บล.คิงส์ฟอร์ด ประเมินดัชนี SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1,380 – 1,400 หลังวานนี้ปรับฐานรับข่าวเฟดอาจยังไม่รีบลดดอกเบี้ย โดยดัชนีได้แรงหนุนจากภาคบริโภค & ท่องเที่ยวปรับขึ้นดีตามนักท่องเที่ยวต่างชาติแนะนำทยอยซื้อกลุ่มท่องเที่ยว AOT,AAV,BA,MINT/ ค้าปลีก CPALL,CPAXT,GLOBAL อาหาร TU,SNNP เก็งกำไรกลุ่มคริปโท JTS,BROOK,TTA,XPG พร้อมแนะนำ
ICHI (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 19.80 บาท)
แนวโน้มกำไร 4Q66 ลดลง QoQ จากที่เป็นช่วง Low season แต่จะเติบโตได้ต่อเนื่องจากยอดขายทั้งในประเทศและต่างประเทศที่ดีขึ้น ส่วนแนวโน้มปี 67 ผู้บริหารคาดรายได้โต +10% เป็น 8.8 พันล้านบาทโดยในช่วง 1Q67-2Q67 คาดเห็นกำไรโตได้จากการเข้าสู่ฤดูร้อน ประกอบแรงกดดันราคาน้ำตาลและ PET Resin ที่ปรับลดลง นอกจากนี้ผู้บริหารมองตลาดชาเขียวพร้อมดื่มในประเทศไทยยังสามารถเติบโต พร้อมทำการตลาดสินค้ากลุ่มอื่นในกลุ่ม Healthy Trend กลุ่มเครื่องดื่มน้ำอัดลม รวมถึงธุรกิจรับจ้างผลิต เพื่อเดินหน้าสู่ยอดขาย 1 หมื่นล้านบาท ภายใน 2 (ปี 68)
BDMS (ซื้อ/ ราคาเป้าหมายปี67 35.00 บาท)
เบื้องต้น ประเมินกำไรสุทธิ 4Q66 ที่ 3,480 ลบ. (+11.79%YoY, -10.53%QoQ) ภาพ QoQ ปรับตัวลดลงตามปัจจัยฤดูกาล ส่วน YoY โตได้ดีจากการกลับมาของผู้ป่วยต่างชาติ และมีแรงหนุนจากกลุ่มผู้ป่วยทางเดินหายใจทั้งฝุ่น PM 2.5 และการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ ส่วนประเด็นขับเคลื่อนการดำเนินงานในช่วงถัดไปปี67 คาดจะมาจาก
1.จำนวนเตียงที่สูงขึ้นราว 200 เตียง (ร.พ.พญาไทยศรีราชา 100 เตียง/ ร.พ.เด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล 100 เตียง)
2.การปรับเพิ่มโควตาประกันสังคมขึ้นเป็น 1.5 ล้านราย จากเดิม 1 ล้านราย
3.กลุ่มผู้ป่วยต่างชาติในตลาดใหม่อย่างซาอุฯ และ ม.ของภาครัฐฯที่อำนวยนักท่องเที่ยวต่างชาติ (ฟรีวีซ่าจีน)