Gossip Station by..เจ๊จิ๋ม 06-02-24
06-02-24 สวัสดีพี่น้องชาวไทย "เจ๊จิ๋ม" มารายงานตัว ณ ที่เก่าเวลาเดิม www.share2trade.com เปิดอ่านได้เลยเวลา 7.30 น.มีเรื่องเด็ดๆ โดนๆ มาเม้าท์กันให้สนั่นวงการลงทุนของพวกเรากันเถอะ
***ใกล้เข้าสู่เทศกาลตรุษจีนแล้วจ๊าาาาา เจ๊เลยขอแวะเข้าเอาหุ้นที่ได้รับผลบวกมาบอกกันอีกที เพราะตรุษจีนทีไรจะมีความคึกคักการจับจ่ายเนื้อสัตว์, อาหารและผลไม้ และเป็นเทศกาลหยุดยาวของผู้ที่มีเชื้อสายจีน (จีน, ไต้หวัน, ฮ่องกง) ออกไปท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ คาดจะเป็นปัจจัยหนุนการใช้บริการทั้งทางด่วน, ปั๊มน้ำมัน, ห้างสรรพสินค้า, สายการบิน, โรงแรม รวมถึงการซื้อสินค้า เป็นต้น
***มีกูรูหุ้นประเมินว่าหุ้นที่ได้ประโยชน์จากเทศกาลตรุษจีน โดยอิงการศึกษาสถิติผลตอบแทนหุ้นไทยในช่วงตรุษจีนย้อนหลัง 5 ปี (ปี2019-2023) พบว่า ก่อนเทศกาลตรุษจีน 1 และ 2 สัปดาห์ SET Index +0.85% และ +0.89% ตามลำดับ โดย Sector ที่เกี่ยวข้องกับเทศกาลปรับขึ้นในทางเดียวกันและกลุ่มมากที่สุดคือ โรงแรม +3.3% และ +4.15% ตามด้วย กลุ่มเกษตร +1.95% และ +0.21% และ กลุ่มอาหาร +0.98%, และ +1.04%
**กูรูแนะนำเก็งหุ้นที่ได้ประโยชน์จากเทศกาลตรุษจีน เน้นกลุ่มธุรกิจค้าเนื้อสัตว์อาทิ CPF-GFPT-MINT-AOT-GFC-SAFE
***ส่วนอีกเรื่องคือหุ้นต้อนรับฤดูร้อนนนนนนน!!! แว่วว่า-ปีนี้จะร้อนมากกกกก!!!! รายงานจากกรมอุตุนิยมวิทยาเปิดเผยว่า ไทยจะเข้าสู่ฤดูร้อนในปีนี้ ตั้งแต่สัปดาห์ที่ 4 เดือน ก.พ.นี้ โดยคาดหมายว่าอุณหภูมิจะสูงกว่าค่าเฉลี่ยปกติและปีที่ผ่านมาราว 1 องศา
***มีการประเมินว่าหุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากอากาศร้อน อาทิกลุ่มเครื่องดื่มกลุ่มค้าปลีก กลุ่มห้างสรรพสินค้า กลุ่มโรงแรม อิงผลการศึกษา 8 ปีย้อนหลัง หากซื้อก่อนเข้าสู่หน้าร้อน1 เดือน หุ้นกลุ่มโรงแรม เครื่องดื่ม กลุ่มค้าปลีก มักให้ผลตอบแทนเด่นเฉลี่ย +2.5% +2.2% และ +1.6% vs SET +0.5%ทั้งนี้หากซื้อวันที่เข้าสู่ฤดูร้อน และขายหลังจากนั้น 1 เดือน หุ้นโรงแรมเครื่องดื่ม และค้าปลีกจะให้ผลตอบแทนเฉลี่ยเด่น +3.5% +3.9% และ1.9% vs SET +1.5%
***สำหรับหุ้นที่น่าลงทุนก่อนเข้าสู่หน้าร้อน คือแนะนำซื้อหุ้นในธีม Summer Play ก่อน 1 เดือน และถือจนเข้าสู่หน้าร้อน คาดจะได้รับผลตอบแทนเป็นบวกสูงที่สุด แนะนำเครื่องดื่ม เน้น ICHI ค้าปลีก เน้น CPALL CPAXT ท่องเที่ยว+โรงแรม เน้น AOT -AAV- MINT
***นอกจากนี้ในแวดวงตลาดทุนของเรายังมีเรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมาก..เริ่มจากเรื่องของ CGS-CIMB รีแบรนด์ใหม่ ประกาศเปลี่ยนชื่อเป็น บล.ซีจีเอส อินเตอร์ เนชั่นแนล (ประเทศไทย) และเปลี่ยนชื่อย่อเป็น CGSI หลังจาก China Galaxy Securities ของรัฐบาลจีน และเป็นบริษัทหลักทรัพย์รายใหญ่อันดับ 2 ของจีนเข้าถือหุ้น 100% มีผลตั้งแต่วันที่ 5 ก.พ.67
***แม่ทัพ "พัชระนนท์ ชีวเกรียงไกร" บอกว่าสาเหตุที่เปลี่ยนชื่อครั้งนี้..เป็นชื่อตามบริษัทแม่ เพราะขณะนี้ China Galaxy Securities ซึ่งรัฐบาลจีนเป็นเจ้าของได้เข้ามาถือหุ้นเต็ม 100% แล้ว และตอนนี้ CGSI เป็นโบรกเกอร์ไทยเพียงรายเดียวเท่านั้น ที่มีรัฐบาลจีนเป็นเจ้าของ (สำหรับ China Galaxy Securities เป็นโบรกเกอร์รายใหญ่เป็นอันดับ 2 ของจีน โดยมีรัฐบาลจีนถือหุ้น 100% และมีสาขามากกว่า 500 สาขาทั่วประเทศ )
***ลูกค้า CGSI ไม่ต้องกังวล แม้จะมีการเปลี่ยนโครงสร้างผู้ถือหุ้น แต่ไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อสิทธิและหน้าที่ระหว่างบริษัทกับลูกค้า โดยบริษัทยังเปิดให้บริการและดำเนินธุรกรรมทุก ประเภทตามปกติ โดยลูกค้าสามารถติดต่อกับผู้แนะนำการลงทุนและเข้าใช้บริการได้เช่นเดิม โดยพร้อมที่จะให้บริการด้านการลงทุนที่เป็นเลิศครบวงจร เตรียมเชื่อมโยงลูกค้าไทย-จีน ต่อยอดขยายธุรกิจในเอเชีย มุ่งสู่การเติบโตอย่างมั่นคง
***หันมาทาง CMAN ก้อไม่น้อยหน้าใครนะคะคุนข๋า!!! แม่ทัพใหญ่ "หม่อมหลวงจันทรจุฑา จันทรทัต" เปิดกลยุทธ์ 3 พื้นที่ยุทธศาสตร์ หวังยึดตลาดทั้งภูมิภาคตะวันออก ใต้ เหนือ และตะวันตก พร้อมวางเป้าหมายสู่การเป็นผู้นำตลาดปูนไลม์ของประเทศอินเดีย หนุนผลงานไต่อันดับสู่ผู้ผลิตปูนไลม์ครบวงจร Top 5 ของโลกภายในระยะเวลาอันใกล้ (ปัจจุบัน CMAN คือ ผู้ผลิตปูนไลม์ครบวงจรระดับท็อปเทนของโลก ภายใต้แบรนด์ ‘CHEMEMAN’)
***แม่ทัพใหญ่ของ CMAN ประกาศลุยอินเดียเต็มสูบ!! โดยระบุว่าบริษัทฯ ใช้เวลานานกว่า 10 ปี ในการพัฒนาความสัมพันธ์กับคู่ค้าในประเทศอินเดีย จนกระทั่งก้าวสู่การเป็นพันธมิตรทางธุรกิจทั้งในรูปของการร่วมลงทุนเมื่อหลายปีก่อน และความร่วมมือในการสร้างโรงงานเมื่อเร็ว ๆ นี้ ด้วยเล็งเห็นโอกาสในอินเดียมานานแล้ว เพราะอินเดียมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก มีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ความต้องการปูนควิกไลม์ และปูนไฮเดรตไลม์ มีมากกว่า 16 ล้านตันต่อปี ซึ่งเป็นปริมาณความต้องการที่สูงเป็นอันดับ 3 ของโลก
***ที่สำคัญตลาดปูนไลม์ส่วนใหญ่ของอินเดีย พึ่งพาการซื้อจากผู้ผลิตในประเทศเป็นหลักและมีการนำเข้าน้อยกว่า 1 ล้านตันต่อปี เนื่องจากต้นทุนการนำเข้าสูงกว่าการซื้อในประเทศเพราะค่าขนส่งทางเรือและภาษีนำเข้า ดังนั้น การมีโรงงานผลิตปูนไลม์ในประเทศอินเดีย จึงเป็นการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันที่ตอบโจทย์ในระยะยาว ..จุ๊-จุ๊!!! มาถึงตรงนี้เจ๊ขอบอกไว้เลยหุ้น CMAN ต้องเข้าแล้วล่ะ!!! ไม่เก็บตอนนี้จะเก็บตอนไหนคร๊าาาาาาา
06-02-24 สวัสดีพี่น้องชาวไทย "เจ๊จิ๋ม" มารายงานตัว ณ ที่เก่าเวลาเดิม www.share2trade.com เปิดอ่านได้เลยเวลา 7.30 น.มีเรื่องเด็ดๆ โดนๆ มาเม้าท์กันให้สนั่นวงการลงทุนของพวกเรากันเถอะ
***ใกล้เข้าสู่เทศกาลตรุษจีนแล้วจ๊าาาาา เจ๊เลยขอแวะเข้าเอาหุ้นที่ได้รับผลบวกมาบอกกันอีกที เพราะตรุษจีนทีไรจะมีความคึกคักการจับจ่ายเนื้อสัตว์, อาหารและผลไม้ และเป็นเทศกาลหยุดยาวของผู้ที่มีเชื้อสายจีน (จีน, ไต้หวัน, ฮ่องกง) ออกไปท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ คาดจะเป็นปัจจัยหนุนการใช้บริการทั้งทางด่วน, ปั๊มน้ำมัน, ห้างสรรพสินค้า, สายการบิน, โรงแรม รวมถึงการซื้อสินค้า เป็นต้น
***มีกูรูหุ้นประเมินว่าหุ้นที่ได้ประโยชน์จากเทศกาลตรุษจีน โดยอิงการศึกษาสถิติผลตอบแทนหุ้นไทยในช่วงตรุษจีนย้อนหลัง 5 ปี (ปี2019-2023) พบว่า ก่อนเทศกาลตรุษจีน 1 และ 2 สัปดาห์ SET Index +0.85% และ +0.89% ตามลำดับ โดย Sector ที่เกี่ยวข้องกับเทศกาลปรับขึ้นในทางเดียวกันและกลุ่มมากที่สุดคือ โรงแรม +3.3% และ +4.15% ตามด้วย กลุ่มเกษตร +1.95% และ +0.21% และ กลุ่มอาหาร +0.98%, และ +1.04%
**กูรูแนะนำเก็งหุ้นที่ได้ประโยชน์จากเทศกาลตรุษจีน เน้นกลุ่มธุรกิจค้าเนื้อสัตว์อาทิ CPF-GFPT-MINT-AOT-GFC-SAFE
***ส่วนอีกเรื่องคือหุ้นต้อนรับฤดูร้อนนนนนนน!!! แว่วว่า-ปีนี้จะร้อนมากกกกก!!!! รายงานจากกรมอุตุนิยมวิทยาเปิดเผยว่า ไทยจะเข้าสู่ฤดูร้อนในปีนี้ ตั้งแต่สัปดาห์ที่ 4 เดือน ก.พ.นี้ โดยคาดหมายว่าอุณหภูมิจะสูงกว่าค่าเฉลี่ยปกติและปีที่ผ่านมาราว 1 องศา
***มีการประเมินว่าหุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากอากาศร้อน อาทิกลุ่มเครื่องดื่มกลุ่มค้าปลีก กลุ่มห้างสรรพสินค้า กลุ่มโรงแรม อิงผลการศึกษา 8 ปีย้อนหลัง หากซื้อก่อนเข้าสู่หน้าร้อน1 เดือน หุ้นกลุ่มโรงแรม เครื่องดื่ม กลุ่มค้าปลีก มักให้ผลตอบแทนเด่นเฉลี่ย +2.5% +2.2% และ +1.6% vs SET +0.5%ทั้งนี้หากซื้อวันที่เข้าสู่ฤดูร้อน และขายหลังจากนั้น 1 เดือน หุ้นโรงแรมเครื่องดื่ม และค้าปลีกจะให้ผลตอบแทนเฉลี่ยเด่น +3.5% +3.9% และ1.9% vs SET +1.5%
***สำหรับหุ้นที่น่าลงทุนก่อนเข้าสู่หน้าร้อน คือแนะนำซื้อหุ้นในธีม Summer Play ก่อน 1 เดือน และถือจนเข้าสู่หน้าร้อน คาดจะได้รับผลตอบแทนเป็นบวกสูงที่สุด แนะนำเครื่องดื่ม เน้น ICHI ค้าปลีก เน้น CPALL CPAXT ท่องเที่ยว+โรงแรม เน้น AOT -AAV- MINT
***นอกจากนี้ในแวดวงตลาดทุนของเรายังมีเรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมาก..เริ่มจากเรื่องของ CGS-CIMB รีแบรนด์ใหม่ ประกาศเปลี่ยนชื่อเป็น บล.ซีจีเอส อินเตอร์ เนชั่นแนล (ประเทศไทย) และเปลี่ยนชื่อย่อเป็น CGSI หลังจาก China Galaxy Securities ของรัฐบาลจีน และเป็นบริษัทหลักทรัพย์รายใหญ่อันดับ 2 ของจีนเข้าถือหุ้น 100% มีผลตั้งแต่วันที่ 5 ก.พ.67
***แม่ทัพ "พัชระนนท์ ชีวเกรียงไกร" บอกว่าสาเหตุที่เปลี่ยนชื่อครั้งนี้..เป็นชื่อตามบริษัทแม่ เพราะขณะนี้ China Galaxy Securities ซึ่งรัฐบาลจีนเป็นเจ้าของได้เข้ามาถือหุ้นเต็ม 100% แล้ว และตอนนี้ CGSI เป็นโบรกเกอร์ไทยเพียงรายเดียวเท่านั้น ที่มีรัฐบาลจีนเป็นเจ้าของ (สำหรับ China Galaxy Securities เป็นโบรกเกอร์รายใหญ่เป็นอันดับ 2 ของจีน โดยมีรัฐบาลจีนถือหุ้น 100% และมีสาขามากกว่า 500 สาขาทั่วประเทศ )
***ลูกค้า CGSI ไม่ต้องกังวล แม้จะมีการเปลี่ยนโครงสร้างผู้ถือหุ้น แต่ไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อสิทธิและหน้าที่ระหว่างบริษัทกับลูกค้า โดยบริษัทยังเปิดให้บริการและดำเนินธุรกรรมทุก ประเภทตามปกติ โดยลูกค้าสามารถติดต่อกับผู้แนะนำการลงทุนและเข้าใช้บริการได้เช่นเดิม โดยพร้อมที่จะให้บริการด้านการลงทุนที่เป็นเลิศครบวงจร เตรียมเชื่อมโยงลูกค้าไทย-จีน ต่อยอดขยายธุรกิจในเอเชีย มุ่งสู่การเติบโตอย่างมั่นคง
***หันมาทาง CMAN ก้อไม่น้อยหน้าใครนะคะคุนข๋า!!! แม่ทัพใหญ่ "หม่อมหลวงจันทรจุฑา จันทรทัต" เปิดกลยุทธ์ 3 พื้นที่ยุทธศาสตร์ หวังยึดตลาดทั้งภูมิภาคตะวันออก ใต้ เหนือ และตะวันตก พร้อมวางเป้าหมายสู่การเป็นผู้นำตลาดปูนไลม์ของประเทศอินเดีย หนุนผลงานไต่อันดับสู่ผู้ผลิตปูนไลม์ครบวงจร Top 5 ของโลกภายในระยะเวลาอันใกล้ (ปัจจุบัน CMAN คือ ผู้ผลิตปูนไลม์ครบวงจรระดับท็อปเทนของโลก ภายใต้แบรนด์ ‘CHEMEMAN’)
***แม่ทัพใหญ่ของ CMAN ประกาศลุยอินเดียเต็มสูบ!! โดยระบุว่าบริษัทฯ ใช้เวลานานกว่า 10 ปี ในการพัฒนาความสัมพันธ์กับคู่ค้าในประเทศอินเดีย จนกระทั่งก้าวสู่การเป็นพันธมิตรทางธุรกิจทั้งในรูปของการร่วมลงทุนเมื่อหลายปีก่อน และความร่วมมือในการสร้างโรงงานเมื่อเร็ว ๆ นี้ ด้วยเล็งเห็นโอกาสในอินเดียมานานแล้ว เพราะอินเดียมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก มีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ความต้องการปูนควิกไลม์ และปูนไฮเดรตไลม์ มีมากกว่า 16 ล้านตันต่อปี ซึ่งเป็นปริมาณความต้องการที่สูงเป็นอันดับ 3 ของโลก
***ที่สำคัญตลาดปูนไลม์ส่วนใหญ่ของอินเดีย พึ่งพาการซื้อจากผู้ผลิตในประเทศเป็นหลักและมีการนำเข้าน้อยกว่า 1 ล้านตันต่อปี เนื่องจากต้นทุนการนำเข้าสูงกว่าการซื้อในประเทศเพราะค่าขนส่งทางเรือและภาษีนำเข้า ดังนั้น การมีโรงงานผลิตปูนไลม์ในประเทศอินเดีย จึงเป็นการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันที่ตอบโจทย์ในระยะยาว ..จุ๊-จุ๊!!! มาถึงตรงนี้เจ๊ขอบอกไว้เลยหุ้น CMAN ต้องเข้าแล้วล่ะ!!! ไม่เก็บตอนนี้จะเก็บตอนไหนคร๊าาาาาาา