ภาพรวมตลาดหุ้นไทยในช่วงเทศกาลวาเลนไทน์ ยังคงผันผวนต่อเนื่อง ดัชนียังไม่สามารถปรับขึ้นมายืนเหนือระดับ 1,400 จุดได้ง่ายนัก ขณะที่บล.ฟินันเซียไซรัส ระบุว่า SET Index จะแกว่งตัว Sideways Down ในกรอบ 1,380-1,395 จุด จากบรรยากาศการลงทุนที่เป็นลบหลังตัวเลขเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯเดือนมกราคม ที่ออกมาสูงกว่าคาด โดย Headline +0.3% m-m, +3.1% y-y ส่วน Core +0.4% m-m, +3.9% y-y ซึ่งเกิดจากภาคบริการเป็นหลักโดยเฉพาะค่าเช่า ส่งผลให้ Bond Yield 10 พุ่งขึ้นแตะ 4.33% สูงสุดนับตั้งแต่เดือน พฤศจิกายน 23 ขณะที่ Dollar Index แข็งค่าแรง กดดันสกุลเงินเอเชีย นอกจากนี้ตลาดยังทำให้ตลาดเริ่มไม่มั่นใจต่อช่วงเวลาในการลดดอกเบี้ยของ FED แต่ค่อนข้างแน่ว่าจะไม่เกิดขึ้นในการประชุมเดือนมีนาคม
ด้านปัจจัยในประเทศจะมีการประชุมบอร์ดเงินดิจิทัล ขณะที่สภาพัฒน์ฯจะประกาศตัวเลข GDP 4Q23 วันจันทร์หน้า ส่วนการประกาศผลประกอบการ 4Q23 บจ.เริ่มหนาแน่นขึ้น แต่ภาพรวมยังดูไม่สดใสนัก ซึ่งต้องติดตามการปรับประมาณการกำไรบจ.ปี 2024 ว่าจะขยับลงมากน้อยเพียงใด ระยะสั้นเน้นเลือกลงทุนในหุ้นที่คาดประกาศกำไรแข็งแกร่งและมีปัจจัยบวกเฉพาะตัว เรายังเชื่อว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยได้ Bottom ในปี 2023 แล้วก่อนทยอยเร่งตัวขึ้นในปี 2024 โดยยังคาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ รวมถึงงบประมาณปี 2024 ที่คาดว่าจะผ่านใน 2Q24 เรายังมองดัชนีที่ระดับ 1,350-1,360 จุด ยังน่าสนใจในการทยอยสะสมระยะกลาง-ยาว
ทั้งนี้จากการสำรวจข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในส่วนของการลงทุนของ "นเรศ งามอภิชน " นักลงทุนรายใหญ่ ซึ่งปัจจุบันมีพอร์ตลงทุนในหุ้นจำนวน 7 บริษัท ประกอบด้วย
เมื่อพิจารณาการถือหุ้นของ"นเรศ งามอภิชน" โดยนำมาเปรียบเทียบกับการถือหุ้นในครั้งล่าสุดพบว่า เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2567 ได้เพิ่มสัดส่วนการถือครองหุ้นNOBLE จำนวน 17,000,000 หุ้น คิดเป็น 1.24% จากเดิมไม่ปรากฎการถือครองหุ้น รวมทั้งยังพบว่า หากย้อนไปในช่วง 2 ปีก่อน บุคคลดังกล่าวในปี 2564ได้เคยถือหุ้น NOBLE จำนวน 54,000,000 หุ้นคิดเป็น 3.94% ดังนั้นสะท้อนให้เห็นว่า "นเรศ งามอภิชน "ได้กลับเข้ามาซื้อหุ้นดังกล่าวอีกครั้งในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา
สำหรับโครงสร้างผู้ถือหุ้น NOBLE ล่าสุด ประกอบด้วย
ทั้งนี้ที่ผ่านมา บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOBLE ระบุว่าใน ปี 2567 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้รวมที่ระดับ 14,000 ล้านบาท และ ยอดขาย (Pre-sale) ที่ระดับ 18,000 ล้านบาท รวมถึงมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่จำนวน 7 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 14,310 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบรวมถึงโครงการคอนโดมิเนียมแบบ Low Rise จำนวน 5 โครงการ มูลค่ารวม 6,710 ล้านบาท และ โครงการคอนโดมิเนียมแนวสูงจำนวน 2 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 7,600 ล้านบาท โดยปัจจุบัน มีสินค้าที่พร้อมอยู่ และ อยู่ระหว่างก่อสร้างในมือมูลค่ารวมกว่า 34,400 ล้านบาท
บริษัทวางงบจัดซื้อที่ดินปีนี้ 3,000 ล้านบาท เพื่อจัดซื้อที่ดินเพิ่ม 3 แปลง ประกอบด้วย 1. ที่ดินบนทำเล พระราม 9 เพื่อจะพัฒนาเป็นโครงการคอนโดมิเนียมแนวสูง มูลค่าเกือบหมื่นล้านบาท 2. ที่ดินทำเลย่านประชาชื่น เพื่อจะพัฒนาเป็นโครงการคอนโดมิเนียม Low Rise และ 3.ที่ดินบนทำเลบางนา-ตราด ซึ่งเป็นการร่วมทุนกับกลุ่ม BTS และ สหพัฒน์ เพื่อพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยว
บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าต่อยอดธุรกิจให้มีความครบวงจรเต็มรูปแบบมากขึ้น โดยการขยายสู่ธุรกิจบริหารนิติบุคคล ธุรกิจบริการฝากขาย-ปล่อยเช่า รวมถึงธุรกิจการบริการจัดหาเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งจะเป็นการดำเนินการภายใต้บริษัท เซิร์ฟ โซลูชั่น จำกัด และมีแผนนำเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ใน 3 ปีข้างหน้า
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2567 ที่ผ่านมาได้มีมติอนุมัติปันผลระหว่างกาลของผลการดำเนินงานงวด 3 เดือนของไตรมาส 3/66 จำนวน 0.20 บาทต่อหุ้น หรือ คิดเป็นอัตราการจ่ายปันผล (Dividend Payout Ratio) ที่ 51.2% โดยกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) ในวันที่ 29 มกราคม 2567 และ จ่ายเงินปันผลวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567
เมื่อนำมาคำนวณเงินปันผลระหว่างกาลจะพบว่า "นเรศ งามอภิชน” จะได้รับเงินปันผลจากการเข้ามาถือหุ้นในครั้งนี้ประมาณ 3,400,000 ล้านบาท ขณะเดียวกันกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่แต่ละรายจะได้รับเงินปันผลดังนี้
ด้านปัจจัยในประเทศจะมีการประชุมบอร์ดเงินดิจิทัล ขณะที่สภาพัฒน์ฯจะประกาศตัวเลข GDP 4Q23 วันจันทร์หน้า ส่วนการประกาศผลประกอบการ 4Q23 บจ.เริ่มหนาแน่นขึ้น แต่ภาพรวมยังดูไม่สดใสนัก ซึ่งต้องติดตามการปรับประมาณการกำไรบจ.ปี 2024 ว่าจะขยับลงมากน้อยเพียงใด ระยะสั้นเน้นเลือกลงทุนในหุ้นที่คาดประกาศกำไรแข็งแกร่งและมีปัจจัยบวกเฉพาะตัว เรายังเชื่อว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยได้ Bottom ในปี 2023 แล้วก่อนทยอยเร่งตัวขึ้นในปี 2024 โดยยังคาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ รวมถึงงบประมาณปี 2024 ที่คาดว่าจะผ่านใน 2Q24 เรายังมองดัชนีที่ระดับ 1,350-1,360 จุด ยังน่าสนใจในการทยอยสะสมระยะกลาง-ยาว
ทั้งนี้จากการสำรวจข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในส่วนของการลงทุนของ "นเรศ งามอภิชน " นักลงทุนรายใหญ่ ซึ่งปัจจุบันมีพอร์ตลงทุนในหุ้นจำนวน 7 บริษัท ประกอบด้วย
หุ้น | จำนวน (หุ้น) | %ถือหุ้น |
---|---|---|
AJ | 8,600,000 | 1.95 |
BAM | 28,000,000 | 0.87 |
NOBLE | 17,000,000 | 1.24 |
PORT | 11,000,000 | 1.81 |
ROCTEC | 853,000,000 | 10.51 |
TPIPL | 864,000,000 | 4.56 |
TPIPP | 45,000,000 | 0.54 |
เมื่อพิจารณาการถือหุ้นของ"นเรศ งามอภิชน" โดยนำมาเปรียบเทียบกับการถือหุ้นในครั้งล่าสุดพบว่า เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2567 ได้เพิ่มสัดส่วนการถือครองหุ้นNOBLE จำนวน 17,000,000 หุ้น คิดเป็น 1.24% จากเดิมไม่ปรากฎการถือครองหุ้น รวมทั้งยังพบว่า หากย้อนไปในช่วง 2 ปีก่อน บุคคลดังกล่าวในปี 2564ได้เคยถือหุ้น NOBLE จำนวน 54,000,000 หุ้นคิดเป็น 3.94% ดังนั้นสะท้อนให้เห็นว่า "นเรศ งามอภิชน "ได้กลับเข้ามาซื้อหุ้นดังกล่าวอีกครั้งในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา
สำหรับโครงสร้างผู้ถือหุ้น NOBLE ล่าสุด ประกอบด้วย
หุ้น | จำนวน (หุ้น) | %ถือหุ้น |
---|---|---|
นาย ธงชัย บุศราพันธ์ | 275,166,021 | 20.09 |
RAFFLES NOMINEES (PTE) LIMITED | 266,522,177 | 19.46 |
บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) | 118,200,000 | 8.63 |
DBS BANK LTD. AC DBS NOMINEES-PB CLIENTS | 31,644,600 | 2.31 |
THE BANK OF NEW YORK (NOMINEES) LIMITED | 22,255,977 | 1.63 |
บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด | 19,253,494 | 1.41 |
นาย นเรศ งามอภิชน | 17,000,000 | 1.24 |
นาย กิตติณัฐ ทีคะวรรณ | 10,950,700 | 0.8 |
Mr. SUPOL WATTANAVEKIN | 10,679,300 | 0.78 |
บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) | 8,765,300 | 0.64 |
ทั้งนี้ที่ผ่านมา บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOBLE ระบุว่าใน ปี 2567 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้รวมที่ระดับ 14,000 ล้านบาท และ ยอดขาย (Pre-sale) ที่ระดับ 18,000 ล้านบาท รวมถึงมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่จำนวน 7 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 14,310 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบรวมถึงโครงการคอนโดมิเนียมแบบ Low Rise จำนวน 5 โครงการ มูลค่ารวม 6,710 ล้านบาท และ โครงการคอนโดมิเนียมแนวสูงจำนวน 2 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 7,600 ล้านบาท โดยปัจจุบัน มีสินค้าที่พร้อมอยู่ และ อยู่ระหว่างก่อสร้างในมือมูลค่ารวมกว่า 34,400 ล้านบาท
บริษัทวางงบจัดซื้อที่ดินปีนี้ 3,000 ล้านบาท เพื่อจัดซื้อที่ดินเพิ่ม 3 แปลง ประกอบด้วย 1. ที่ดินบนทำเล พระราม 9 เพื่อจะพัฒนาเป็นโครงการคอนโดมิเนียมแนวสูง มูลค่าเกือบหมื่นล้านบาท 2. ที่ดินทำเลย่านประชาชื่น เพื่อจะพัฒนาเป็นโครงการคอนโดมิเนียม Low Rise และ 3.ที่ดินบนทำเลบางนา-ตราด ซึ่งเป็นการร่วมทุนกับกลุ่ม BTS และ สหพัฒน์ เพื่อพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยว
บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าต่อยอดธุรกิจให้มีความครบวงจรเต็มรูปแบบมากขึ้น โดยการขยายสู่ธุรกิจบริหารนิติบุคคล ธุรกิจบริการฝากขาย-ปล่อยเช่า รวมถึงธุรกิจการบริการจัดหาเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งจะเป็นการดำเนินการภายใต้บริษัท เซิร์ฟ โซลูชั่น จำกัด และมีแผนนำเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ใน 3 ปีข้างหน้า
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2567 ที่ผ่านมาได้มีมติอนุมัติปันผลระหว่างกาลของผลการดำเนินงานงวด 3 เดือนของไตรมาส 3/66 จำนวน 0.20 บาทต่อหุ้น หรือ คิดเป็นอัตราการจ่ายปันผล (Dividend Payout Ratio) ที่ 51.2% โดยกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) ในวันที่ 29 มกราคม 2567 และ จ่ายเงินปันผลวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567
เมื่อนำมาคำนวณเงินปันผลระหว่างกาลจะพบว่า "นเรศ งามอภิชน” จะได้รับเงินปันผลจากการเข้ามาถือหุ้นในครั้งนี้ประมาณ 3,400,000 ล้านบาท ขณะเดียวกันกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่แต่ละรายจะได้รับเงินปันผลดังนี้
ผู้ถือหุ้น | มูลค่าเงินปันผล (บ.) |
---|---|
นาย ธงชัย บุศราพันธ์ | 55,033,204 |
RAFFLES NOMINEES (PTE) LIMITED | 53,304,435 |
บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) | 23,640,000 |
THE BANK OF NEW YORK (NOMINEES) LIMITED | 4,451,195 |
บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด | 3,850,699 |
นาย นเรศ งามอภิชน | 3,400,000 |
นาย กิตติณัฐ ทีคะวรรณ | 2,190,140 |
Mr. SUPOL WATTANAVEKIN | 2,135,860 |
บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) (2) โดยบลจ.บางกอกแคปปิตอล จก. | 156,087,514 |
รวม | 1,753,060 |