึกกำไรจากสินทรัพย์ชีวภาพได้บ้างจากที่บันทึกผลขาดทุนใน 4Q66F
โดยบริษัทยังคงคำแนะนำถือ TFG โดยประเมินราคาเป้าหมายปี 2567 ที่ 3.40 บาท (อิงจาก PER ที่ 10.6x เท่ากับ
PER เฉลี่ยระยะยาว) เราชอบ TFG มากที่สุดในกลุ่มผู้ผลิตหมูเพราะมีสัดส่วนการขายหมูเป็นค่อนข้างสูง ซึ่งจะทำให้GPM ดีขึ้นมากที่สุดเมื่อเทียบกับรายอื่น ๆ เมื่อราคาหมูฟื้นตัวขึ้น
ซึ่งความเสี่ยงของธุรกิจ ได้แก่ ต้นทุนอาหารสัตว์ และค่าขนส่งสูงขึ้น, เศรษฐกิจชะลอตัวลง, ราคาเนื้อสัตว์ตกต่ำ