นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยเดือนกุมภาพันธ์มีแนวโน้มแกว่งตัวในลักษณะ Sideway ออกข้างจากปัจจัยกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีปรับตัวเหนือระดับ 4% อีกครั้ง ขณะที่ปัจจัยในประเทศนักลงทุนยังติดตามการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนอย่างใกล้ชิด จึงให้กรอบดัชนีที่ 1,350-1,400 จุด
![“โกลเบล็ก” แนะ 7 หุ้นรับตรุษจีน.jpg](https://www.share2trade.com/storage/News%20Today/2024/060224/%E2%80%9C%E0%B9%82%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%A5%E0%B9%87%E0%B8%81%E2%80%9D%20%E0%B9%81%E0%B8%99%E0%B8%B0%207%20%E0%B8%AB%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%A9%E0%B8%88%E0%B8%B5%E0%B8%99.jpg)
ขณะที่ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังมีอยู่ อาทิ สหรัฐได้เปิดฉากโจมตีทางอากาศในอิรักและซีเรีย เพื่อตอบโต้กองกำลังติดอาวุธที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน หลังจากการโจมตีด้วยโดรนได้สังหารทหารสหรัฐ 3 นายที่ฐานทัพในจอร์แดน ทั้งนี้ IMF เตือนว่าสถานการณ์ตึงเครียดโดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่กลุ่มติดอาวุธโจมตีเรือขนส่งสินค้าในทะเลแดงจะส่งผลให้เงินเฟ้อทั่วโลกพุ่งขึ้น และสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจและการค้าโลก
ปัจจัยลบในประเทศมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวไม่เต็มที่ ทั้งนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้มีการศึกษาประเด็นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยหลังวิกฤติโควิด-19 ซึ่งเติบโตต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้าน พบว่ามาจาก 2 ปัจจัย คือ ปัจจัยเชิงวัฏจักรระยะสั้นพบว่าระยะหลังเศรษฐกิจโลกขยายตัวจากภาคบริการเป็นหลัก ขณะที่ภาคการผลิตชะลอตัว และประเด็นปัญหาในเรื่องภาระหนี้ครัวเรือนสูง ด้านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้เผยแพร่ข้อมูลสรุปมูลค่าซื้อขายหลักทรัพย์สะสมตามกลุ่มนักลงทุนตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-2 กุมภาพันธ์ 2567 พบว่า กลุ่มนักลงทุนที่ขายสุทธิ ได้แก่ นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 26,696.47 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิ 136.25 ล้านบาท สถาบันในประเทศขายสุทธิ 2,107.92 ล้านบาท ขณะที่มีเพียงกลุ่มนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 29,940.64 ล้านบาท
ดังนั้น แนะนำกลยุทธ์การลงทุนหุ้นที่ได้ประโยชน์จากเทศกาลเทศกาลตรุษจีน ได้แก่ GFPT, TFG, CPF, SPA, AOT, ERW และ CENTEL
![“โกลเบล็ก” แนะ 7 หุ้นรับตรุษจีน.jpg](https://www.share2trade.com/storage/News%20Today/2024/060224/%E2%80%9C%E0%B9%82%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%A5%E0%B9%87%E0%B8%81%E2%80%9D%20%E0%B9%81%E0%B8%99%E0%B8%B0%207%20%E0%B8%AB%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%A9%E0%B8%88%E0%B8%B5%E0%B8%99.jpg)
ขณะที่ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังมีอยู่ อาทิ สหรัฐได้เปิดฉากโจมตีทางอากาศในอิรักและซีเรีย เพื่อตอบโต้กองกำลังติดอาวุธที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน หลังจากการโจมตีด้วยโดรนได้สังหารทหารสหรัฐ 3 นายที่ฐานทัพในจอร์แดน ทั้งนี้ IMF เตือนว่าสถานการณ์ตึงเครียดโดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่กลุ่มติดอาวุธโจมตีเรือขนส่งสินค้าในทะเลแดงจะส่งผลให้เงินเฟ้อทั่วโลกพุ่งขึ้น และสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจและการค้าโลก
ปัจจัยลบในประเทศมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวไม่เต็มที่ ทั้งนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้มีการศึกษาประเด็นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยหลังวิกฤติโควิด-19 ซึ่งเติบโตต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้าน พบว่ามาจาก 2 ปัจจัย คือ ปัจจัยเชิงวัฏจักรระยะสั้นพบว่าระยะหลังเศรษฐกิจโลกขยายตัวจากภาคบริการเป็นหลัก ขณะที่ภาคการผลิตชะลอตัว และประเด็นปัญหาในเรื่องภาระหนี้ครัวเรือนสูง ด้านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้เผยแพร่ข้อมูลสรุปมูลค่าซื้อขายหลักทรัพย์สะสมตามกลุ่มนักลงทุนตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-2 กุมภาพันธ์ 2567 พบว่า กลุ่มนักลงทุนที่ขายสุทธิ ได้แก่ นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 26,696.47 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิ 136.25 ล้านบาท สถาบันในประเทศขายสุทธิ 2,107.92 ล้านบาท ขณะที่มีเพียงกลุ่มนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 29,940.64 ล้านบาท
ดังนั้น แนะนำกลยุทธ์การลงทุนหุ้นที่ได้ประโยชน์จากเทศกาลเทศกาลตรุษจีน ได้แก่ GFPT, TFG, CPF, SPA, AOT, ERW และ CENTEL