บมจ. ยูโร ครีเอชั่นส์ ประกอบธุรกิจตัวแทนนำเข้าและจัดจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านครบวงจรจากแบรนด์ชั้นนำระดับลักซูรี่ ภายใต้ชื่อร้าน “Euro Creations” และร้านภายใต้แบรนด์อื่นๆ พร้อมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ 14 ก.พ. นี้ ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 3,233 ล้านบาท โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “EURO”
นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ mai ยินดีต้อนรับ บมจ. ยูโร ครีเอชั่นส์ เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายใน mai ภายใต้กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “EURO” ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567
EURO เป็นตัวแทนนำเข้าและจัดจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านครบวงจรจากแบรนด์ชั้นนำระดับลักซูรี่ ภายใต้ชื่อร้าน “Euro Creations” และร้านภายใต้แบรนด์อื่นๆ ซึ่งครอบคลุมทั้งเฟอร์นิเจอร์ชุดครัว เฟอร์นิเจอร์สำนักงาน เฟอร์นิเจอร์นอกอาคาร ผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าแสงสว่าง เครื่องนอน เครื่องออกกำลังกาย และสินค้าหรืออุปกรณ์เทคโนโลยี โดยเป็นตัวแทนนำเข้าและจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย 16 แบรนด์ อาทิ Calligaris, Cassina, Christopher Guy, และ Technogym เป็นต้น และเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าทั่วไป 13 แบรนด์ ปัจจุบันบริษัทมีโชว์รูม 5 แห่งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร อาทิ Euro Creations ที่ทองหล่อ, Natuzzi Italia ที่สยามพารากอน เป็นต้น ซึ่งรองรับทั้งกลุ่มลูกค้าทั่วไปและกลุ่มลูกค้าธุรกิจ โดยในงวด 9 เดือนแรกปี 2566 บริษัทมีรายได้จากกลุ่มลูกค้าทั่วไป : กลุ่มลูกค้าธุรกิจ : อื่นๆ ในสัดส่วนประมาณร้อยละ 67 : 32 : 1 ตามลำดับ
EURO มีทุนชำระหลังเสนอขาย 152.5 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 250 ล้านหุ้นและหุ้นสามัญเพิ่มทุน 55 ล้านหุ้น โดยผู้ถือหุ้นเดิมจะนำหุ้นออกขาย 23 ล้านหุ้น เป็นการเสนอขายต่อบุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ 49.06 ล้านหุ้น นักลงทุนสถาบัน 15 ล้านหุ้น ผู้มีอุปการคุณของบริษัท 11.7 ล้านหุ้น และกรรมการ ผู้บริหารฯของบริษัท 2.24 ล้านหุ้น เมื่อวันที่ 31 มกราคมและ 1 – 2 กุมภาพันธ์ 2567 ในราคาหุ้นละ 10.60 บาท คิดเป็นมูลค่าการเสนอขาย IPO 826.8 ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 3,233 ล้านบาท ทั้งนี้การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO ได้มีการพิจารณาจากการสำรวจความต้องการซื้อหลักทรัพย์ (Book Building) และพิจารณาอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (Price to Earnings Ratio: P/E Ratio) เท่ากับ 18.13 เท่า ซึ่งคำนวณจากกำไรสุทธิ 12 เดือนย้อนหลัง (ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2566) เท่ากับ 178.30 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วภายหลังการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ (fully diluted) จะได้กำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.58 บาท โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและเป็นผู้จัดการการ จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
นายเควิน กัมบีร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ยูโร ครีเอชั่นส์ เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลากว่า 25 ปี บริษัทให้ความสำคัญกับการสรรหาสินค้าและสร้างประสบการณ์ที่ดีในการนำเสนอสินค้าตลอดเส้นทางของลูกค้า (Customer Journey) เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ของการใช้ชีวิต โดยผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้และความชำนาญ สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ในทุกขั้นตอนของการตกแต่ง ทั้งบ้าน โรงแรม อาคารสำนักงาน และสปอร์ตคลับ สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุน บริษัทจะนำไปลงทุนขยายธุรกิจ โดยการก่อสร้างโชว์รูมแห่งใหม่จำนวน 3 แห่ง ตั้งอยู่บนถนนทองหล่อ 2 แห่ง และจังหวัดภูเก็ต 1 แห่ง ใช้ชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานของบริษัท
EURO มีผู้ถือหุ้นใหญ่หลัง IPO คือ ครอบครัวกัมบีร์ ถือหุ้นร้อยละ 59.54 และครอบครัวอมรรัตนเวช ถือหุ้นร้อยละ 14.89 บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 ของกำไรสุทธิจากงบเฉพาะกิจการภายหลังจากหักภาษีและเงินทุนสำรองตามกฎหมาย
นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ mai ยินดีต้อนรับ บมจ. ยูโร ครีเอชั่นส์ เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายใน mai ภายใต้กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “EURO” ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567
EURO เป็นตัวแทนนำเข้าและจัดจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านครบวงจรจากแบรนด์ชั้นนำระดับลักซูรี่ ภายใต้ชื่อร้าน “Euro Creations” และร้านภายใต้แบรนด์อื่นๆ ซึ่งครอบคลุมทั้งเฟอร์นิเจอร์ชุดครัว เฟอร์นิเจอร์สำนักงาน เฟอร์นิเจอร์นอกอาคาร ผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าแสงสว่าง เครื่องนอน เครื่องออกกำลังกาย และสินค้าหรืออุปกรณ์เทคโนโลยี โดยเป็นตัวแทนนำเข้าและจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย 16 แบรนด์ อาทิ Calligaris, Cassina, Christopher Guy, และ Technogym เป็นต้น และเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าทั่วไป 13 แบรนด์ ปัจจุบันบริษัทมีโชว์รูม 5 แห่งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร อาทิ Euro Creations ที่ทองหล่อ, Natuzzi Italia ที่สยามพารากอน เป็นต้น ซึ่งรองรับทั้งกลุ่มลูกค้าทั่วไปและกลุ่มลูกค้าธุรกิจ โดยในงวด 9 เดือนแรกปี 2566 บริษัทมีรายได้จากกลุ่มลูกค้าทั่วไป : กลุ่มลูกค้าธุรกิจ : อื่นๆ ในสัดส่วนประมาณร้อยละ 67 : 32 : 1 ตามลำดับ
EURO มีทุนชำระหลังเสนอขาย 152.5 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 250 ล้านหุ้นและหุ้นสามัญเพิ่มทุน 55 ล้านหุ้น โดยผู้ถือหุ้นเดิมจะนำหุ้นออกขาย 23 ล้านหุ้น เป็นการเสนอขายต่อบุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ 49.06 ล้านหุ้น นักลงทุนสถาบัน 15 ล้านหุ้น ผู้มีอุปการคุณของบริษัท 11.7 ล้านหุ้น และกรรมการ ผู้บริหารฯของบริษัท 2.24 ล้านหุ้น เมื่อวันที่ 31 มกราคมและ 1 – 2 กุมภาพันธ์ 2567 ในราคาหุ้นละ 10.60 บาท คิดเป็นมูลค่าการเสนอขาย IPO 826.8 ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 3,233 ล้านบาท ทั้งนี้การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO ได้มีการพิจารณาจากการสำรวจความต้องการซื้อหลักทรัพย์ (Book Building) และพิจารณาอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (Price to Earnings Ratio: P/E Ratio) เท่ากับ 18.13 เท่า ซึ่งคำนวณจากกำไรสุทธิ 12 เดือนย้อนหลัง (ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2566) เท่ากับ 178.30 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วภายหลังการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ (fully diluted) จะได้กำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.58 บาท โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและเป็นผู้จัดการการ จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
นายเควิน กัมบีร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ยูโร ครีเอชั่นส์ เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลากว่า 25 ปี บริษัทให้ความสำคัญกับการสรรหาสินค้าและสร้างประสบการณ์ที่ดีในการนำเสนอสินค้าตลอดเส้นทางของลูกค้า (Customer Journey) เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ของการใช้ชีวิต โดยผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้และความชำนาญ สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ในทุกขั้นตอนของการตกแต่ง ทั้งบ้าน โรงแรม อาคารสำนักงาน และสปอร์ตคลับ สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุน บริษัทจะนำไปลงทุนขยายธุรกิจ โดยการก่อสร้างโชว์รูมแห่งใหม่จำนวน 3 แห่ง ตั้งอยู่บนถนนทองหล่อ 2 แห่ง และจังหวัดภูเก็ต 1 แห่ง ใช้ชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานของบริษัท
EURO มีผู้ถือหุ้นใหญ่หลัง IPO คือ ครอบครัวกัมบีร์ ถือหุ้นร้อยละ 59.54 และครอบครัวอมรรัตนเวช ถือหุ้นร้อยละ 14.89 บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 ของกำไรสุทธิจากงบเฉพาะกิจการภายหลังจากหักภาษีและเงินทุนสำรองตามกฎหมาย